ใครสายกิน ช้อป ต้องชอบฮ่องกงสุด ๆ เพราะที่นี่มีสตรีตฟูดเยอะมาก แถมยังมีสินค้าราคาไม่แพงให้เลือกช้อปกันแบบจุใจสุด ๆ วันนี้เราจะพาไปเที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน ตะลุยกิน เที่ยว ฉบับจัดเต็ม รับรองว่าคุ้มค่า สนุก แถมได้ของกลับไทยแบบฟิน ๆ แน่นอน
ทำไมต้องไปฮ่องกง
ฮ่องกงเป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย เวลาต่างกันไม่มาก สภาพอากาศไม่หนาวจนเกินไป ในบางช่วงถือว่าอากาศดีสุด ๆ แถมมีที่เที่ยวเยอะมาก ตั้งแต่ตลาดกลางคืน สวนสนุก ไปจนถึงวัดวาอาราม มีของกินอร่อยถูกปากหลายอย่าง นอกจากนี้ยังมีวัดมูเตลูชื่อดังหลายวัดมาก ๆ นิยมมาขอพร ขอโชคลาภ ให้สมตามปรารถนา ส่วนการเดินทางภายในประเทศก็ดีมาก ๆ มีรถไฟฟ้าที่เชื่อมถึงกัน สะดวกสบายมากเลยทีเดียว
วันที่ 1: ตามรอยที่เที่ยวยอดฮิต
เช้า: วิคตอเรียพีค
หนึ่งในสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของฮ่องกงเลยก็ว่าได้ ด้วยทัศนียภาพที่งดงามของเส้นขอบฟ้าของเมือง อ่าววิคตอเรีย และเกาะรอบ ๆ ทำให้เกิดวิวที่สวยมาก ๆ สามารถนั่งรถรางพีคซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1888 ได้ แนะนำให้ไปชม Peak Tower และ Sky Terrace 428 เพื่อชมจุดชมวิวในจุดที่ดีที่สุดนั่นเอง
สาย: เดินชมเมือง
เดินชมสถานที่สำคัญ ๆ เช่น อาคารธนาคารแห่งประเทศจีน และอาคาร HSBC สวนสาธารณะฮ่องกง และเยี่ยมชม Edward Youde Aviary ที่เต็มไปด้วยนกหายาก แล้วแวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านติ่มซำชื่อดังอย่าง Tim Ho Wan และ Maxim’s Palace รับรองว่าต้องติดใจติ่มซำที่นี่แน่นอน
บ่าย: นั่งเรือสตาร์เฟอร์รี่ไปจิมซาจุ่ย
นั่งเรือสตาร์เฟอร์รี่ ซึ่งเป็นบริการเรือเฟอร์รี่ที่เชื่อมต่อเกาะฮ่องกงและเกาลูนมาตั้งแต่ปี 1888 ชมบรรยากาศเกาะฮ่องกง แล้วมาตระเวนกินร้านอาหารอร่อย ๆ พร้อมช้อปปิ้งของแบรนด์เนมที่จิมซาจุ่ยในราคาดีเลิศกันเลย
เย็น: การแสดง Symphony of Lights
ชมการแสดง Symphony of Lights จุดชมที่ดีที่สุดคือบริเวณริมน้ำจิมซาจุ่ยและอเวนิวออฟสตาร์ส การแสดงเริ่มเวลา 20.00 น. และใช้เวลาประมาณ 10 นาที บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
วันที่ 2: เรียนรู้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
เช้า: วัดหว่องไท่ซิน
วัดยอดนิยมในฮ่องกง วัดนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องการทำนายดวงชะตาและพิธีกรรมดั้งเดิม เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับหว่องไท่ซิน เทพเจ้าแห่งการรักษา
สาย: สวนเมืองโบราณเกาลูน
ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ตอนนี้กลายเป็นสวนภูมิทัศน์ที่สวยงามพร้อมกับร่องรอยของเมืองเก่า ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีตของฮ่องกงเลยทีเดียว
บ่าย: พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฮ่องกง
ที่นี่จัดแสดงตั้งแต่สมบัติโบราณจนถึงประวัติศาสตร์สมัยใหม่ นิทรรศการหลัก ได้แก่ “เรื่องราวของฮ่องกง” และ “สมบัติโบราณ” ซึ่งทำให้เห็นภาพการพัฒนาของฮ่องกงตลอดศตวรรษที่ผ่านมา
เย็น: ตลาดกลางคืนถนนเทมเปิล
สายสตรีตฟูดไม่ควรพลาด เพราะอาหารเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหม้อดิน อาหารทะเล และก๋วยเตี๋ยวเผ็ด นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึก สินค้าท้องถิ่น และของแปลก ๆ ด้วย
วันที่ 3: สัมผัสธรรมชาติและพักผ่อน
เช้า: เที่ยวเกาะลันเตา
เป็นเกาะชื่อดังที่มีพระพุทธรูปเทียนถานที่สูง 34 เมตร หนึ่งในรูปปั้นพระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมนั่งกระเช้าชมวิวแบบ 360 องศา จุดนี้จะเห็นความงดงามของเกาะลันเตาและทะเลจีนใต้
สาย: หมู่บ้านชาวประมงไท่โอ
ที่นี่เด่นเรื่องบ้านเสาค้ำ เพราะเป็นบ้านที่อยู่ริมน้ำ จึงต้องสร้างบ้านแบบยกสูง นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมงท้องถิ่น พร้อมทานอาหารทะเลสด ๆ จากชาวประมงอีกด้วย
บ่าย: อ่าวรีพัลส์เบย์และตลาดสแตนลีย์
อ่าวรีพัลส์เบย์เป็นแหล่งมูเตลูยอดฮิต เช่น เจ้าแม่กวนอิมปางประทานพร เจ้าแม่ทับทิม รูปปั้นเทพเจ้าโบราณต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีหินขอพร ศาลาแปดเหลี่ยม และสะพานต่ออายุด้วย แล้วไปต่อที่ตลาดสแตนลีย์ มีอาหารและเสื้อผ้าขายเยอะมาก
เย็น: ชิงช้าสวรรค์ ริมท่าเรือเซ็นทรัล
จบทริปด้วยการนั่งชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ที่ริมท่าเรือเซ็นทรัล ชมวิวเส้นขอบฟ้าของเมืองและอ่าววิคตอเรีย แล้วเดินเล่นริมท่าเรือเซ็นทรัล ซึ่งเป็นจุดที่มีสีสันมากในช่วงค่ำคืน
เคล็ดลับที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวฮ่องกง
ช่วงที่ดีที่สุด
ฮ่องกงมีภูมิอากาศแบบกึ่งเขตร้อน มีฤดูกาลที่แตกต่างกัน ช่วงที่ดีที่สุดคือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคมถึงธันวาคม) ซึ่งมีอากาศเย็นสบาย และฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคมถึงพฤษภาคม) ก็เป็นอีกช่วงที่ดีเช่นกัน เป็นช่วงที่มีอากาศอบอุ่นและดอกไม้บาน
การเดินทาง
การเดินทางที่ง่ายที่สุดคือ MTR (Mass Transit Railway) เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการเดินทางรอบเมือง นอกจากนี้ยังมีรถบัส รถราง และเรือเฟอร์รี่คอยให้บริการด้วย คำแนะนำคือ ควรมีบัตร Octopus Card ซึ่งเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดที่สามารถเติมเงินได้ ใช้ได้กับระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดและซื้อสินค้าในร้านค้าต่าง ๆ จะทำให้ชีวิตในฮ่องกงง่ายสุด ๆ
เป็นยังไงกันบ้างกับทริปฮ่องกง 3 วัน 2 คืน ครบ คุ้ม จัดเต็มแบบสุด ๆ การเดินทางไปฮ่องกงก็ง่ายแสนง่าย บินไปกับบางกอกแอร์เวย์ส พร้อมบริการสุดพิเศษอย่าง ห้องรับรองพิเศษที่สนามบินสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน ฟรีน้ำหนักสัมภาระให้ถึง 20 กก. และบริการมื้ออาหารแสนอร่อยบนเครื่องบิน พร้อมแล้วก็จัดกระเป๋าไปเที่ยวฮ่องกงกันเลย
