ตราด…จังหวัดเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของทะเลตะวันออก เกาะน้อยใหญ่สลับกับท้องฟ้าและน้ำทะเลใสสะอาด อาหารทะเลสดรสชาติดี และวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างอบอุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลนั่งริมทะเล สายลุยธรรมชาติ หรือสายซึมซับวิถีท้องถิ่น ตราดก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้คุณ
10 จุดเช็กอินห้ามพลาด ที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมใคร ๆ ถึงหลงรักตราด
1. น้ำตกคลองพลู
บนเกาะช้าง จังหวัดตราด จะมีมุมสงบที่รอให้คุณไปฟังเสียงธรรมชาติใกล้ ๆ กันที่ น้ำตกคลองพลู เส้นทางเดินเท้าระยะสั้นพาคุณลอดร่มเงาไม้ใหญ่สู่สายธารเย็นใส น้ำตกที่ไหลลดหลั่นเป็นหลายชั้นก่อนรวมตัวเป็นแอ่งน้ำธรรมชาติให้แช่เท้า พักใจ ได้ตลอดทั้งปี ช่วงหน้าฝนสายน้ำจะชัดเจนขึ้นเป็นพิเศษ แค่อย่าลืมระวังพื้นหินลื่นเล็กน้อยก็พอ
2. หาดบานชื่น
ถ้าอยากหาที่พักใจจากความวุ่นวาย ลองมาที่หาดบานชื่น อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่นี่เป็นชายหาดเงียบ ๆ จุดเด่นคือความสงบและวิวทะเลที่ทอดกว้างสุดสายตา มีเพียงชายหาดสีอ่อนกับน้ำทะเลใสให้คุณได้เดินเล่นตามสบาย สูดลมทะเลให้เต็มปอด หรือแค่นั่งมองพระอาทิตย์ค่อย ๆ ลับฟ้า ให้คุณได้อยู่กับช่วงเวลาตรงหน้าอย่างแท้จริง
3. ตลาดไร่รั้ง
ตลาดไร่รั้ง ตลาดเก่าในเมืองตราดที่ยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ครบ ตั้งแต่เช้ามืดที่เต็มไปด้วยของสดจากทะเลและผักพื้นบ้าน จนถึงค่ำที่แปรเปลี่ยนเป็นตลาดโต้รุ่งคึกคัก อาหารพื้นถิ่นอย่างก๋วยเตี๋ยวทะเล ข้าวมันไก่โบราณ หรือสละตราดที่ขึ้นชื่อ ถูกจัดเรียงให้เลือกชิมท่ามกลางเสียงผู้คนคุยกันอย่างเป็นกันเอง บรรยากาศอบอุ่น เรียบง่าย ที่ทำให้คุณได้รู้จักตราดผ่านจังหวะชีวิตจริง ๆ ของผู้คนที่นี่
4. พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด
อาคารไม้เก่าแก่กลางเมืองที่เคยใช้เป็นศาลากลางจังหวัด ยังคงยืนสงบอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตราด ทุกวันนี้ที่นี่กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองอย่างละเมียดละไม ตั้งแต่ประวัติศาสตร์การก่อร่างสร้างเมือง ความหลากหลายของผู้คนและชาติพันธุ์ ไปจนถึงวิถีชีวิตเรียบง่ายกับเหตุการณ์สำคัญที่เคยเกิดขึ้น การเดินชมทีละห้องจึงไม่ใช่แค่การมองของจัดแสดง แต่คือการได้ฟังเสียงของเมืองที่บอกเล่ามาจากอดีต ทำให้คุณมองตราดในมิติที่ลึกซึ้งและนุ่มนวลขึ้น
5. บ้านสลักคอก
หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยแนวป่าชายเลนเขียวชอุ่ม บรรยากาศที่นี่เหมาะสำหรับการพายคายัคไปตามลำคลองแคบ ฟังเสียงน้ำกระทบเรือ คลอด้วยเสียงลมและชีวิตริมฝั่งคลองของคนท้องถิ่น ทุกจังหวะการพายคือการซึมซับความสงบ เรียบง่าย และใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง
6. หาดไม้รูด
หาดไม้รูด หรือ “หาดสำราญ” ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองใหญ่ เป็นชายหาดเงียบสงบที่มีหินสลับทราย และมีจุดชมวิวทอดออกสู่ทะเล มองเห็นเกาะกูดอยู่ไกล ๆ ที่นี่ไม่มีความพลุกพล่าน จึงเหมาะกับการเดินเล่น นอนอ่านหนังสือ หรือปล่อยใจไปกับเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอย่างเป็นจังหวะ
7. ชุมชนประมงแหลมศอก
แหลมศอกเป็นชุมชนประมงเก่าแก่ริมชายฝั่งตราด ที่นี่คุณจะได้เห็นภาพเรือประมงเล็กใหญ่ทยอยเทียบท่าในแต่ละวัน ชาวบ้านนำกุ้ง หอย ปู ปลา หรือปลากะตักสด ๆ ขึ้นจากเรือมาขายริมท่า บางครอบครัวยังทำปลากะตักตากแห้งซึ่งเป็นของดีประจำถิ่นให้ได้ลองชิม การได้เดินชมตลาดริมท่าและพูดคุยกับชาวประมง ช่วยให้สัมผัสบรรยากาศจริงของชีวิตริมทะเลตราดที่เรียบง่ายและจริงใจ
8. วัดโยธานิมิต
วัดโยธานิมิต หรือที่ชาวตราดเรียกว่าวัดโบสถ์ เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตราด ภายในมีวิหารไม้โบราณและจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่แบบอยุธยา เป็นสถานที่ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุสำคัญ เช่น รอยพระพุทธบาทและตู้ลายรดน้ำ แม้จะอยู่ท่ามกลางความคึกคักของเมือง แต่เมื่อก้าวเข้ามาภายใน คุณจะพบความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการสักการะพระประธาน หยุดพักใจ และมองเมืองตราดจากอีกมุมที่อ่อนโยนกว่าเดิม
9. เกาะกระดาด
ไม่ไกลจากเกาะหมากคือเกาะกระดาด เกาะเล็กขนาดราว 2.8 ตารางกิโลเมตร ที่โดดเด่นด้วยความเงียบสงบและธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์ ไฮไลต์สำคัญคือ “ฝูงกวาง” ที่อาศัยอยู่บนเกาะอย่างอิสระมานานหลายสิบปี การได้เห็นกวางเดินเล่นตามทุ่งหญ้าและชายหาดคือประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ เกาะยังมีหาดทรายขาว น้ำใส และแนวปะการังให้ดำน้ำชม ทำให้เกาะกระดาดเป็นมุมมองใหม่ของทะเลตราดที่ต่างออกไปจากเกาะหลัก
10. เทศกาลระกำหวาน & ของดีเมืองตราด
ทุกปลายพฤษภาคมถึงต้นมิถุนายน ตราดจะเต็มไปด้วยสีสันจากงานเทศกาล “ระกำหวาน & ของดีเมืองตราด” ที่จัดขึ้นบริเวณสนามหน้าศาลากลาง งานนี้รวบรวมผลผลิตชุมชนและของขึ้นชื่อของจังหวัดมาไว้ในที่เดียว ไฮไลต์คือระกำหวาน ผลไม้ประจำถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีการประกวดผลไม้ การแสดงพื้นบ้าน ขบวนแห่ผลไม้ และนิทรรศการชุมชนที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น งานนี้จึงเป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสและเรียนรู้วิถีชีวิตตราดผ่านผลผลิตแท้จริงของชุมชน
เคล็ดลับในการเที่ยวตราด
- ช่วงน่าเที่ยว : พฤศจิกายน–กุมภาพันธ์ คือฤดูที่อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าใส เหมาะสำหรับการเที่ยวทั้งเกาะและชายฝั่ง
- เตรียมของใช้ : พกครีมกันแดด แว่นกันแดด และหมวกติดตัวไว้ จะช่วยให้เที่ยวได้สบายขึ้น
- เรื่องเงินสด : พื้นที่ชุมชนเล็ก ๆ หรือเกาะบางแห่งอาจไม่มีจุดรับสแกนจ่าย ควรพกเงินสดไว้เผื่อใช้
- ที่พัก : ถ้ามาในช่วงไฮซีซัน การจองที่พักล่วงหน้าจะช่วยให้ไม่พลาดมุมที่อยากพักผ่อน
สรุป: ทริปเที่ยวตราด
10 จุดเช็กอินแต่ละจุด บอกเลยว่าจะทำให้คิดถึงตราดไปอีกนาน ทั้งอาหารอร่อย ที่เที่ยวสวย กิจกรรมหลากหลาย การเดินทางง่ายนิดเดียว บินตรงไปตราดกับบางกอกแอร์เวย์ส ผู้โดยสารทุกท่านสามารถเข้าใช้ห้องรับรองพิเศษที่สนามบิน พร้อมมอบน้ำหนักสัมภาระให้ถึง 20 กก. และบริการมื้ออาหารแสนอร่อยบนเครื่องบิน ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงก็ถึงตราดเลย นั่งเครื่องสบาย ๆ เก็บแรงไปเที่ยวให้จุใจ
