6 ที่เที่ยวฮ่องกง ตะลุยเกาะเล็กๆ แวะเฉพาะจุดไฮไลท์ ฉบับ 3 วัน 2 คืน
ฮ่องกง ไม่ใช่ประเทศ แต่เป็นเขตบริหารพิเศษแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเหมือนกับมาเก๊านั่นเอง เมืองแห่งตึกสูงตระหง่านที่สาดแสงไฟไปทั่วเมืองในยามค่ำคืน เมืองที่ผสมผสานความทันสมัยของแหล่งชอปปิงสุดชิคเข้ากับมนต์เสน่ห์ของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น มีวัดชื่อดังมากมายอย่างที่เรามักจะเห็นคนไทยจัดทริปไปไหว้พระขอพรกันถึงฮ่องกงโดยเฉพาะเรื่องความรัก การขอคู่ ซึ่งถ้าดูแบบผิวเผินแล้วเราคงคิดว่าการมาเที่ยวฮ่องกง จะมาทำอะไรนอกจากชอปปิงและเที่ยวสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่าฮ่องกงมีแหล่งธรรมชาติสวยงามมาก ซึ่งก็ดูขัดกับความศิวิไลซ์ของเมืองนี้มากๆเช่นกัน และเพื่อเป็นการพิสูจน์ วันนี้เราจึงลิสต์มาให้แล้วว่าถ้ามีเวลา 3 วัน 2 คืน ฮ่องกงจะมีอะไรให้เราทำกันบ้างนะ?
1.วิคตอเรีย พีค | ที่เที่ยวฮ่องกง
เนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้ามากมาย การได้มานั่งรถรางที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (Peak Tram) ที่ค่อยๆไต่ขึ้นภูเขาวิคตอเรีย พีค (Victoria Peak) คงเป็นอะไรที่พลาดไม่ได้ เราจะได้เห็นวิวของเกาะฮ่องกงได้แบบถ้วนทั่วเพราะยอดเขาวิคตอเรีย พีคนั้นถือว่าสูงที่สุดในเกาะฮ่องกงเลย บนยอดเขามีจุดชมวิวชื่อว่า เดอะพีค (The Peak) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 552 เมตร การนั่งรถรางขึ้นไปที่เดอะพีค จะมีปรากฏการณ์ที่แปลกและน่าพิศวงอย่างนึง นั่นคือ ระหว่างที่เรานั่งรถรางขึ้นไปด้านบน เราจะมองเห็นทิวทัศน์ของตึกน้อยใหญ่เหมือนกำลังจะล้มเอียงไปทางด้านหน้า แทนที่จะตั้งตรงปกติ ซึ่งเหตุการณ์นี้เรียกว่า ‘The Peak Tram Illusion’ ซึ่งก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองกันแล้วล่ะ
จนเมื่อมาถึงเดอะพีค เราขอแนะนำว่าอย่าพลาดมาจุดชมวิวที่ดีที่สุดในฮ่องกงอย่าง The Sky Terrace 428 ซึ่งเป็นจุดที่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 428 เมตรนั่นเอง นอกจากนี้ยังมี The Peak Tower, The Peak Tram Historical Gallery, เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และ ซิมโฟนี ออฟ ไลท์ (A Symphony of Lights) การแสดงแสง สี เสียง อันน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของเกาะฮ่องกง
2.กระเช้านองปิง & วัดโปลิน | ที่เที่ยวฮ่องกง
มันคงเป็นอะไรที่ทั้งหวาดเสียวแต่ก็ตื่นตาตื่นใจในคราวเดียวกัน และเราคงไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้บ่อยๆ นั่นคือการนั่งกระเช้านองปิงพื้นใส (Ngong Ping 360 Crystal Cabin) ข้ามผ่านทะเลสีครามอันงดงาม หลังจากนั้นกระเช้าก็จะค่อยๆไต่ระดับความสูงลอยพาดผ่านภูเขาเขียวขจี ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆกับการชมวิวทะเลและวิวภูเขาได้แบบ 360 องศาตลอดระยะทางกว่า 5.7 กิโลเมตร
แต่ไฮไลท์ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะถ้านั่งไปจนสุดถึงด้านบน เราจะเจอกับหมู่บ้านนองปิง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เราได้แวะซื้อของที่ระลึกต่างๆ มีความสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า มีทั้งของกินจนถึงเครื่องประดับต่างๆ และเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็อย่าพลาดขึ้นไปสักการะพระใหญ่ ณ วัดโปลิน (Po Lin Monastery) เดินขึ้นบันได 268 ขั้น ไม่อยากจะบอกเลยว่าอากาศข้างบนน่ะดีสุดๆ
3.เขาหลังมังกร | ที่เที่ยวฮ่องกง
มาถึง Unseen ฮ่องกง กันบ้าง กับการปีนเขาหลังมังกร (Dragon’s Back) ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่คดเคี้ยวไปมาระหว่างยอดเขาเช็คโอกับเขาหวั่นจ๋ำซาน ตั้งตระหง่านอยู่เหนือแหลมดากิลล่า มีลักษณะคล้ายกับแผ่นหลังของมังกรนั่นเอง ถือเป็นเส้นทางเดินเขาที่ดีที่สุดในเอเชีย จนได้รับการโหวตจากนิตยสาร Time Asia ให้เป็น ‘Best Urban Hiking Trail in Asia’ แทนที่เราจะไปเดินชอปปิงแบบทุกที เราก็ลองเปลี่ยนมาเดินบนเส้นทางเขาหลังมังกรแบบเท่ๆ ไม่ซ้ำใครดูบ้าง แถมอากาศยังเย็นสบาย มีระยะทาง 8.5 กิโลเมตร ให้เราได้สูดออกซิเจนจนเต็มปอดกันไปเลย
นอกจากนี้ ทางเดินเป็นทางเล็กๆบนสันเขา มองเห็นทั้งวิวทิวเขาและอ่าวที่มีน้ำสีครามสวย ระหว่างทางเราก็จะเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโดยเฉพาะบรรดาฝรั่งที่นิยมมาปีนเขากัน บ้างก็เป็นคนท้องถิ่นที่มาปั่นจักรยาน บางคนก็พาน้องหมามาวิ่งตามอัธยาศัย
4.ตึก Yick Fat Building | ที่เที่ยวฮ่องกง
ถ้าพูดถึงชื่อ ตึก Yick Fat Building หลายคนอาจไม่คุ้น แต่ถ้าบอกว่าเป็น ตึกในหนัง Transformer แล้วละก็ รับรองว่าต้องร้องอ๋อกันเป็นแถว เพราะแนวตึกสูงแออัดเหล่านี้ถูกปรากฏในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Transformer นั่นเอง ดูจากตึกแล้วก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าห้องแต่ละห้องต้องแคบมากแน่ๆ แต่ก็เพราะจุดนี้แหละที่ทำให้ตึกแห่งนี้เป็นโลเคชันที่มีชื่อเสียงมากๆและมักจะปรากฏอยู่ในฉากหนังดังๆหลายเรื่อง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบรรดาเหล่าช่างภาพถึงชอบมาถ่ายรูปอาร์ทๆกันที่นี่
และถ้าอยากได้รูปเก๋ไม่ซ้ำใคร แนะนำว่าให้ลองถ่ายรูปในมุมที่เงยหน้ามองขึ้นท้องฟ้า แล้วจะพบกับภาพตึกสูงที่ล้อมรอบตัวเราเป็นสี่เหลี่ยม ก็จะได้รูปสวยไม่ซ้ำใครแน่นอน การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Tai Koo ทางออก B แล้วเดินไปทางซ้ายมือก็จะเจอกับตึก Yick Fat Building
5.เรือจัมโบ้คิงดอม | ที่เที่ยวฮ่องกง
เครดิต: https://www.facebook.com/jumbokingdom1976/
รับรองเลยว่าการมารับประทานอาหารที่เรือจัมโบ้คิงดอม (Jumbo Kingdom) จะต้องเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่คุณไม่เคยเจอที่ไหนเลย เพราะเรือสำราญสุดหรูลำนี้มีขนาดมหึมา เป็นภัตตาคารลอยน้ำที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เอเชียตะวันออกเหมือนพระราชวังจีนในยุคโบราณ แลดูยิ่งใหญ่และสวยงามตระการตา ถึงขนาดที่คนดังระดับโลกหลายคน รวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็ทรงเคยเสด็จมาทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง
นอกจากมารับประทานอาหารแล้ว ยังได้ชมวิวรอบๆอ่าวอเบอร์ดีนอีกด้วย โดยภายในเรือจัมโบ้คิงดอม จะถูกแบ่งออกเป็นโซนๆ มีทั้งอาหารฝรั่งและบาร์เครื่องดื่ม, ร้านอาหารฮ่องกงหรูต้นตำรับ, อาหารทะเลโบราณ, โรงเรียนสอนทำอาหารโดยพ่อครัวชื่อดัง และอีกมากมาย
6.ย่านจิมซาจุ่ย | ที่เที่ยวฮ่องกง
ถึงทริปนี้จะเป็นทริปไม่เน้นช้อป แต่ก่อนกลับเราก็ต้องแวะแหล่งชอปปิงชื่อดังย่านจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) กันสักหน่อย แหล่งชอปปิงที่เป็นเหมือนบาซาร์ยักษ์ระดับโลก มีของขายทุกชนิด ทุกแบบ ทุกสไตล์ ทั้งของฝากสไตล์บอลลีวูด ร้านตัดเสื้อสไตล์เซี่ยงไฮ้ ร้านขายอัญมณีและเพชรพลอย ช้อปแบรนด์เนมไฮเอนด์ ร้านบูติกนำเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเอเชีย
นอกจากนี้ยังมีห้างชื่อดังที่ขายของแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท เช่น Harbour City ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง, Ocean Terminal ห้างที่มีดาดฟ้าชมวิวด้านบน มีจุดชมวิวยื่นออกไปในอ่าววิคตอเรีย, iSquare รวมร้านขายเสื้อผ้าแฟชันและร้านอาหารอร่อยๆ, The One เด่นดังในแง่ของร้านค้าที่ติดป้าย Sale กันเป็นแถว และ K11 ห้างที่มีคอนเซ็ปต์ในการผสมผสานศิลปะ ธรรมชาติ มนุษย์เข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะมีการตกแต่งไฟสวยงามระยิบระยับมากๆ
เป็นไงกันบ้าง กับ ฮ่องกง ในแบบฉบับ 3 วัน 2 คืน มีครบทั้งที่เที่ยวธรรมชาติ วัดศักดิ์สิทธิ์ จุดชมวิวเมืองสวยอลัง ภัตตาคารลอยน้ำ และแหล่งชอปปิงชื่อดัง หากใครสนใจอยากไปตามรอย ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงกับบางกอกแอร์เวย์สได้เลย บินตรงจากสนามบินสมุยทุกวัน พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิสและห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน จองเลยที่ http://www.bangkokair.com/tha/flightdeals/view/samui-hong-kong