Bangkok Airways สรุปให้
- มัลดีฟส์ เกาะสวรรค์กลางมหาสมุทรอินเดียที่ประกอบไปด้วยเกาะมากกว่า 1,190 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แตกต่าง ตอบโจทย์ครบทั้งสายโรแมนติกที่มองหาการพักผ่อนริมทะเลกับคนพิเศษ สายโลคอลที่อยากเที่ยวแบบชิล ๆ สายผจญภัยที่หลงใหลโลกใต้น้ำ และสายพรีเมียมที่อยากใช้ชีวิตบนเกาะในฝัน
- เกาะมัลดีฟส์ ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวละเอียด และพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม ทั้งยังเป็นที่ตั้งของแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรอินเดีย และใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของคนรักท้องทะเลและนักดำน้ำระดับโลก
ในช่วงเวลาที่ต้องการหลบไปชาร์จพลังใจ บางทีเราอาจไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการปล่อยกายและใจให้ลอยไปกับความสงบ ท่ามกลางทะเลสีครามที่ทอดยาว หาดทรายขาวเนียนละเอียด และโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ที่โอบกอดอย่างอ่อนโยน ของ “มัลดีฟส์” หมู่เกาะเล็ก ๆ กลางมหาสมุทรอินเดีย คู่มือเที่ยวฉบับนี้ Bangkok Airways จะพาไปทำความรู้จักกับเกาะมัลดีฟส์ให้ลึกขึ้น ทั้งการเลือกเที่ยวเกาะในฝันให้ตรงกับสไตล์ วิธีการเดินทาง ช่วงเวลาที่ดีที่สุด พร้อมคำถาม-คำตอบพบบ่อย ก่อนออกเดินทางไปเปิดใจให้กับเสน่ห์แห่งธรรมชาติแห่งนี้
ชาร์จพลังใจที่ มัลดีฟส์ เกาะสวรรค์สุดโรแมนติก

หากพูดถึงเมืองตากอากาศระดับโลก หนึ่งในชื่อที่มักโผล่ขึ้นมาในใจใครหลายคนคือ “มัลดีฟส์” (Maldives) หมู่เกาะเล็ก ๆ กว่า 1,190 เกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ที่ตราตรึงใจด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสไล่เฉดตัดกับเส้นขอบฟ้าและหาดทรายขาวเนียนที่ทอดยาว บรรยากาศแต่ละเกาะสะท้อนเสน่ห์เฉพาะตัว บางเกาะเหมาะแก่การพักผ่อนแบบส่วนตัวหรือฮันนีมูนสุดโรแมนติก หลีกหนีความวุ่นวายสู่ความสงบที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ บางเกาะเต็มไปด้วยกิจกรรมทางทะเล ขณะเดียวกันก็มีเกาะที่ตั้งของรีสอร์ตหรูระดับโลกที่ให้ประสบการณ์แสนพิเศษสมกับเกาะในฝัน
ล่าสุดในปี 2025 มัลดีฟส์ยังคว้ารางวัลใหญ่จากงาน World Travel Awards Africa & Indian Ocean Gala Ceremony ในสาขา “จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่หรูหราและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุดในโลก” ตอกย้ำภาพลักษณ์ในฐานะสวรรค์แห่งการพักผ่อนที่ผสานความหรูหราเข้ากับความยั่งยืนได้อย่างลงตัว ทั้งการใช้พลังงานสะอาดในรีสอร์ต การดูแลแนวปะการัง ไปจนถึงกิจกรรมท่องเที่ยวที่ไม่ทำลายธรรมชาติ

นอกจากการนั่งเล่นริมทะเลให้ลมทะเลโอบกอด หรือล่องเรือชมปลาโลมายามเย็นแบบสายชิลแล้ว มัลดีฟส์ยังมีกิจกรรมมากมายที่ทำให้การมาเยือนเต็มไปด้วยประสบการณ์น่าจดจำ ทั้งการดำน้ำตื้นชมปะการังหลากสี หรือดำน้ำลึกสำหรับคนที่อยากสัมผัสโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด
แต่ถ้าใครเป็นสายลุยก็ห้ามพลาดกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ทั้งพายเรือคายัค เล่นเจ็ตสกี หรือโต้คลื่นกลางทะเลด้วย Flyboard สุดมันส์ ท่ามกลางวิวสวยระดับตำนาน ด้วยความหลากหลายทั้งกิจกรรมและบรรยากาศ เกาะมัลดีฟส์จึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกสไตล์ได้อย่างลงตัว
บินตรงสู่เกาะมัลดีฟส์ ไปกับสายการบิน Bangkok Airways

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเกาะมัลดีฟส์ทำได้สะดวกสบาย ผ่านสายการบิน Bangkok Airways ซึ่งมีเที่ยวบินตรง (Direct Flight) แบบ Full Service ที่ให้บริการครบครัน จากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) สู่สนามบิน Velana International Airport (VIA) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Hulhulé (อ่านว่า ฮู-ลู-เล่) ใกล้กับเมืองหลวง Malé โดยเที่ยวบินใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 35 นาที
เลือกเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ตามสไตล์ พร้อมจุดดำน้ำที่ไม่ควรพลาด
สายโรแมนติก: ฮันนีมูนหวาน บนวิลล่ากลางน้ำ
1. เกาะ Baros

ดื่มด่ำความโรแมนติกแห่งธรรมชาติในทุกดีเทลที่ Baros Maldives เกาะส่วนตัวบน North Malé Atoll ใช้เวลาเดินทางเพียง 25 นาทีจากสนามบิน Malé บรรยากาศอบอวลไปด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “รีสอร์ตที่โรแมนติกที่สุดในโลก” ติดต่อกันถึง 10 ปีจากเวที World Travel Awards
ไม่ว่าจะเลือกพักในวิลล่าริมชายหาดหรือพูลวิลล่า ทุกหลังถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ให้ใกล้ชิดธรรมชาติและเป็นส่วนตัวสูงสุด ไฮไลต์สำคัญของ Baros คือ แพ็กเกจเฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อช่วงเวลาแสนพิเศษ ทั้งฮันนีมูน วันครบรอบ หรือวันเกิด อาทิ ดินเนอร์ส่วนตัวบนแพลตฟอร์มกลางทะเล การล่องเรือโธนีแบบดั้งเดิม หรือเพลิดเพลินกับทรีตเมนต์สปาหรูที่ช่วยเติมเต็มทริปเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ให้กลายเป็นความทรงจำสุดประทับใจ
2. เกาะ Meeru

เกาะ Meeru เกาะส่วนตัวขนาดใหญ่ทางทิศตะวันออก North Malé Atoll ที่ทอดยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและกิจกรรมชาร์จพลังใจหลากหลายให้เลือกสรร ทั้งการปั่นจักรยานเล่นรอบเกาะ ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก หรือเลือกมุมสงบในวิลล่ากลางน้ำเพื่อจิบไวน์ใต้แสงดาว ทั้งหมดถูกร้อยเรียงเป็นความทรงจำแบบเรียบง่าย และแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความโรแมนติกของเกาะมัลดีฟส์
3. เกาะ Kandolhu

สำหรับใครที่ชอบการพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวที่เงียบสงบ Kandolhu เกาะเล็ก ๆ บนเขต North Ari Atoll คือสถานที่ในฝัน ด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลสีเขียวมรกตใสเห็นผืนทราย และหาดทรายขาวละเอียดที่โอบล้อมเกาะทั้งสี่ทิศ แม้เกาะแห่งนี้จะมีขนาดเล็กจนสามารถเดินรอบได้ภายในไม่ถึง 10 นาที แต่กลับเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย เพราะที่นี่มีวิลล่าเพียง 30 หลังเท่านั้น
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการมาพักที่นี่ คือการดำน้ำตื้น เพราะแนวปะการังรอบเกาะนั้นอุดมสมบูรณ์มาก สามารถพบกับฝูงปลาหลากสี เต่าทะเล หรือแม้แต่ฉลามแนวปะการังที่ว่ายโชว์ความงามใต้ผืนน้ำสีฟ้าใส ให้ผู้มาเยือนสัมผัสธรรมชาติของเกาะมัลดีฟส์ได้อย่างใกล้ชิด
4. เกาะ Vaadhoo

ชมความมหัศจรรย์สุดโรแมนติกแห่งธรรมชาติที่ เกาะ Vaadhoo ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Raa Atoll เกาะเล็ก ๆของมัลดีฟส์ที่เมื่อแสงตะวันลับขอบฟ้า เกาะแห่งนี้จะเปล่งแสงระยิบระยับคล้ายดวงดาว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “Sea of Stars” ซึ่งเกิดจากแพลงก์ตอนเรืองแสงชนิดหนึ่งที่ชื่อ bioluminescent phytoplankton เมื่อโดนคลื่นจะเปล่งแสงสีฟ้าออกมา ให้ชายหาดทั้งแนวเหมือนถูกห่มด้วยหมู่ดาวอันสวยงาม
สายโลคอล: เที่ยวเกาะมัลดีฟส์แบบคุมงบได้
5. เกาะ Maafushi

สำหรับสายชิลหรือสายโลคอลที่ต้องการเที่ยวเกาะมัลดีฟส์แบบคุมงบได้ ต้องไม่พลาด Maafushi เกาะท้องถิ่นยอดนิยม ซึ่งตั้งอยู่ใน South Malé Atoll เดินทางด้วยสปีดโบ๊ตจากสนามบิน Malé เพียง 30 นาที ที่นี่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวมัลดีฟส์
บนเกาะรายล้อมด้วยที่พักแบบโฮมสเตย์ เกสต์เฮาส์ และร้านอาหารมากมาย ซึ่งมอบบรรยากาศอบอุ่น เรียบง่าย และเป็นมิตร พร้อมกิจกรรมมากมายในราคาเอื้อมถึง ทั้งดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก ถ่ายรูปกับฉลาม พายเรือแคนู หรือจะจับมือกันขึ้นเรือออกไปทริปปิกนิกบน Sandbank กลางทะเลสีครามแบบส่วนตัวก็ยังได้
6. เกาะ Thulusdhoo

Thulusdhoo หนึ่งในเกาะที่ควรอยู่ในลิสต์ของสายโลคอลผู้รักมัลดีฟส์ เกาะท้องถิ่นแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต North Malé Atoll เดินทางสะดวก จากสนามบิน Malé ใช้เวลาเดินทางด้วยสปีดโบ๊ต เพียง 30-40 นาที และขึ้นชื่อในหมู่สายเซิร์ฟว่าเป็นจุดเล่นคลื่นระดับโลก โดยเฉพาะบริเวณ “Cokes” และ “Chickens” ที่ดึงดูดนักโต้คลื่นจากทั่วโลก ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ซึ่งเป็นฤดูที่คลื่นแรงและสวยที่สุดของปี
นอกเหนือจากความเร้าใจของคลื่นแล้ว เกาะ Thulusdhoo ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นของชุมชน ที่พักเกสต์เฮาส์เรียบง่าย คาเฟริมทะเลน่ารัก ๆ และชายหาดเงียบสงบที่เหมาะกับการนั่งชมพระอาทิตย์ตกเป็นอย่างยิ่ง
7. เกาะ Guraidhoo
เที่ยวเกาะมัลดีฟส์แบบโลคอลที่ Guraidhoo บน South Malé Atoll เกาะท้องถิ่นแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ร่องน้ำสำคัญ อย่าง Lhosfushi Kuda Kandu ซึ่งเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์และเป็นจุดซ่อนตัวของปลากะพงเหลืองแถบสีน้ำเงิน
ที่นี่มีไฮไลต์ให้เลือกเพียบ ทั้งการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่แฝงด้วยความอบอุ่นแบบมัลดีฟส์ ดำน้ำตื้นชมซากเรือกับฉลามพยาบาล ดำน้ำลึกสำรวจแนวปะการัง หรือจะพายเรือคายัครอบเกาะ ก็ชิลไม่แพ้กัน สำหรับสายแอดเวนเจอร์ยังมีการเล่นเซิร์ฟ บริเวณคลื่นนอกเกาะที่ท้าทายและคึกคักช่วงฤดูคลื่นแรง รวมถึงกิจกรรมสุดมันส์อย่าง ขี่เจ็ตสกี เล่นพาราเซลลิ่ง ที่พาเหินลมชมวิวเกาะจากมุมสูงแบบสุดตื่นเต้น
8. เกาะ Ukulhas

ใช้เวลาพักผ่อนแบบชิล ๆ บนเกาะมัลดีฟส์ที่เงียบ สะอาด และใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ Ukulhas บนเขต Alif Alif Atoll เกาะท้องถิ่นเล็ก ๆ แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องรอยยิ้มเป็นมิตรของผู้คนและการจัดการชุมชนอย่างมีระบบ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมของมัลดีฟส์ และได้รับรางวัล Green Leaf Award ในปี 2014 จากความโดดเด่นด้านการปกป้องสิ่งแวดล้อม
ไฮไลต์ของที่นี่ คือ การดำน้ำตื้นดูฝูงปลา ดำน้ำลึกชมกระเบนราหู พายเรือคายัค และ ร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติเช่น Coral Restoration Project ซึ่งริเริ่มปี 2019 โดยความร่วมมือระหว่างชุมชน NGO และรีสอร์ตท้องถิ่น เหมาะกับสายชิลหรือนักท่องเที่ยวที่อยากบอกรักตัวเองผ่านกิจกรรมรักษ์โลกบนเกาะมัลดีฟส์
สายผจญภัย: ลุยแนวปะการัง สัมผัสโลกใต้ท้องทะเล
9. เกาะ Fulidhoo

Fulidhoo เกาะตากอากาศขนาดเล็กทางตอนเหนือสุดของ Vaavu Atoll คือจุดหมายที่ถูกใจทั้งสายโลคอลและสายผจญภัย ไฮไลต์ของที่นี่คือการดำน้ำในจุด Shark Point ที่ขึ้นชื่อว่ามีฉลามมากที่สุดแห่งหนึ่งของมัลดีฟส์ และจุดดำน้ำยอดนิยมอย่าง Alimatha Nurse Shark Dive ซึ่งเปิดโอกาสให้ว่ายน้ำกับฉลามพยาบาล (Nurse Sharks) แบบใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังสามารถนั่งชิลริมชายหาดชมฝูงกระเบนราหูว่ายใกล้ฝั่ง ล่องเรือชมโลมายามเย็น และชมการแสดง Boduberu ดนตรีพื้นเมืองที่ผสานเสียงกลองกับการเต้นแบบทรานส์ที่ชวนให้ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายตามจังหวะ
10. เกาะ Dhigurah

Dhigurah เกาะรูปทรงเรียวยาวใน Alif Dhaalu Atoll หนึ่งในอัญมณีของมัลดีฟส์ ด้วยชายหาดขาวสะอาดที่ทอดยาวกว่า 4 กิโลเมตร เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำชมฉลามวาฬแบบใกล้ชิดที่ดีที่สุดตลอดทั้งปี และยังเป็นหนึ่งในเขตรักษาพันธุ์ฉลามวาฬ 3 แห่งของมัลดีฟส์ ร่วมกับ Hanifaru Bay และ Angafaru
สำหรับสายดำน้ำ เกาะ Dhigurah มีจุดดำน้ำกว่า 30 แห่ง ทั้งแนวปะการังหลากสีและจุดชมสัตว์ทะเลหายาก รองรับทั้งมือใหม่และนักดำน้ำระดับแอดวานซ์ โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงเมษายน ที่สัตว์ทะเลหายากมักปรากฏตัวให้เห็นบ่อยครั้ง
- Kuda Rah Thila: แนวปะการังที่ได้รับการคุ้มครองทางทะเลตั้งแต่ปี 1995 เต็มไปด้วยฝูงปลาสแนปเปอร์ลายน้ำเงินนับพัน และมีอุโมงค์ใต้น้ำที่ท้าทายสำหรับนักดำน้ำ
- Broken Rock: จุดดำน้ำที่มีรอยแยกขนาดใหญ่กลางแนวปะการัง ทำให้เกิดอุโมงค์ธรรมชาติ แหวกกระแสน้ำแรง เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่ชอบความท้าทาย
- 5 Rocks: ประกอบด้วยโขดหินขนาดใหญ่ใต้น้ำ 5 บล็อกที่จัดวางสลับกับหุบเขาใต้น้ำ เป็นแหล่งอาศัยของปลากระเบนราหู ปลาบาราคูด้าขนาดใหญ่ และฉลามแนวปะการังสีเทา
นอกจากท่องโลกใต้ทะเล เกาะ Dhigurah ยังมีกิจกรรมผจญภัยเบา ๆ ให้เลือกทำตลอดวัน ทั้งพายซัปบอร์ดหรือคายัคในลากูนใส เดินเล่นบน Sandbank ส่วนตัว หรือลองตกปลายามค่ำคืนแบบพื้นบ้าน ก็ช่วยเติมเต็มพลังใจได้ไม่น้อย
11. เกาะ Thoddoo

Thoddoo เกาะท้องถิ่นในเขต Alif Alif Atoll และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเกษตรของมัลดีฟส์ โดยเฉพาะการปลูกแตงโม แพชชันฟรุต และมะพร้าว ที่นี่เป็นจุดดำน้ำตื้นยอดนิยมที่สามารถเห็นเต่าทะเลได้ใกล้ฝั่ง เมื่อถึงยามค่ำคืนบริเวณชายหาดบางจุดอาจได้พบปรากฏการณ์แพลงก์ตอนเรืองแสง สร้างบรรยากาศโรแมนติกในยามดึก
นอกจากนี้ที่เกาะ Thoddoo ยังมีบริการเช่าจักรยาน (ค่าบริการราว 5 USD) ให้ปั่นรอบเกาะผ่านเส้นทางสวย อย่าง Vaau Magu ถนนที่รายล้อมด้วยต้นปาล์มอันร่มรื่นตลอดสองข้างทาง รวมถึงทริปดำน้ำ ดูโลมา หรือเยี่ยมชมสวนเกษตรในชุมชน พร้อมลิ้มลองมะพร้าวสดจากสวน เกาะแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในวิถีโลคอลและกิจกรรมที่ช่วยปลุกพลังใจได้อย่างลงตัว
สายพรีเมียม: ใช้ชีวิตบนเกาะมัลดีฟส์ในฝัน
12. เกาะ Kunfunadhoo

สัมผัสชีวิตหรูหราท่ามกลางธรรมชาติของมัลดีฟส์ที่ Kunfunadhoo เกาะส่วนตัวเงียบสงบ ซึ่งตั้งอยู่ใน Baa Atoll พื้นที่เขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) ที่รายล้อมด้วยแนวปะการังอุดมสมบูรณ์และระบบนิเวศทางทะเลที่หลากหลาย ทั้งยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ตระดับโลกอย่าง Soneva Fushi ที่ได้รับการยกย่องจาก Condé Nast Traveler ว่าเป็น ‘Best of the Best’ จากการบุกเบิกแนวคิด “no news, no shoes”
นอกจากบรรยากาศงดงามและเงียบสงบแล้ว ที่เกาะ Kunfunadhoo ยังมีกิจกรรมพักผ่อนแบบชิล ๆ ให้เลือกหลากหลาย ทั้งการยืดขาเดินเล่นบนสะพานไม้ที่ทอดยาวสู่ทะเล เรียนรู้ศิลปะการเป่าแก้วที่สตูดิโอแก้วเพียงแห่งเดียวของมัลดีฟส์ หรือชมท้องฟ้ายามค่ำคืนจากอาคารดูดาว (Observatory) สุดโรแมนติก
13. เกาะ Ithaafushi
Ithaafushi เกาะส่วนตัวสุดหรูใน South Malé Atoll ที่เป็นบ้านของรีสอร์ตระดับ 5 ดาว อย่าง Waldorf Astoria Maldives ไฮไลต์อยู่ที่วิลล่าหรูริมทะเล ล้อมด้วยลากูนสีฟ้าใส พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง และบริการแบบส่วนตัวเต็มรูปแบบ ตั้งแต่คอนเซียร์จส่วนตัวไปจนถึงร้านอาหารและบาร์มากถึง 11 แห่ง พร้อมเสิร์ฟอาหารรสเลิศจากเชฟมิชลินสตาร์
นอกจากนี้ ยังมีสปาระดับโลก โซนฟิตเนสลอยน้ำ และคลับสำหรับเด็ก เป็นเกาะที่เหมาะทั้งคู่รัก ครอบครัว และสายชิลที่อยากสัมผัสความหรูหราแห่งธรรมชาติ เดินทางจากสนามบิน Malé เพียง 45 นาทีด้วยเรือยอชต์ส่วนตัว
BONUS! จุดดำน้ำที่ห้ามพลาด ที่เกาะมัลดีฟส์
1. Vaavu Atoll

จุดหมายปลายทางในฝันของนักดำน้ำของมัลดีฟส์ ต้องยกให้ Vaavu Atoll ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองหลวง Malé พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ใต้ทะเล ด้วยจุดดำน้ำมากกว่า 30 แห่ง ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งฉลามครีบขาวโอเชียนิก เต่ากระ กระเบนราหู และฝูงปลาหลากสีสัน
จุดดำน้ำที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือน Vaavu Atoll
- Fotteyo Kandu: หนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในมัลดีฟส์ ด้วยผนังปะการัง ช่องถ้ำใต้น้ำสุดตระการตา และกระแสน้ำแรงสุดท้าทาย จึงเป็นที่นิยมในการดำน้ำแบบดริฟต์ (Drift Diving)
- Miyaru Kandu: หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ช่องแคบฉลาม” เพราะเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมที่สามารถพบ ฉลามครีบเทา ฝูงใหญ่ ปลาทูน่า กระเบนแมนต้า และปลาปะการัง
- Kuda Giri Wreck: ซากเรือจมที่กลายเป็นแนวปะการังเทียม เต็มไปด้วยปะการังหลากสี ฟองน้ำ เพรียงทะเล ปลาขนาดเล็ก และปลากบสีเทา ที่มักซ่อนตัวตามร่องซากเรือ
ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามบริสุทธิ์ Vaavu Atoll จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการดำน้ำลึก หรือดำน้ำตื้น ลงไปสำรวจโลกใต้ท้องทะเลของมัลดีฟส์โดยเฉพาะ
2. Manta Point

Manta Point หนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมของ Ari Atoll ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่เกาะมัลดีฟส์ ด้วยกระแสน้ำที่ไม่แรงจนเกินไป ทำให้ที่นี่เหมาะกับทั้งการดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น โดยเฉพาะนักดำน้ำที่ต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของกระเบนราหู หนึ่งในสัตว์ทะเลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เดินทางมาเที่ยวมัลดีฟส์ทุกปี
ไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือ “สถานีทำความสะอาดปะการัง” (Cleaning Station) ซึ่งเป็นจุดที่กระเบนราหูจะรวมตัวกันให้ปลาตัวเล็กช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกและปรสิตบนร่างกาย ขณะกระเบนราหูแหวกว่ายเหนือแนวปะการังสีสันสดใส นักดำน้ำสามารถชมพฤติกรรมธรรมชาติที่หาชมได้ยากนี้อย่างใกล้ชิด เป็นประสบการณ์ที่ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจและชวนเก็บไว้เป็นความทรงจำที่จะตราตรึงใจไปอีกนาน
3. Fish Head

Fish Head หรือที่รู้จักในชื่อ Mushimasmingili Thila และ Shark Point จุดดำน้ำระดับตำนานที่ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่คุ้มครองทางทะเลของมัลดีฟส์ โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ยอดแหลมใต้น้ำที่ปกคลุมด้วยปะการังสีดำงดงาม ความลึกตั้งแต่ 10 ถึง 35 เมตร ซึ่งเป็นบ้านของฉลามแนวปะการัง ปลาสแนปเปอร์สีน้ำเงิน และฝูงปลาขนาดใหญ่หลากหลายชนิด เหมาะกับนักดำน้ำทุกระดับ และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจซากเรือ ยังสามารถเพิ่มประสบการณ์ได้ที่ Fesdu Wreck และ Halaveli Wreck ที่อยู่ใกล้เคียงได้อีกด้วย
4. Maaya Thila

อีกหนึ่งจุดดำน้ำที่ห้ามพลาดของมัลดีฟส์ คือ Maaya Thila ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2021 โดย สมาคมครูสอนดำน้ำมืออาชีพ (PADI) จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ กองหินใต้ทะเล (Thila) ซึ่งเริ่มต้นที่ระดับความลึกกว่า 6 เมตร ล้อมรอบด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งยังเป็นบ้านของสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ กระเบน ฉลามแนวปะการังครีบขาว ปลากะมงยักษ์ ฉลามพยาบาล และปลาบาราคูดา ที่แหวกว่ายอวดโฉมอยู่รอบกองหิน แนะนำให้มาในช่วงธันวาคมถึงพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลสงบ น้ำใส และเหมาะกับการดำน้ำที่สุด
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะมัลดีฟส์

ช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนมีนาคม: ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เมษายน ถือเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการเดินทางมาเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ เพราะแดดดี น้ำทะเลใส เหมาะกับการพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางแจ้ง แม้อาจมีฝนตกบางช่วง แต่ส่วนใหญ่เป็นเพียงฝนโปรยเบา ๆ ที่ไม่รบกวนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด เหมาะกับการนอนอาบแดด ดำน้ำ พายเรือคายัค หรือดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัว
ช่วงเดือนเมษายน – เดือนตุลาคม: ช่วงโลว์ซีซัน
ระหว่างเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคมเป็นช่วงฤดูฝนของมัลดีฟส์ แม้จะมีปริมาณฝนมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่มักเป็นฝนที่ตกเพียงชั่วคราว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว รีสอร์ตราคาถูกลง และนักท่องเที่ยวน้อยลง นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่เหล่านักโต้คลื่นนิยมเดินทางมา เพราะมีคลื่นขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการเล่นเซิร์ฟ
หมายเหตุ: ในช่วง พฤษภาคม – มิถุนายน เป็นช่วงเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมในมัลดีฟส์จะถือศีลอดในเวลากลางวัน บนเกาะโลคอลอาจมีข้อจำกัดเรื่องร้านอาหารหรือบริการบางประเภท
ฝนในแต่ละเขตของเกาะมัลดีฟส์
นอกจากสภาพอากาศตามฤดูกาลแล้ว ด้วยความที่มัลดีฟส์มีเกาะกระจายอยู่ในหลายอะทอลล์ ทำให้ลักษณะอากาศแตกต่างกันตามพื้นที่
- Northern Atolls: ฝนตกมากในช่วงเดือนพฤษภาคม – พฤศจิกายน
- Southern Atolls: ฝนตกมากในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม
ดังนั้น หากต้องการเลี่ยงฝนหรือความชื้น ควรตรวจสอบฤดูมรสุมของอะทอลล์ที่จะไปก่อนวางแผนเดินทาง
รวมคำถาม-คำตอบก่อนเที่ยวเกาะมัลดีฟส์

ไปเกาะมัลดีฟส์ครั้งแรกควรพักกี่คืน?
สำหรับการไปเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ครั้งแรกควรพัก อย่างน้อย 3 วัน 2 คืน แต่หากอยากมีเวลาเพียงพอต่อการดื่มด่ำบรรยากาศและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม ควรพัก 4 วัน 3 คืน ขึ้นไป
พักที่เกาะมัลดีฟส์ต้องพกเงินสดไหม? ใช้ค่าเงินอะไร?
เที่ยวมัลดีฟส์ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด แต่หากสะดวกก็ยังสามารถใช้เงินสดได้ โดยใช้ค่าเงิน รูฟียาห์ (MVR) ซึ่งเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของมัลดีฟส์ หรือ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกจ่ายได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต และบัตร Travel Card อย่างสะดวกสบาย
การเดินทางไปแต่ละเกาะในมัลดีฟส์สะดวกไหม?
การเดินทางไปแต่ละเกาะในมัลดีฟส์ ถือว่าสะดวก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีเดินทางได้ตามงบประมาณและตำแหน่งของเกาะที่ต้องการไป โดยทั่วไปมีให้เลือก 3 รูปแบบหลัก ดังนี้
1. เรือเร็ว (Speedboat): เป็นวิธีเดินทางยอดนิยมสำหรับเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณไม่เกิน 1 ชั่วโมง สะดวก ประหยัด และเข้าถึงได้ง่าย
2. เครื่องบินทะเล (Seaplane): เหมาะสำหรับการเดินทางไปยังเกาะที่อยู่นอกเขตบริการของเรือเร็ว โดยเฉพาะเมื่อข้ามอะทอลล์ (Atoll) เครื่องบินทะเลช่วยให้เดินทางได้สะดวก ได้ชมวิวเกาะมัลดีฟส์จากมุมสูงอันน่าประทับใจ ทั้งนี้มัลดีฟส์ยังเป็นประเทศที่มีฝูงเครื่องบินทะเลแบบสะเทินน้ำสะเทินบกมากที่สุดในโลก
3. เครื่องบินภายในประเทศ (Domestic Flight): ใช้สำหรับเส้นทางที่อยู่ห่างไกล หรืออยู่นอกช่วงเวลาที่เครื่องบินทะเลให้บริการ โดยนักท่องเที่ยวจะบินด้วยเครื่องบินภายในประเทศไปยังสนามบินท้องถิ่น แล้วต่อด้วยเรือเร็วอีกครั้งเพื่อเข้าสู่เกาะปลายทาง
เที่ยวเกาะมัลดีฟส์ต้องขอวีซ่าไหม?
สำหรับคนไทย สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะมัลดีฟส์ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพียงแค่ลงทะเบียนผ่านระบบ IMUGA ล่วงหน้าก่อนเดินทางเข้า-ออกภายใน 96 ชั่วโมง ก็จะได้รับ วีซ่า On Arrival ทันทีที่สนามบิน และสามารถพักผ่อนอยู่ในมัลดีฟส์ได้สูงสุด 30 วันเต็ม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาที่เกาะมัลดีฟส์ต่างจากไทยแค่ไหน?
เวลาที่เกาะมัลดีฟส์ต่างจากไทย เพียง 2 ชั่วโมง โดยมัลดีฟส์อยู่ในโซนเวลา UTC+05:00 ส่วนไทยอยู่ในโซนเวลา UTC+07:00 เช่น ถ้าเวลาที่เกาะมัลดีฟส์ 09.00น. ประเทศไทยจะเป็นเวลา 11.00 น. เท่านั้น
รวมเรื่องควรรู้ก่อนเที่ยวมัลดีฟส์เพิ่มเติมได้ที่นี่
- รวมคำถามยอดฮิตก่อนไปมัลดีฟส์ พร้อมพิกัดที่เที่ยวทะเลในฝัน
- สำรวจมาเล่ เมืองหลวงมัลดีฟส์ กับสถานที่เช็กอินที่ห้ามพลาด
- ชวนสัมผัสทะเลในฝัน เที่ยวมัลดีฟส์ ไปช่วงไหนดี?
สัมผัสจังหวะชีวิตบนเกาะมัลดีฟส์ในสไตล์คุณ กับ Bangkok Airways

เที่ยวเกาะมัลดีฟส์ พร้อมชาร์จพลังใจในแบบที่คุณเลือกเอง ไปกับสายการบิน Bangkok Airways ด้วยเที่ยวบินตรงสู่มัลดีฟส์ แบบ Full Service ที่พร้อมดูแลคุณ ด้วยบริการพิเศษและมาตรฐานระดับสากลตลอดการเดินทาง เพื่อเติมเต็มทุกช่วงเวลาให้กลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน