เที่ยวพนมเปญ
ถึงพนมเปญจะเป็นเมืองที่อยู่ใกล้บ้านเรามากกกแต่พอมาถึงโมเมนต์ต้องจัดทริป เที่ยวพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ก็ทำเอาหลายคนสะดุดไปเหมือนกันว่า เอ๊ ้เราควรจะเริ่มจากตรงไหนดีนะ? แล้วไปเที่ยวไหนให้มันครอบคลุมแพลน 3 วัน 2 คืนที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด แต่วันนี้เพื่อนๆไม่ต้องกังวลไปนะคะ เราได้เตรียมแพลนคร่าวๆฉบับรวบตึงไว้ให้แล้ว รับรองว่าตามรอยง่าย เที่ยวได้ทั่ว คุ้มค่าการมาครั้งนี้แน่นอนค่ะ
วันแรก
ช่วงเช้าตรู่ อากาศสดใส แดดกำลังดี เราอยากให้เพื่อนๆเริ่มต้นวันด้วยการเที่ยวในตัวเมืองพนมเปญกันก่อน เริ่มที่การเข้าชม พระราชวังเขมรินทร์ วังหลวงซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์กัมพูชา ตั้งอยู่ในทำเลฝั่งตะวันตก ติดริมแม่น้ำ สร้างขึ้นในสมัยของสมเด็จนโรดม แล้วเสร็จเมื่อ พศ. 2409 หลังย้ายเมืองหลวงจากเมืองอุดงมีชัยมาเป็นกรุงพนมเปญ ที่นี่คือวังหลวงที่สวยงามล้ำค่าและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชาเลยน้า คล้ายๆกับเวลาฝรั่งมาเที่ยววัดพระแก้วบ้านเรา มันเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองขนาดนั้นเลยจริงๆนะ
จากนั้นเสริมพลังบุญให้ต่อเนื่องด้วยการเข้าชมวัดคู่พระราชวังอย่าง วัดพระแก้วมรกต หรือชื่อเดิม วัดอุโบสถรตนาราม ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกับพระบรมราชวังของกรุงพนมเปญ แล้วก็พระเจดีย์เงินที่นี่ศักดิ์สิทธิ์ไม่เบาเลยน้าา แถมยังสวยหมดจดทั้งองค์เลยจริงๆ ก่อนกลับอย่าลืมแวะมาให้เห็นเป็นบุญตากัน ขอพรเรื่องที่หวังได้ตามใจชอบเลยนะ
ช่วงกลางวัน เราแนะนำให้เพื่อนๆแวะมาทานอาหารที่ร้าน Romdeng ร้านอาหาร เขมรพื้นเมืองที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นรสชาติดั้งเดิมและมาพร้อมกับคอนเซปต์เก๋ๆ คือการทานอาหารอร่อยๆพร้อมกับครอบครัวท่ามกลางบรรยากาศและรสชาติแบบดั้งเดิม นี่คืออีก 1 ร้านดีๆที่อยู่ในสวนสวยและตึกเก่าแก่สไตล์โคโลเนียล เป็นส่วนตัวจากโลกภายนอกด้วยดงต้นไม้หนาเขียวชอุ่มและสระว่ายน้ำกลางร้านที่เพิ่มให้บรรยากาศดูโรแมนติกและผ่อนคลายในคราวเดียวกัน ใครอยากลองชิมๆอาหารพื้นถิ่นแบบดั้งเดิมที่หาได้ยากแต่ก็ยังแอบคิดถึงอาหารฟิวชั่นสมัยใหม่ ไม่ว่าจะมื้อเที่ยงหรือมื้อค่ำ ที่นี่จะไม่ทำให้เพื่อนๆผิดหวังค่ะ
บรรยากาศยามค่ำคืนก็สวยสงบไปอีกแบบ เหมาะกับดินเนอร์ดีๆซักมื้อในค่ำคืนแห่งเมืองหลวง
กินข้าวเติมพลังกันเสร็จ ช่วงบ่ายก็มาศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศกัมพูชากันหน่อยไหมคะ? พนมเปญมีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติกัมพูชา ที่เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวพนมเปญ ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งเลย เพราะภายในเก็บรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าของกัมพูชาตั้งแต่ยุคเก่าที่สุดราว 1,500 ปี จนถึงศิลปะสมัยบายน เมื่อ 800 ปีที่ผ่านมา ว่ากันว่านี่คือแหล่งเรียนรู้ชั้นดีของชาวเขมรเค้าเลยละค่า
ช่วงเย็นอากาศร่มๆแบบนี้ คงไม่มีที่ไหนเหมาะไปกว่าการเดินกินลมชมวิวบริเวณแม่น้ำบาสักหน้าพระราชวัง ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือพูดภาษาบ้านๆก็ได้ว่าเป็นแหล่งที่คนโลคอลจูงหมาจูงแมวมาจ็อกกิ้งนั่นเอง555 หรือใครสนใจอยากล่องเรือเที่ยวชมจัตุรมุขหน้าพระราชวังก็ดีนะคะ จุดนี้คือเป็นจุดซึ่งแม่น้ำทั้ง 4 สายอย่าง แม่น้ำโขงบน แม่น้ำโขงล่าง แม่น้ำสาบ และแม่น้ำบาสัก มารวมกัน มันคงเป็นกิจกรรมที่ให้เราได้เห็นกรุงพนมเปญในมุมมองที่ต่างออกไปได้ชิลที่สุดและละเอียดที่สุด
ก่อนที่ช่วงคํ่าจะปิดท้ายด้วยการทานอาหารในร้าน MALIS ร้านอาหาร ที่มีอาหารเขมรต้นตำรับดั้งเดิมหายาก แถมยังมีตึกทรงโมเดิร์นและบรรยากาศสไตล์ 5 ดาวเป็นจุดขาย เราไม่แปลกใจเลยว่าใครๆถึงอยากมาดินเนอร์มื้อค่ำในกรุงพนมเปญกันที่นี่
วันที่สอง
ช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 2 อยากจะชวนทุกคนมาเที่ยววัดพนม วัดสำคัญใจกลางกรุงพนมเปญ วัดนี้เป็นที่มาของชื่อพนมเปญเชียวนะ ตั้งอยู่บนเนินเขามีความสูงประมาณ 27 เมตร ประตูทางเข้าหันไปทางทิศตะวันออก ทางขึ้นมีบันไดนาคสวยงาม สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1926 เป็นวัดที่ชาวกัมพูชาเลื่อมใสศรัทธามาก เราๆเองเข้าเมืองเขา ก็ควรมาสักการะไว้เพื่อความสิริมงคลนะคะ โลเคชันของวัดก็อยู่บนเขาลูกน้อยๆ มีป่าดงล้อมรอบ และมองเห็นวิวเมืองได้อีกด้วย ดีงามสมเป็นวัดประจำเมืองจริงๆเลยเน้อ
จากวัดพนมเดินทางไปอีกแค่ 3-4 กม. เพื่อนๆก็จะได้มาเจอกับที่เที่ยวที่นับได้ว่าเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และบาดแผลของสงครามกัมพูชาก็ว่าได้ ที่นี่มีชื่อว่า คุกตวลสเลง หรือค่าย S-21 เดิมทีเป็นโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่ของกรุงพนมเปญ ต่อมาได้ถูกเขมรแดงใช้เป็นสถานที่กักขังนักโทษและมีเรื่องราวการทรมานนักโทษต่างๆมากมายดังที่เห็นตามอุปกรณ์และห้องหับต่างๆที่ยังหลงเหลือจนถึงปัจจุบันนี้ อาจดูน่าสะเทือนใจแต่ก็ทำให้เราเข้าใจความเป็นมาของเขมรมากขึ้นนะคะ
เติมพลังกับมื้อกลางวันกันหน่อยไหม? เราแนะนำที่นี่เลย ร้านอาหารพนมเปญ ชื่อ Spicy Sister เป็นร้านอาหารไทย-เขมร ชื่อดังที่เชฟมีประสบการณ์ในครัวกว่า 10 ปีเชียวนะ ใครคิดถึงอาหารไทย บริการดีๆ และชอบมื้ออาหารที่แต่ละจานนั้นปรุงด้วยความใส่ใจใส่แพชชั่นลงไปอีกนิด Spicy Sister คืออีก 1 ร้านอาหารสะอาด การจัดตกแต่งสวยงามดูดีรสนิยม ก็ไม่ควรพลาดนะคะ
ช่วงบ่าย ไปต่อกันอีกสักวัดนะคะ วัดนี้มีชื่อว่า วัดอุณาโลม เป็นศูนย์กลางคณะสงฆ์ของกัมพูชาเลยนะ และถือเป็นวัดที่สำคัญที่สุดในกรุงพนมเปญเนื่องจากมีประวัติความเป็นมายาวนานมากๆ ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 15 ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในวัดที่ชาวพุทธควรไปกราบไหว้ วัดนี้อยู่ใจกลางเมืองเลยนะ มีรถวิ่งผ่านไปมาไม่ขาดสาย แถมยังอยู่ใกล้พระราชวังแค่ 500 เมตรด้วยน้า
แดดร่มลมตก ช่วงบ่ายแก่ๆก็ลองไปชมธรรมชาติผสานความชนบทของพนมเปญกันดูน้า และกิจกรรมนั้นคือการล่องเรือเที่ยวโตนเลสาบ หรือ ทะเลสาบเขมร สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเชียวนะ อาจจะอยู่ห่างจากกรุงพนมเปญไกลซักหน่อยแต่เราก็เชื่อว่าคุ้มค่ามากๆถ้าเพื่อนๆได้มาเห็น โตนเลสาบ คือทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนๆสามารถนั่งเรือชมวิถีชีวิตคนพื้นเมืองได้ที่ชุมชนกำปงหลวง ชุมชนชาวประมงลอยน้ำที่มีผู้อยู่อาศัยกว่า 1,200 ครัวเรือน เห็นไหมล๊า ได้ทั้งชมวิวสวยๆ แถมยังได้พบเห็นวิถีชีวิตชาวประมงลุ่มน้ำกัมพูชาอีกด้วย ดีงามมากๆค่า
ตกเย็นก็กลับเข้ามาในเมืองกันจ้า มาเที่ยวตลาดกลางพนมเปญ กันดีกว่า หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า Central Market ที่สร้างโดยฝรั่งเศสสมัยที่กัมพูชาตกอยู่ในอาณานิคม ในปี 1937 มีลักษณะคล้ายตลาดนัดจตุจักรบ้านเราเลย มีสินค้าเกือบทุกสิ่งให้เพื่อนๆเลือกซื้อกัน ที่นี่แหละคือตลาดที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในทวีปเอเชียเลยนะ
มื้อค่ำวันก่อนกลับ ลองมาทานทานอาหารนานาชาติกันบ้างดีกว่า นี่เลย เราแนะนำร้าน FCC Phnom Penh มันคือร้านอาหารยุโรปในกรุงพนมเปญอยู่ในตึกทรงโคโลเนียลสไตล์ฝรั่งเศสริมแม่น้ำ ทั้งพิซซ่า สเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ รวมถึงเบียร์ชั้นดี หากินได้ที่ร้านนี้เลยยย
วันที่สาม
และมาถึงช่วงเช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ ใครที่เบื่ออาหารเช้าในโรงแรม เราขอแนะนำเพื่อนๆให้ลองไปทานก๋วยเตี๋ยวหมูที่ร้าน Noodle 126 กันนะคะ ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆตลาดสด Kandal เป็นร้านชื่อดังในกรุงพนมเปญที่มีคิวยาวเหยียดทุกวัน ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใสที่นี่ก็อร่อยถูกจริตคนไทยมากก ><
ก่อนจะกลับขอแวะอีกซักที่สองที่เบาๆนะ ชวนเพื่อนไปถ่ายภาพกันที่ อนุสาวรีย์อิสระภาพ แลนด์มาร์คของกรุงพนมเปญที่สร้างขึ้นในปี 1958 เพื่อเฉลิมฉลองความเป็นอิสระภาพของกัมพูชาจากอาณานิคมของต่างชาติ ออกแบบเป็นลักษณะดอกบัวเหมือนยอดปราสาทในนครวัด สวยงามทั้งในตอนกลางวันและกลางคืนเลย แถมโลเคชันก็ใจกลางเมืองสุดๆเพราะตั้งอยู่กลางแยกระหว่างถนนนโรดมและสีหนุ ถ้าจะเทียบกับบ้านเราก็คงพอๆกับอนุสาวรีย์ชัยเลย
ปิดท้ายทริป เที่ยวพนมเปญ ด้วยการช้อปปิ้งซื้อของฝากที่ตลาดชื่อดังอย่าง ตลาดรัสเซีย หรือ ตลาดตวลตะปุง แหล่งรวมสินค้าที่มีความหลากหลายทั้งของฝาก ของสด รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกมากมาย ใครที่เงินเรียลกัมพูชาเหลือ นี่ล่ะคือโอกาสเหมาะเจาะสุดๆ อิๆ
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สนใจอยากเดินทางไปเที่ยวกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สามารถตรวจสอบ ราคาตั๋วเครื่องบิน ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สในเส้นทาง กรุงเทพฯ – พนมเปญ ได้เลยที่ Bangkok Airways