Bangkok Airways สรุปให้
- เกาะกูด เป็นเกาะในน่านน้ำทะเลตราดที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติ ทั้งหาดทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด น้ำตกกลางป่าเขียว และวิถีชีวิตเรียบง่ายที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนทุกรูปแบบ
- ภายในเกาะกูดเต็มไปด้วยกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ ดำน้ำชมโลกใต้ทะเล ตกหมึกสดกลางทะเล เดินป่าศึกษาธรรมชาติ พายเรือคายัคในป่าโกงกาง นั่งเล่นริมหาดชมแสงสุดท้ายลับขอบฟ้าในบรรยากาศแสนผ่อนคลาย หรือชมการแสดงควงกระบองไฟยามค่ำคืนที่ทั้งตื่นตาและอบอุ่นใจ
เกาะกูด (Koh Kood) เกาะขนาดใหญ่ในน่านน้ำทะเลตราด โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งหาดทรายเนียนละเอียด ท้องทะเลสีฟ้าสดใสของอ่าวไทย ป่าเขียวขจี และวิถีชุมชนที่น่าค้นหา ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบที่ชวนให้ซึมซับอากาศบริสุทธิ์ พร้อมสนุกกับกิจกรรมหลากสไตล์ที่น่าหลงใหล Bangkok Airways ขอพาคุณออกเดินทางเที่ยวเกาะกูด เกาะที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติน่าค้นหา ให้คุณได้หลงรักและประทับใจในเมืองไทยมากกว่าที่เคย
เสน่ห์เกาะกูด จังหวัดตราด ที่ทำให้ใครก็ต้องตกหลุมรัก

เกาะกูด (Koh Kood) หมู่เกาะสุดเขตแดนตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ไม่ใช่แค่พื้นที่ที่กว้างขวางเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ จนได้รับการขนานนามว่า “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” ทั้งหาดทรายขาวละเอียดทอดยาว น้ำทะเลใสจนมองเห็นพื้นทราย ป่าเขียวขจี น้ำตกธรรมชาติอย่าง “คลองเจ้า” ที่สามารถลงเล่นได้จริง รวมถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คนท้องถิ่นที่อบอุ่นและเป็นมิตร สมกับคำขวัญประจำอำเภอเกาะกูดที่ว่า
‘ฟ้าใส ทะเลสวย รวยธรรมชาติ หาดทรายสะอาด ดาษดื่นปะการัง’

ที่เกาะกูดมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกตามสไตล์ ทั้งสายแอดเวนเจอร์ที่ชอบดำน้ำท่องโลกใต้ท้องทะเล หรือลองตกหมึกกลางทะเลแบบสด ๆ สายธรรมชาติที่ชื่นชอบการเดินป่า พายเรือคายัคท่ามกลางป่าโกงกาง หรือจะเป็นสายชิลที่อยากใช้เวลานั่งเล่นชิงช้าริมหาด พร้อมชมแสงสุดท้ายลับขอบฟ้าในบรรยากาศแสนผ่อนคลาย รวมถึงชมการแสดงควงกระบองไฟยามค่ำคืนที่ทั้งตื่นตาและอบอุ่นใจ เกาะกูดจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ครบทั้งความสงบ ความสนุก และความทรงจำอันน่าประทับใจตลอดการเดินทาง
เปิดลิสต์ 15 จุดเช็กอิน ที่เที่ยวเกาะกูด ครบทุกสไตล์
1. ชุมชนบ้านอ่าวสลัด

ซึมซับวิถีชีวิตชาวเลที่เรียบง่าย แฝงกลิ่นอายวัฒนธรรม กับ “ชุมชนบ้านอ่าวสลัด” (Ban Ao Salad) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะกูด จังหวัดตราด เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและมิตรภาพของชาวบ้านที่ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม
ชุมชนแห่งนี้สะท้อนถึงความผูกพันอันยาวนานระหว่างผู้คนกับท้องทะเล ผ่านการทำประมงพื้นบ้านและเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม การท่องเที่ยวที่บ้านอ่าวสลัดจึงได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามและเงียบสงบ และยังได้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อาทิ
- การทำบุญที่วัดอ่าวสลัด ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สะท้อนศิลปะท้องถิ่น มีองค์หลวงพ่อพุทธปทีปศรีสถาพรสูงสง่า 12 เมตร เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน
- การเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งดำน้ำปลูกแนวปะการัง การเย็บอวนและที่ดักปูในแบบฉบับชาวเลเกาะกูด
- กิจกรรมปล่อยปูไข่คืนสู่ธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเล
2. อ่าวกล้วย

“อ่าวกล้วย” (Ao Kluai) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะกูด มีหาดทรายขาวนวลละเอียดทอดยาวประมาณ 300 เมตร น้ำทะเลใส และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อุดมด้วยแนวหญ้าทะเล ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลหลากชนิด จึงเหมาะสำหรับสายเอ็กซ์ตรีมที่ชอบตกหมึก หรือดำน้ำตื้นชมปะการังที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำใส
สำหรับสายรักธรรมชาติ ที่อ่าวกล้วยคือหนึ่งในจุดชมนกแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนเกาะกูด ทั้งนกปรอดหัวจุก และนกอพยพนานาชนิดที่แวะเวียนมาให้ได้ส่องกล้องเพลิน ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบของผืนป่าและทะเลที่โอบล้อม
3. น้ำตกคลองยายกี๋

จุดเช็กอินที่สายธรรมชาติ ต้องไม่พลาดเมื่อมาเที่ยวเกาะกูด “น้ำตกคลองยายกี๋” (Khlong Yai Kee Waterfall) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ มีผาหินสลับชั้นเรียงตัวอย่างสวยงาม สูงประมาณ 5–6 เมตร โอบล้อมด้วยป่าเขาเขียวขจี
เส้นทางลงไปยังน้ำตกต้องลัดเลาะผ่านบันไดสูงชันและข้ามโขดหินระยะทางประมาณ 200-300 เมตร และเมื่อไปถึงจะพบกับแอ่งน้ำใสเย็นที่เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อนอย่างสงบ นั่งแช่เท้าผ่อนคลาย ท่ามกลางร่มเงาไม้และเสียงธรรมชาติที่ช่วยเยียวยาหัวใจ ทิวทัศน์รอบข้างสวยงามจนชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพความประทับใจได้ทุกมุม
4. อ่าวตะเภา

เที่ยวอ่าวไทยที่ให้บรรยากาศเหมือนบินไปมัลดีฟส์ที่ “อ่าวตะเภา” (Ao Tapao) ชายหาดสุดเงียบสงบบนเกาะกูด โดดเด่นด้วยหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวกว่า 400 เมตร น้ำทะเลสีมรกตสดใส ตัดกับแนวโขดหินธรรมชาติที่เรียงรายอย่างสวยงาม เหมาะสำหรับนอนฟังเสียงคลื่นเบา ๆ ริมหาด เติมความผ่อนคลายให้กับใจและกาย
อ่าวตะเภายังมีแนวปะการังใกล้ชายฝั่งที่สามารถดำน้ำตื้นชมความงามของโลกใต้ทะเลได้โดยไม่ต้องนั่งเรือออกไปไกล นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเกาะกูด และด้านหลังของหาดยังมีวัดราษฎร์บำรุง ที่สามารถแวะไปสักการะเพื่อเติมเต็มความสงบทั้งกายและใจได้อีกด้วย

5. หาดคลองเจ้า

มาเกาะกูดทั้งที ต้องไม่พลาด “หาดคลองเจ้า” (Klong Chao Beach) หนึ่งในจุดเช็กอินยอดนิยมด้วยชายหาดทอดยาวประมาณ 700 เมตร ท่ามกลางน้ำทะเลใสสะอาดและหาดทรายขาวละเอียด บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความร่มรื่นและเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ โดยมีไฮไลต์ที่หาดพลาด
- ต้นมะพร้าวหัก 90 องศา จุดถ่ายรูปยอดนิยมที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของหาด และเป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยที่สุดบนเกาะกูดอีกด้วย
- หาด 3 น้ำ เกิดจากการบรรจบกันของน้ำทะเล น้ำกร่อย และน้ำจืด โดยบริเวณด้านหลังหาดเป็นคลองน้ำกร่อย ที่มีต้นน้ำไหลมาจากน้ำตกคลองเจ้า สองฝั่งคลองยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทัศนียภาพของป่าชายเลนสีเขียวขจี เหมาะแก่การพายเรือคายัคชมวิวธรรมชาติ ก่อนที่กระแสน้ำจะไหลลงสู่ทะเลที่อ่าวคลองเจ้าอย่างสวยงาม
- การแสดงโชว์ควงกระบองไฟสุดเร้าใจ อย่าลืมรีบจองที่นั่งบริเวณริมหาดคลองเจ้า เพื่อชมการแสดงแบบใกล้ชิด เติมสีสันให้กับค่ำคืนสุดพิเศษนี้ได้ในทุกวันเสาร์
6. น้ำตกคลองเจ้า

“น้ำตกคลองเจ้า” (Klongjao Waterfall) หรือ “น้ำตกอนัมก๊ก” น้ำตกแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ความสูงรวมประมาณ 10 เมตร ชั้นบนเป็นลำธารไหลผ่านโขดหินตลอดปี ส่วนชั้นล่างสุดเป็นแอ่งน้ำกว้างที่ใสสะอาด ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่าอันร่มรื่นและเขียวขจี ตลอดทางบรรยากาศเงียบสงบ ร่มเย็น และโอบล้อมไปด้วยเสียงน้ำตกและเสียงนกป่าที่ทำให้ทุกความเหนื่อยล้าค่อย ๆ จางหาย
ที่นี่เหมาะทั้งสำหรับสายลุยที่รักการเดินป่า และสายธรรมชาติที่อยากพักใจในบรรยากาศแตกต่าง และถ้าอยากเติมความสดชื่น ก็สามารถลงเล่นน้ำได้สบาย แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม เพราะเป็นช่วงเวลาที่น้ำมาก ป่ารอบข้างเขียวขจี และอากาศเย็นสบาย มอบความรู้สึกที่สดชื่น ชาร์จพลังกายและใจได้เต็มที่
7. หาดอ่าวน้อย

สัมผัสความงามใต้ท้องทะเลที่ “หาดอ่าวน้อย” (Ao Noi Beach) หาดเงียบสงบที่เชื่อมต่อระหว่างหาดคลองเจ้าและหาดบางเบ้า ได้รับการขนานนามว่า “มรกตแห่งเกาะกูด” ด้วยน้ำทะเลใสตัดกับสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า ร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าวเรียงราย และชิงช้าผูกติดกับต้นไม้ใหญ่ให้ได้นั่งเล่นรับลมทะเล ไฮไลต์อยู่ที่สะพานไม้ทอดยาวสู่ทะเล ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม และยังเป็นโลเคชันยอดนิยมของสายถ่ายรูป
บริเวณรอบหาดมีที่พักสไตล์บูติกและรีสอร์ตที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มองหาความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว ให้ได้บรรยากาศฟีลชาวเกาะ พร้อมลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ และสนุกกับกิจกรรมดำน้ำใต้ทะเล
8. หาดบางเบ้า

“หาดบางเบ้า” (Bang Bao Beach) หาดที่มีเวิ้งอ่าวโค้งเกือบจะเป็นวงกลม แนวหาดทรายสีทองนวลละเอียดทอดตัวยาวประมาณ 800 เมตร น้ำทะเลใส บางบริเวณเป็นโขดหินที่สวยงาม โอบล้อมด้วยทิวมะพร้าวและป่าเขียวขจี มีชิงช้า พร้อมสะพานไม้ที่ทอดยาวออกสู่ทะเล ซึ่งกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก และโลเคชันยอดฮิตที่สายฮิปต้องไม่พลาดแวะถ่ายภาพเท่ ๆ อัปลงโซเชียล
สำหรับคนรักทะเลของเกาะกูด หาดบางเบ้าเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ทั้งฝูงปลา ปะการังแข็ง และสัตว์น้ำชายฝั่ง เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ อย่าง พายเรือคายัค ดำน้ำตื้น ตกปลา หรือแค่นอนชิลริมชายหาด ปล่อยใจไปกับสายลมและเสียงคลื่น บรรยากาศที่เงียบสงบและไม่พลุกพล่านของหาดแห่งนี้ทำให้เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ
9. ชุมชนบ้านคลองมาด

“ชุมชนบ้านคลองมาด” (Klong Mad Fishermen Village) ตั้งอยู่ตอนกลางของเกาะกูด จังหวัดตราด เป็นชุมชนชาวประมงเก่าแก่ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม จุดเด่นของที่นี่คือ มีคลองน้ำใสที่ไหลพาดผ่านกลางชุมชนสู่ทะเล สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติคล้ายกับวิถีชาวบ้านริมคลอง รวมถึงมีชายหาดเล็ก ๆ ชื่อ “หาดคลองมาด” ให้ได้พักผ่อนริมทะเลอีกด้วย
ภายในชุมชนบ้านคลองมาดมีกิจกรรมชิล ๆ ให้ได้สัมผัส ทั้งพายเรือคายัคชมธรรมชาติ ดำน้ำตื้นชมปะการัง ลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ หรือสนุกกับการตกหมึกในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้แนวโค้งสำหรับเทียบเรือที่ทอดลงสู่ทะเล เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาด
10. หาดคลองระหาน

หาดลับที่เต็มไปด้วยเสน่ห์บนเกาะกูด “หาดคลองระหาน” (Klong Rahan Beach) หรือที่ขนานนามว่า “Secret Beach” หนึ่งในหาดที่เป็นส่วนตัวที่สุดบนเกาะกูด จังหวัดตราด หาดแห่งนี้เป็นทางเชื่อมหาดทรายระหว่างหาดคลองระหานกับเกาะแรด และในบางช่วงของน้ำลง พื้นทรายจะโผล่ขึ้นเป็นแนวทางเดินกลางทะเลที่สวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใสสะอาด และแนวทิวมะพร้าวที่ร่มรื่นโดยรอบ
ไฮไลต์พิเศษของหาดนี้ คือรูปร่างของสันทรายที่คล้ายสามเหลี่ยม ทอดตัวไปยังเกาะแรด เมื่อถึงช่วงน้ำลงเต็มที่ จะกลายเป็นแนวทะเลแหวกที่สามารถเดินไปถึงเกาะแรดได้ อีกทั้งลักษณะภูมิประเทศที่มีเกาะแรดกั้นอยู่ด้านหน้า เลยทำให้มีโอกาสได้เห็น “Square Wave” หรือคลื่นที่สันคลื่นตัดกันเป็นตาราง ซึ่งถือว่าหาดูได้ยากสุด ๆ ในทะเลเมืองไทย
หาดคลองระหาน เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ และยังมีกิจกรรมเบา ๆ ให้เลือกทำได้ตลอดวัน ทั้งพายเรือคายัค ดำน้ำตื้นชมปะการัง และการนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม โดยเฉพาะบริเวณที่สามารถมองเห็นเกาะแรด เป็นมุมสวยที่ใครมาเป็นต้องตกหลุมรัก
11. หาดคลองหิน

“หาดคลองหิน” (Khlonghin Beach) อีกหนึ่งหาดลับใจกลางเกาะกูด ชายหาดที่มีความยาวประมาณ 300 เมตร มีหาดทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลใสสีมรกต และบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากพักใจท่ามกลางธรรมชาติ ได้ยินเสียงคลื่นซัดสาด ลมพัดไหวของต้นมะพร้าวราวกับธรรมชาติกำลังขับกล่อม
นอกจากจะเหมาะกับการนั่งเล่น หรือนำผ้ามาปูปิกนิกพักผ่อนริมทะเล ยังสามารถลงเล่นน้ำแบบสบายๆ พายเรือคายัคเลียบฝั่ง หรือดำน้ำตื้นชมฝูงปลาตามแนวโขดหินได้อีกด้วย กลายเป็นมุมฮีลใจที่ทั้งสงบและเป็นส่วนตัว
12. อ่าวพร้าว

“อ่าวพร้าว” (Ao Phrao) ชายหาดทรายขาวเนียนละเอียดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะกูด จังหวัดตราด มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และถือเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของเกาะกูด ไฮไลต์ของอ่าวนี้คือ “ชุมชนหมู่บ้านอ่าวพร้าว” ที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตเรียบง่าย และยังเป็นที่ตั้งของ “วัดอ่าวพร้าว” ที่ประดิษฐานรูปปั้นเหมือนของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บิดาแห่งกองทัพเรือไทย นักท่องเที่ยวสามารถแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และสัมผัสเสน่ห์ของชุมชนท้องถิ่นได้
ทะเลของอ่าวพร้าวงดงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ น้ำทะเลใสสีมรกต เหมาะสำหรับเล่นน้ำ พายเรือคายัคเลียบแนวโขดหิน ชมฝูงปลาเล็กและหอยมือเสือหลากสีที่แอบซ่อนอยู่ตามแนวชายฝั่ง และไม่ไกลจากอ่าวพร้าว มีหมู่เกาะรัง จุดดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลตราด น้ำใสจนมองเห็นปะการังและฝูงปลาแบบชัด ๆ ดื่มด่ำกับโลกใต้ทะเลได้แบบเต็มอิ่ม
13. หาดอ่าวจาก

“อ่าวจาก” (Ao Chak) หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “หาดเนเวอร์แลนด์” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะกูด จังหวัดตราด ระหว่างหาดอ่าวพร้าวและหาดคลองหิน เป็นอ่าวเล็ก ๆ มีหาดทรายขาวทอดตัวยาวประมาณ 500 เมตร
น้ำทะเลของที่นี่มีสีมรกตใส โขดหินน้อยใหญ่ประดับอยู่ตามแนวชายหาด และต้นไม้เขียวชอุ่มเรียงรายโดยรอบ สร้างบรรยากาศจนนักท่องเที่ยวต่างชาติขนานนามหาดแห่งนี้ว่า “Hidden Gem with Crystal Clear Water” อ่าวจากจึงเหมาะมากสำหรับใครที่อยากหนีความวุ่นวาย มานอนชิลรับแดด ฟังเสียงคลื่นซัดเบา ๆ เพลิน ๆ
14. เขาดินแดง

สายแอดเวนเจอร์ต้องเดินป่าที่ “เขาดินแดง” (Khao Din Daeng) ใจกลางเกาะกูด สัมผัสบรรยากาศของผืนป่าดิบชื้นที่กว้างกว่า 10 ไร่ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด และปล่อยใจไปกับกลิ่นไอธรรมชาติตลอดเส้นทาง ไฮไลต์สำคัญที่ต้องไม่พลาดอย่าง “ต้นไทรยักษ์” อายุเกินกว่า 250 ปี วัดเส้นรอบวงได้ถึง 1,800 เซนติเมตร สูงตระหง่านกว่า 50 เมตร
อีกหนึ่งธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ไม่แพ้กันคือ “ต้นมะค่ายักษ์” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Old Trees” มีความสูงมากกว่า 40 เมตร ซึ่งชาวเกาะกูดต่างให้ความเคารพนับถือ โดยเชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุเกินกว่า 500 ปี และอยู่คู่กับเกาะกูดมาช้านาน จึงมักมีผู้คนแวะเวียนมากราบไหว้ ขอพร และผูกผ้าสามสีสักการะตามความเชื่อ เขาดินแดงเป็นจุดหมายปลายทางที่คนรักธรรมชาติและการผจญภัยต้องมาเที่ยว
15. เขาเรือรบ

ที่เที่ยวสุด Unseen จากธรรมชาติ ต้องที่ “เขาเรือรบ” (Kao Rearob) อยู่บริเวณท้ายเกาะกูด ใกล้กับหาดง่ามโข่ โดดเด่นด้วยหินธรรมชาติที่มีอายุหลายพันปีขนาดใหญ่ 3 ก้อน ที่เหมือนเรือรบเรียงเคียงกันสามลำ มีความสูงประมาณ 3-4 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และเงียบสงบให้บรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ชวนให้สงบใจ
ด้านบนประดิษฐานรูปหล่อจำลองเท่าองค์จริงของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย) อยู่ตรงกลางระหว่างกลุ่มหิน และยังมีพระพุทธประธานพรราชนาวี หน้าตัก 32 นิ้ว พร้อมศาลหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า (พระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย) ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวประมงในละแวกนี้ เมื่อต้องออกเรือหาปลา ก็มักจะแวะสักการะเพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัยและแคล้วคลาดจากภัยทะเล
เตรียมแพลนเที่ยวเกาะกูด ช่วงไหนดีที่สุด

เกาะกูด มีสภาพอากาศค่อนข้างคงที่ตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส สามารถแบ่งระยะเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวเกาะกูด ออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
1. กลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม: ช่วงฤดูร้อน
เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวบนเกาะกูด ไม่มีมรสุม และไม่มีฝนตกหนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 27.8-28.4 องศาเซลเซียส เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งและกิจกรรมทางทะเลแบบชิล ๆ ไม่ว่าจะเป็นพายเรือ ดำน้ำชมปะการัง เล่นน้ำทะเล ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน
2. กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม: ช่วงฤดูมรสุม
เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 26.9-28.4 องศาเซลเซียส ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะกับการเที่ยวแหล่งธรรมชาติและทำกิจกรรมกลางแจ้งบนเกาะกูด เพราะอาจเดินทางลำบากจากพายุหรือคลื่นลมแรง
3. กลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์: ช่วงที่เหมาะกับการเที่ยวที่สุด
เป็นช่วงน่าเที่ยวที่สุดของเกาะกูดและเป็นช่วง High Season โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 26.4-27.3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบาย ไม่มีฝนตกหนัก น้ำทะเลสวย บรรยากาศดี เหมาะกับการทำกิจกรรมหลากสไตล์ อาทิ ดำน้ำ พายเรือ ตกปลา และพักผ่อนริมชายหาด
ปักหมุดแลนด์มาร์กใน ‘ตราด’ ที่ไม่ควรพลาด ได้ที่นี่!
- จุดเช็กอิน เที่ยวตราด รับลม ชมธรรมชาติ กินอาหารทะเลแบบจุใจ
- รวมพิกัดหาดยอดฮิตในจังหวัดตราด หาดทรายขาว พักผ่อนชิล
- รวมที่เที่ยวตราดไม่ไปเกาะ เสน่ห์ใหม่ที่รอคุณไปสัมผัส
บินลัดฟ้าเที่ยว ‘เกาะกูด’ ครบทุกสไตล์ไปกับ Bangkok Airways

สัมผัสการพักผ่อนครบทุกมิติ พร้อมกิจกรรมครบทุกสไตล์ ท่ามกลางบรรยากาศงดงามของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะกูด จังหวัดตราด หนึ่งในเกาะขนาดใหญ่ของไทยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหาดสวย ทะเลใส ป่าเขียวขจี และวิถีชีวิตอันเงียบสงบ ไปกับสายการบิน Bangkok Airways ด้วยเที่ยวบินตรงสู่ตราด พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน