Search
Close this search box.

มัดรวม 10 วัดดังเมืองลำปางที่ต้องไปมูสักครั้ง เที่ยวเสริมบุญสุดปัง!

มัดรวม 10 วัดดังเมืองลำปางที่ต้องไปมูสักครั้ง เที่ยวเสริมบุญสุดปัง!
Table of Contents

Bangkok Airways สรุปให้

  • จังหวัดลำปาง เป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ทางภาคเหนือของไทย รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและกลิ่นอายของวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย ทั้งยังมีวัดเก่าแก่และสถาปัตยกรรมล้านนาอันวิจิตรงดงามซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน
  • วัดส่วนใหญ่ในจังหวัดลำปางได้รับอิทธิพลจากศิลปะล้านนาและพม่า ความเก่าแก่และความศักดิ์สิทธิ์นี้ทำให้วัดลำปางมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ควรค่าแก่การไปสักการะบูชา เพื่อเสริมสิริมงคลและโชคลาภให้กับชีวิต

สายบุญคนไหนที่กำลังมองหาวัดเก่าแก่ชื่อดังเพื่อไปสักการะบูชา เดินสายมูปัง ๆ ครบทุกด้านของชีวิต แน่นอนว่า “ลำปาง” เป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง วันนี้ Bangkok Airways ชวนทุกคนมาไหว้พระทำบุญกับ 10 วัดดังจังหวัดลำปาง ที่แวะมูแล้วไม่เพียงแต่อิ่มบุญอิ่มใจ ยังได้สัมผัสบรรยากาศเงียบสงบและชื่นชมศิลปะอันงดงามของล้านนาอีกด้วย

3 ที่ต้องไปไหว้พระที่จังหวัดลำปาง

วัดพระธาตุลำปางหลวง

1. ความศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์

ลำปางเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัดวาอารามหลายแห่งมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงพันปี ทุกที่ล้วนเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งยังเป็นศูนย์กลางความศรัทธาของผู้คนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดในลำปางได้สะท้อนผ่านความเชื่อของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไหว้พระทำบุญเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ลำปางจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายบุญที่ต้องการสัมผัสความศักดิ์สิทธิ์และความสงบทางใจ

2. บรรยากาศสงบและร่มเย็น

หนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้การเดินทางมาลำปางน่าประทับใจ คือ บรรยากาศที่สงบเงียบและร่มเย็น เมืองรถม้าแห่งนี้อยู่ไกลจากความเร่งรีบวุ่นวายของเมืองใหญ่ นักท่องเที่ยวทุกคนสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการไหว้พระทำบุญในสถานที่ที่มีบรรยากาศเงียบสงบเช่นนี้ ยังช่วยให้จิตใจร่มเย็นและมีสมาธิมากขึ้นอีกด้วย

3. สถาปัตยกรรมและศิลปะ

วัดเก่าแก่ในลำปางไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นศูนย์รวมของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ การเดินทางไปลำปางจึงไม่เพียงแต่ได้ทำบุญเสริมดวงหรือเที่ยวชมธรรมชาติ แต่ยังได้ชมความงามของศิลปะล้านนาและศิลปะพม่า ที่ผสมผสานอยู่ในสถาปัตยกรรมของเมืองลำปางอย่างลงตัว และมีเสน่ห์มาจนถึงปัจจุบัน

10 วัดดังเมืองลำปาง ไหว้พระขอพร เดินทางสายบุญ สัมผัสเสน่ห์ล้านนา

1. วัดพระธาตุลำปางหลวง

วัดพระธาตุลำปางหลวง

วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของลำปางมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีแห่งอาณาจักรหริภุญชัย ตามตำนานกล่าวว่าพระนางคอยเสด็จมานมัสการและทำนุบำรุงวัดนี้อยู่เสมอ ภายในวัดมีการจัดวางผังและองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ เป็นโบราณสถานของไทยที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม อีกทั้งวัดนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีฉลูอีกด้วย ใครที่เป็นสายบุญและเกิดปีฉลู ห้ามพลาดเลยที่จะมาสักการะที่นี่สักครั้งเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต

ไฮไลต์ของวัดพระธาตุลำปางหลวง

จุดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่ “องค์พระธาตุลำปางหลวง” ซึ่งเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ผสมผสานระหว่างเจดีย์ทรงล้านนาและทรงลังกา ตามตำนานเล่าว่าภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนภายนอกนั้นบุด้วยทองฉลุลาย และยอดฉัตรทำจากทองคำอร่ามงามตา

สถาปัตยกรรมโดยรอบองค์เจดีย์ก็มีเสน่ห์สวยงามไม่แพ้กัน เช่น ประตูโขง ซุ้มประตูสี่ทิศซึ่งมียอดแหลมเป็นชั้น ๆ ประดับลวดลายปูนปั้นโดยฝีมือช่างหลวงโบราณ, วิหารน้ำแต้ม วิหารบริวารทางทิศเหนือของวัดที่มีภาพเขียนสีโบราณและจิตรกรรมศิลปะล้านนาที่เก่าแก่ที่สุดของไทย และกุฏิพระแก้ว ซึ่งประดิษฐาน “พระแก้วดอนเต้า” (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของลำปาง

วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นโบราณสถานสำคัญและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองลำปาง ใครที่สนใจมาไหว้พระทำบุญที่นี่ แนะนำให้แต่งกายสุภาพมิดชิดเพื่อสามารถเยี่ยมชมภายในวัดได้อย่างสะดวก

ที่อยู่ : 271 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/J5f67tdxFxvRcTKfA

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 07.30 – 17.00 น.

2. วัดพระธาตุดอยพระฌาน

วัดพระธาตุดอยพระฌาน

สัมผัสเสน่ห์ล้านนาผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปกับวัดพระธาตุดอยพระฌาน หนึ่งในวัดงามเมืองลำปางที่อยู่ห่างตัวเมืองเพียง 30 กิโลเมตร จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ “วิหารพระพุทธเจ้าองค์ปฐม” ซึ่งประดิษฐานพระประธานในซุ้มเรือนแก้วสีทอง บานประตูวิหารแกะสลักลวดลายวิจิตรเป็นรูปพญานาคกระหวัดเกี่ยวรอบองค์พระธาตุสีขาว อ่อนช้อยงดงามสมกับเป็นศิลปะล้านนาที่ต้องไปชมด้วยตาสักครั้ง

ไฮไลต์วัดพระธาตุดอยพระฌาน

พลาดไม่ได้ที่จะต้องแวะสักการะ “พระไดบุตสึ” องค์พระพุทธรูปทองแดงปางสมาธิขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับพระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงบันไดทางเดินขึ้นสู่เนินเขาซึ่งเป็นที่ ๆ องค์พระประดิษฐานอยู่ ก็เรียงรายด้วยซุ้มประตูสีแดงให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเป็นอย่างดี

วัดพระธาตุดอยพระฌานยังขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามตระการตา ยิ่งถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะรายล้อมด้วยทะเลหมอกและวิวเขียวขจีของอำเภอแม่ทะ เรียกได้ว่าครบจบทั้งไหว้พระทำบุญและเที่ยวชมธรรมชาติที่วัดพระธาตุดอยพระฌานแห่งนี้เลย

ที่อยู่ : ดอยพระฌาน ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Qjabj48jTvBZw2BX9

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 06.00 – 16.30 น.

3. วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม

วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม

วัดเก่าแก่เมืองลำปางแห่งนี้มาหนึ่งครั้งได้อิ่มบุญถึงสองต่อ เพราะวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามนั้นคือ การรวมกันของ “วัดพระแก้วดอนเต้า” และ “วัดสุชาดาราม” เดิมทีเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วดอนเต้า (พระแก้วมรกต) นานถึง 32 ปีก่อนที่จะย้ายไปประดิษฐานยังวัดพระธาตุลำปางหลวง โดยทั้งสองวัดต่างมีประวัติความเป็นมา และเสน่ห์ศิลปะเป็นของตัวเองที่ถ้ามาแล้วต้องเยี่ยมชมกันให้ครบทุกจุด

ไฮไลต์วัดพระแก้วดอนเต้า

จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ด้านหน้าของพระบรมธาตุ มีพระมณฑปเรียกว่า “ปยาทาด” ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมพม่าที่งดงามที่สุดแห่งเมืองลำปาง โดยด้านนอกพระมณฑปประดับด้วยงานแกะสลักไม้ฉลุลายประณีต และด้านในเป็นการผสมผสานระหว่างการแกะสลักไม้กับกระจกสี พระมณฑปนี้ยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธรูปบัวเข็ม” ซึ่งจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปเมืองมัณฑะเลย์แห่งนครพม่าที่หาชมได้ยากในไทยอีกด้วย

ไฮไลต์วัดสุชาดาราม

แม้พระเจดีย์อาจไม่เก่าแก่เท่าพระบรมธาตุดอนเต้า แต่ก็เรียบง่ายสง่างามตามแบบฉบับศิลปะล้านนา ด้านหน้าองค์เจดีย์มี “พระวิหารลายคำ” ประดิษฐานพระพุทธสีหเชียงแสน ภายในตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมบนแผงไม้ที่ได้รับอิทธิพลมาจากงานศิลปะภาคกลาง ซึ่งเป็นผลงานของช่างปวน สุวรรณสิงห์ อดีตช่างหลวงราชสำนักกรุงเทพฯ

วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามเปรียบเสมือนบันทึกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของเมืองลำปาง แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวของวัฒนธรรมไทยและพม่า ใครที่ชื่นชอบงานศิลปะและเป็นสายบุญด้วย ต้องแวะมาเลยวัดนี้

ที่อยู่ : 106 ถนนพระแก้ว ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QModfzrvBGdcaWio6

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08.00 – 19.00 น.

4. วัดพระธาตุจอมปิง

วัดพระธาตุจอมปิง

วัดพระธาตุจอมปิงถือว่าเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดพระธาตุลำปางหลวง โดยวัดพระธาตุจอมปิงเองก็อยู่คู่บ้านคู่เมืองลำปางมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี โดดเด่นด้วยองค์พระเจดีย์สีทองอร่าม ฐานย่อมุมตามแบบศิลปะล้านนาดั้งเดิม ด้านหน้ามีวิหารหลวงซึ่งประดิษฐาน “พระพุทธจอมพิงค์ชัยมงคล” พระพุทธรูปเก่าแก่ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวลำปาง และยังมีการจัดแสดงวัตถุโบราณต่าง ๆ ที่ขุดค้นพบบริเวณวัดให้ได้ศึกษาเรียนรู้กัน

ไฮไลต์วัดพระธาตุจอมปิง

จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของวัดแห่งนี้อยู่ที่ “การชมภาพเงาสะท้อนกลับหัวขององค์พระธาตุ” ที่เกิดจากการหักเหแสงผ่านรูเล็กๆ บนหน้าต่าง ทอดลงมายังพื้นของพระอุโบสถคล้ายภาพถ่ายเก่า โดยจะเห็นภาพนี้ได้ในเวลาที่มีแสงสว่างมากพอทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เชื่อกันว่าหากใครได้เห็นภาพพระธาตุชัด ๆ แสดงว่าเป็นผู้มีบุญมากอีกด้วย

ที่อยู่ : บ้านจอมปิง ตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/39k5iGEgRUZeaKZq8

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

5. วัดปงยางคก

วัดปงยางคก

วัดปงยางคกเป็นวัดเล็ก ๆ อายุนับพันปีที่มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีเช่นกัน โดยตามตำนานเล่าว่า ระหว่างที่พระนางจามเทวีกำลังเดินทางไปสักการะพระธาตุลำปางหลวง ช้างพระที่นั่งได้หมอบตัวชูงวงคารวะ พระนางเห็นแล้วรู้สึกอัศจรรย์ใจ จึงพักขบวนพล ณ ที่แห่งนั้น 

พอตกกลางคืนได้อธิษฐานว่า หากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอจงปรากฏขึ้น จากนั้นก็มีแสงพุ่งออกมาจากจอมปลวก จึงทรงให้ปลูกมณฑปปราสาทครอบจอมปลวกนี้ไว้ พร้อมทั้งโขงประตูเสร็จสรรพ และตั้งชื่อว่า “วัดปงจ๊างนบ” ซึ่งหมายถึงวัดที่ช้างแสดงความเคารพ เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็เพี้ยนเสียงเป็น “วัดปงยางคก” อย่างที่เรียกกันในปัจจุบัน

ไฮไลต์วัดปงยางคก

อาคารสำคัญของวัดแห่งนี้คือ “วิหารจามเทวี” ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไทย และเป็นสถาปัตยกรรมด้านอนุรักษ์ดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยาม ลักษณะเป็นวิหารไม้หลังคามุงสามชั้นตามแบบฉบับศิลปะล้านนาโบราณ โครงสร้างภายในทั้งคานและเสาลงรักลายทองบนพื้นสีแดงอย่างวิจิตรงดงาม

ห้องท้ายวิหารยังมีมณฑปทรงปราสาทเรียกว่า “โขงพระเจ้า” ประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย ตกแต่งด้วยปูนปั้นลวดลายประดับ เปิดให้เข้าไปสักการะบูชา รวมถึงด้านนอกวิหารยังมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์รบระหว่างหนานทิพย์ช้างกับท้าวมหายศแม่ทัพพม่า ปรากฏเป็น “รอยดาบบนผนังวิหาร” ที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันให้ได้แวะไปเยี่ยมชมกัน

ที่อยู่ : 70 หมู่ 9 ถนนห้างฉัตร-เกาะคา ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/zaigR1KMV3WYVqjh9

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

6. วัดศรีชุม

วัดศรีชุม

วัดศรีชุมเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยคหบดีชาวพม่าในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่การทำไม้รุ่งเรืองอย่างมาก ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า เดิมทีเป็นวัดเก่าแก่ที่มีต้นศรีมหาโพธิ์รายล้อมอยู่หลายต้น ซึ่งในภาษาล้านนา คำว่า “ศรี” เป็นคำเรียกของต้นศรีมหาโพธิ์ จึงเป็นที่มาของชื่อ “วัดศรีชุม”

ไฮไลต์วัดศรีชุม

จุดเด่นภายในวัด คือ “พระวิหารเป็นอาคารสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้” สื่อถึงศิลปะร่วมสมัยระหว่างพม่าและล้านนา ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะพม่า และด้านนอกประดับตกแต่งด้วยไม้แกะสลักลายฉลุ ที่ได้รับการยกย่องว่าประณีตงดงามที่สุดในบรรดาวัดพม่าในล้านนา

องค์เจดีย์ก็ได้รับอิทธิพลของการผสมผสานของสองวัฒนธรรมเช่นกัน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศพม่า ภายนอกเป็นเจดีย์ทรงระฆังเล็ก ยกฐานบัวแบบล้านนา ยอดประดับฉัตรแบบพม่า อีกทั้งพระอุโบสถ กุฏิ และอาคารอื่นๆ ภายในวัดก็ยังมีศิลปะพม่าผสมผสานอยู่ในสถาปัตยกรรมโดยรอบ ถือว่าเป็นสถานที่บันทึกอดีตแห่งความศรัทธาในพุทธศาสนา และความรุ่งเรืองของการทำไม้ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสอย่างยิ่ง

ที่อยู่ : ถนนทิพย์วรรณ ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/u98zACWzbWvZMVbk9

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

7. วัดศรีรองเมือง

วัดศรีรองเมือง

วัดศรีรองเมืองเป็นอีกหนึ่งวัดพม่าที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองแห่งการทำไม้ ริเริ่มสร้างโดยพ่อเฒ่าอินต๊ะ ศรีรองเมือง คหบดีชาวพม่าและชาวบ้านที่ได้ร่วมกันบริจาคที่ดินและจัดหาวัสดุมาก่อสร้างยาวนานนับเจ็ดปี เดิมทีในวัดมีทั้งพระวิหารใหญ่และวิหารน้อยอีกเก้าหลัง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงพระวิหารใหญ่ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรอีกด้วย

ไฮไลต์วัดศรีรองเมือง

วัดแห่งนี้ได้รวบรวมศิลปะพม่าอันสง่างามและอ่อนช้อยไว้ที่พระวิหารใหญ่ ซึ่งมีหลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้นๆ ตัววิหารเป็นอาคารสองชั้นทำจากไม้สัก ภายในดูโอ่อ่าด้วยเพดานและเสาไม้กลมตกแต่งด้วยศิลปะปั้นรัก ประดับกระจกสีเป็นลวดลายดอกไม้ชดช้อยตระการตา 

ด้านหน้าทางเข้าวิหารมี “เทพทันใจ” ให้อธิษฐานขอพร ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมพม่า และด้านในประดิษฐาน “พระประธานไม้สักทอง พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปีแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์และงดงามของวัดศรีรองเมืองแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สายบุญต้องแวะมาเยี่ยมเยือน

ที่อยู่ : บ้านท่าคราวน้อย ถนนท่าคราวน้อย ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/XBJqtWXpPLguSXVa9

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

8. วัดไหล่หินหลวง

วัดไหล่หินหลวง

วัดไหล่หินหลวง หรือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม หนึ่งในวัดเก่าแก่ของเมืองลำปางที่มีศิลปะล้านนาหาชมได้ยาก แผนผังวัดจำลองจากภูมิจักรวาลตามคติไตรภูมิ โดดเด่นด้วยโรงธรรมที่สร้างตามแบบกุฏิล้านนาโบราณ และซุ้มประตูโขงทรงปราสาทฝีมือช่างลำปาง ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นแกะสลักสวยงามไม่แพ้ซุ้มของวัดพระธาตุลำปางหลวง

ไฮไลต์วัดไหล่หินหลวง 

ภายในพระวิหาร นอกจากประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยแล้ว ยังมีงานจิตรกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ “ภาพเขียนด้วยสีฝุ่นบนแผ่นไม้” ที่บริเวณส่วนบนของโครงหลังคา และ “ภาพลายคำ” ซึ่งเป็นภาพที่ทำด้วยเทคนิคการพิมพ์เป็นลวดลายลงบนพื้นสีทองที่ยังคงความงดงามรอให้ทุกคนได้ไปเชยชมด้วยตาตัวเอง

ที่อยู่ : หมู่ 2 ถนนเกาะคา-นาโป่ง ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/iYnbxddiufvxhxcx6

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 06.00 – 18.00 น.

9. วัดพระเจดีย์ซาวหลัง

วัดพระเจดีย์ซาวหลัง

วัดพระเจดีย์ซาวหลังมีที่มาจากภาษาเหนือ โดยคำว่า “ซาว” แปลว่ายี่สิบ” และ “หลัง” แปลว่าองค์ จึงมีความหมายโดยรวมว่า “วัดที่มีเจดีย์ยี่สิบองค์” นั่นเอง หากอ้างอิงจากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์ สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีแล้ว นับได้ว่าเป็นวัดที่เก่าแก่มากอีกแห่งหนึ่งของเมืองลำปาง

ไฮไลต์วัดพระเจดีย์ซาวหลัง

ไฮไลต์ของวัดนี้อยู่ที่ “พระเจ้าทันใจ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ ศิลปะเชียงแสน ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารเล็ก และ “พระแสนแซ่ทองคำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยล้านนา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์หนัก 100 บาทสองสลึงที่ชาวบ้านขุดค้นพบและนำมามอบแก่ทางวัด แวะมาที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้นมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ยังได้เยี่ยมชมความสวยงามของเจดีย์และพระอุโบสถ รวมถึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านโบราณวัตถุมากมายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของวัดอีกด้วย

ที่อยู่ : วัดพระเจดีย์ซาวหลัง บ้านวังหม้อ ตำบลต้นธงชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hZRMthW8Gb5FGgiE7

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.

10. วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” ตั้งอยู่ที่ดอยปู่ยักษ์ ก่อร่างสร้างจากแรงศรัทธาของคณะสงฆ์และชาวบ้านซึ่งใช้เวลานานนับสิบปี เพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้เดินทางมาสักการะบูชากัน

ไฮไลต์วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์

เจดีย์กว่าสิบองค์ที่เรียงรายบนไหล่เขาถือว่าเป็นเสน่ห์อันน่าทึ่งชวนประทับใจของวัดแห่งนี้เลยทีเดียว ภายในเจดีย์แต่ละองค์นั้นก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านได้ช่วยกันรวบรวมไว้ ไม่เพียงแค่นั้น วัดงามท่ามกลางภูเขาและสายหมอกแห่งนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 815 เมตร และติดอันดับ Unseen Thailand ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดอีกด้วย

เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ทั้งชันและแคบ ทางวัดจึงมีบริการรถรับส่งที่ทางขึ้นเขา เพื่อให้สายบุญได้ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศบนยอดเขา ชมวิวธรรมชาติอลังการ 360 องศา พร้อมนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต บอกเลยว่าเที่ยวลำปางทั้งทีต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้ง

ที่อยู่ : หมู่บ้านทุ่งทอง หมู่ 7 ถนนแจ้ห่มเมืองเหนือ ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QAaC5doSvaWyo5DX7

เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 07.30 – 16.00 น.

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 วัดสวยชื่อดังของจังหวัดลำปางอันมีเสน่ห์งดงามแบบฉบับล้านนาที่รวมรวบมาให้ทุกคนได้ดูกัน รับรองว่าถ้าสายมูคนไหนได้ไปไหว้พระทำบุญถึงที่แล้ว จะต้องประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน และใครที่กำลังสนใจไปแอ่วลำปาง สามารถจองเที่ยวบินตรงและร่วมเดินทางไปกับสายการบิน Bangkok Airways ผ่านเส้นทาง กรุงเทพฯ-ลำปาง เพื่อสัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยม ที่ทั้งง่าย สะดวกสบาย และรวดเร็ว

เดินทางไปทำบุญง่าย ๆ ที่จังหวัดลำปางกับสายการบิน Bangkok Airways

เดินทางสายบุญและสัมผัสอารยธรรมอันงดงามของเมืองลำปางด้วยสายการบิน Bangkok Airways ที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ถึงลำปาง และการบริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้โดยสารทุกท่านได้รับการบริการที่สะดวกสบายและคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น 

  • การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
  • น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
  • บริการอาหารบนเที่ยวบิน
  • บริการห้องรับรองที่สนามบิน

“ Bangkok Airways, Asia’s Boutique Airline ”

Share This Story with your travel friends!
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
Related Posts