สบายดี วันนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสความสงบและวัฒนธรรมอันงดงามของประเทศลาวกันที่ ‘หลวงพระบาง’ เมืองทางภาคเหนือของลาว ใครมาที่นี่ต้องหลงรักความสโลว์ไลฟ์ อากาศที่เย็นสบาย และความเป็นมิตรของผู้คน ทริปนี้เราจะมาจัดกระเป๋าเตรียมแผนเที่ยวหลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน จะมีกิจกรรมอะไรน่าสนใจ สถานที่เด็ดที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1: เที่ยวชมมรดกทางวัฒนธรรม
เช้า: วัดเชียงทอง
วัดเชียงทอง เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศ์หลวงพระบาง และราชวงศ์ลาว สร้างในศตวรรษที่ 16 สถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนือ มีวิวสวยงามและอากาศเย็นสบายจากแม่น้ำโขง ไฮไลต์คือ ต้นไม้กระจกประดับสีด้านหลังสิมวัดเชียงทอง เป็นงานศิลปะเก่าแก่ที่ไม่ควรพลาด
เที่ยง: พิพิธภัณฑ์พระราชวัง
หลบร้อนกันที่พิพิธภัณฑ์พระราชวัง เดิมเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เป็นที่เก็บรวบรวมสิ่งของจากอดีตของราชวงศ์ รวมถึงพระพุทธรูปและวัตถุมงคล พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8:30 น. ถึง 11:30 น. และ 13:30 น. ถึง 16:00 น. อย่าลืมแต่งกายสุภาพกันด้วยนะ
บ่าย: วัดใหม่สุวรรณภูมาราม
วัดใหม่สุวรรณภูมาราม สร้างในศตวรรษที่ 18 เคยเป็นที่ใช้ประกอบพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ภายในมีศิลปะหลายแบบ เช่น หลังคามีการซ้อนชั้นแบบเชียงขวาง อุโบสถศิลปะรัตนโกสินทร์ รูปเทวดาถือช่อดอกกระดันงาตามศิลปะลาว และรูปมังกรแบบจีน
เย็น: ตลาดกลางคืนหลวงพระบาง
จบวันกันที่ตลาดกลางคืนหลวงพระบาง มีขายงานฝีมือ สิ่งทอ และของที่ระลึกต่าง ๆ ลิ้มรสสตรีตฟูดสุดอร่อย เช่น ไส้กรอกลาว ปลาย่าง ส้มตำ เปิดตั้งแต่ 17:00 น. ถึง 22:00 น. อิ่มท้องแล้วก็พักผ่อนเตรียมเที่ยววันที่สองเลย
วันที่ 2: ดื่มด่ำธรรมชาติแสนสงบ
เช้า: น้ำตกตาดกวางสี
นอกจากน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังมีศูนย์อนุรักษ์หมีด้วย เป็นน้องหมีที่ถูกช่วยจากการค้าสัตว์ป่าและโดนล่า สามารถชมและถ่ายรูปกับน้อง ๆ ได้ แถมมีร้านส้มตำไก่ย่างขายด้วย เล่นน้ำเหนื่อยก็มาเติมพลังได้เลย
เที่ยง: นวดแผนลาวแบบดั้งเดิม
ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและฟื้นฟูร่างกายด้วยเทคนิคการนวดแบบฉบับของประเทศลาว ร้านนวดแนะนำ เช่น สปาการ์เดน หรือ ลาฮิบิสคัส รับรองว่าหายเมื่อย พร้อมทำกิจกรรมต่อไปได้อย่างเต็มที่แน่นอน
บ่าย: พูสี
พูสี หรือ พระธาตุพูสี เป็นเขาที่มีวัดจอมศรีอยู่บนยอดสุด ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 20-30 นาที มีจุดชมวิวหลวงพระบางแบบพาโนรามา วิวเมืองและแม่น้ำโขงสุดสโลว์ไลฟ์ รวมถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นด้วย
เย็น: ดินเนอร์บนเรือชมแม่น้ำโขง
จบวันด้วยดินเนอร์บนเรือ เพลิดเพลินกับดนตรีสด อาหารนานาชาติ และเครื่องดื่ม ขณะชมพระอาทิตย์ตกในแม่น้ำโขง พร้อมวิวอันเงียบสงบของหลวงพระบาง รับรองว่าฟินสุด ๆ
วันที่ 3: เรียนรู้วิถีชีวิตแบบท้องถิ่น
เช้า: ตักบาตรตอนเช้า
เช้า ๆ มาตักบาตรข้าวเหนียวกัน เราจะใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวเพียงอย่างเดียว ชาวบ้านผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่นและมีแพรเบี่ยงหรือผ้าสไบพาดไหล่ ส่วนผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและมีผ้าพาดไหล่
เที่ยง: ชมบ้านซ่างไห
ใครสายดื่มต้องไม่พลาด เพราะที่นี่เป็นแหล่งต้มเหล้าลาวแบบดั้งเดิม ซึ่งทำจากข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วนำมาหมักไว้หนึ่งอาทิตย์ ก็จะได้เป็นเหล้าขาว นอกจากนี้ยังมีเหล้าดองสัตว์ต่าง ๆ ด้วย เช่น แมงป่อง ตุ๊กแก และงู เป็นต้น
บ่าย: ทัวร์ปั่นจักรยาน
ปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขง ผ่านทุ่งนาสีเขียวขจี และหมู่บ้านของชาวหลวงพระบาง บริษัททัวร์แนะนำ เช่น ไทเกอร์เทรล และ แกรสฮอปเปอร์แอดเวนเจอร์ส โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทาง หมวกกันน็อค น้ำ และอุปกรณ์สำหรับเส้นทางวิบาก
เย็น: ชมระบำอัปสรา
ระบำอัปสราเป็นการผสมผสานการเล่าเรื่องและการรำ สามารถชมได้ที่โรงละครแห่งชาติหลวงพระบาง หรือร้านอาหารที่มีการแสดงให้ชมร่วมกับทานดินเนอร์ รับรองว่าต้องเป็นมื้อสุดประทับใจแน่นอน
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับหลวงพระบาง เมืองที่มีทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย และสีสันของอาหารที่บอกเลยว่าแซ่บมาก บินตรงไปหลวงพระบางกับ Bangkok Airways ผู้โดยสารทุกท่านสามารถเข้าใช้ห้องรับรองพิเศษที่สนามบิน พร้อมมอบน้ำหนักสัมภาระให้ถึง 20 กก. และบริการมื้ออาหารแสนอร่อยบนเครื่องบิน สะดวกสบายแบบนี้จัดกระเป๋าไปหลวงพระบางกันเลย