Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

15 ที่เที่ยวดอยอินทนนท์ ยอดเขาสูงสุดในไทย เช็กอินทุกจุดไฮไลต์

15 ที่เที่ยวดอยอินทนนท์ ยอดเขาสูงสุดในไทย เช็กอินทุกจุดไฮไลต์
Table of Contents

Bangkok Airways สรุปให้

  • อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งยอดเขาสูงตระหง่าน สวนดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส ทะเลหมอกขาวหนานุ่มในยามเช้า ไปจนถึงศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ มาออกเดินทางไปหยุดพักใจกลางธรรมชาติกัน
  • ดอยอินทนนท์ ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของสายธรรมชาติ เพราะเต็มไปด้วยจุดเช็กอินหลากสไตล์ อาทิ กิ่วแม่ปาน เส้นทางชมทะเลหมอกสุดอลังการ, น้ำตกแม่ยะ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของไทย และผาแง่ม จุดชมวิวสุดอันซีนที่เรียกกันว่า ผาสองฤดู

เหนือสุดของสยาม จุดที่สูงที่สุดแห่งนี้ยังซ่อนความงดงามของธรรมชาติและเสน่ห์ที่ควรไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต ถ้าคุณกำลังมองหาทริปพักใจ ที่ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองในจังหวะที่ช้าลง ต้องไปเที่ยวที่ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และในบทความนี้ Bangkok Airways จะพาไปค้นพบ 15 จุดไฮไลต์ที่ต้องไม่พลาดไปเช็กอิน ให้ครบทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และความสงบที่หาได้ยากจากในเมือง

สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ครอบคลุมท้องที่อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และอำเภอดอยหล่อ รวมถึง ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงถึง 2,565 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่เต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงาม และอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจลดต่ำถึงขั้นติดลบ จึงเป็นหมุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหนีร้อนมาชมทะเลหมอกที่สวยที่สุด

เสน่ห์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มาจากความหลากหลายทางธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่น่าประทับใจครบทุกบรรยากาศ ทั้งภูเขาสูงตระหง่าน น้ำตกตระการตา สวนดอกไม้หลากสีสัน ทะเลหมอกหนา ไปจนถึงศาสนสถาน เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติทุกสาย ทั้งสายแอดเวนเจอร์ สายชิล หรือสายโลคอล

เดินป่าระยะไกลบนยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อมาเที่ยวดอยอินทนนท์ อย่าพลาดตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอก เดินเส้นทางธรรมชาติกิ่วแม่ปาน สักการะพระมหาธาตุคู่กลางขุนเขา เดินเล่นในป่าเมฆอ่างกาหลวง แวะชมน้ำตกวชิรธารที่เงียบสงบ จิบกาแฟสดจากไร่ชาวเขา ถ่ายภาพสวย ๆ ที่ผาแง่ม ชมวิวพระอาทิตย์ตก หรือจะกางเต็นท์นอนดูดาวก็โรแมนติก พร้อมปล่อยให้ธรรมชาติช่วยฮีลใจได้ตลอดวัน

รวม 15 จุดไฮไลต์บนดอยอินทนนท์ ที่ต้องไปเช็กอิน

1. กิ่วแม่ปาน

กิ่วแม่ปาน ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

เส้นทางสำหรับสายรักการเดินป่าต้องที่ กิ่วแม่ปาน ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดฮิตที่มีความยาวประมาณ 2.8 กิโลเมตร พาเดินผ่านภูมิทัศน์ที่หลากหลาย แบ่งออกได้เป็น 4 ระยะ 

  • ช่วงแรก: เดินลัดเลาะผ่านป่าดิบชื้นที่เขียวชอุ่มตลอดปี มีบันไดไม้สลับกับทางเดินดิน ระหว่างทางจะพบต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมด้วยมอสและเฟิร์นเขียวสดหนาแน่น สะท้อนถึงความชุ่มชื้นของระบบนิเวศ
  • ช่วงที่สอง: ทุ่งหญ้ากว้างที่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเขียวขจีด้วยหญ้าและพืชสมุนไพร อย่าง กูดเกี๊ยะ แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง ทุ่งนี้จะเปลี่ยนสีเป็นเหลืองทองทั่วทั้งพื้นที่
  • ช่วงที่สาม: จุดชมวิวกิ่วแม่ปานแบบพาโนรามา ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 2,400 เมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยอดนิยม ระหว่างทางจะได้พบกับ “กุหลาบพันปีแดง” หรือ “ดอกคำแดง” ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งอินทนนท์ บานสวยเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม
  • ช่วงสุดท้าย: เส้นทางค่อย ๆ ลัดเลาะลงสู่ลำห้วยแม่ปาน ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่และเสียงธรรมชาติ ทั้งเสียงน้ำไหล เสียงนกป่า และลมเย็นจากผืนป่า เป็นช่วงท้ายของเส้นทางที่สวยและผ่อนคลาย

เส้นทางกิ่วแม่ปานนี้เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วง 1 พฤศจิกายน – 31 พฤษภาคม เท่านั้น และต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทางตลอดเส้นทาง ค่านำทางประมาณ 200 บาท ซึ่งนอกจากจะปลอดภัย ยังได้ฟังเรื่องเล่าธรรมชาติระหว่างทางจากชุมชนอย่างใกล้ชิด โดยมีช่วงที่สวยที่สุดคือ เดือนธันวาคมถึงมกราคม อากาศหนาว หมอกหนา และทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีทองอย่างงดงาม

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

2. พระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

พระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

เดินจากกิ่วแม่ปานเพียง 700 เมตร จะพบกับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุเจดีย์คู่กลางขุนเขา ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 2,142 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมด้วยสวนขั้นบันไดที่ตกแต่งด้วยดอกไม้เมืองหนาวหลากสีที่ผลิบานสลับหมุนเวียนตลอดปี

ที่นี่ยังมีจุดชมวิวแบบพาโนรามา ที่เปิดกว้างให้เห็นทิวเขาซ้อนกันและทะเลหมอกลอยจาง ๆ แบบละมุนตา การเดินขึ้นสู่ยอดสะดวกสบาย ด้วยบันไดเลื่อน จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกวัย ทั้งเพื่อการสักการะเสริมสิริมงคลหรือการพักใจท่ามกลางความงามของธรรมชาติ

3. อ่างกาหลวง

อ่างกาหลวง ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

เช็กอินบรรยากาศป่าเมฆ ที่อ่างกาหลวง เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนยอดดอยอินทนนท์ ที่จะพาเข้าสู่โลกของป่าดิบเขาระดับสูง ซึ่งชุ่มชื้นและเงียบสงบตลอดปี เส้นทางระยะสั้นประมาณ 400 เมตรนี้ เป็นสะพานไม้ที่ทอดตัวลัดเลาะกลางป่าใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 

โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะถูกหมอกปกคลุมเกือบตลอดทั้งวัน และยังเป็นหนึ่งในจุดที่สามารถพบปรากฏการณ์เหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง ได้บ่อยครั้ง เส้นทางนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เวลาสงบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ หรือมองหามุมถ่ายภาพเท่ ๆ ในฉากหมอกลอยละมุนเหนือสะพานไม้กลางป่าเขียวขจี

4. น้ำตกแม่ปาน

น้ำตกแม่ปาน ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

น้ำตกแม่ปาน น้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผาสูงมากกว่า 100 เมตร เป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ โอบล้อมด้วยป่าไผ่และป่าดงดิบเขียวขจีตลอดเส้นทาง เที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงที่แนะนำคือ ปลายฝนต้นหนาว ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ เพราะน้ำใสเย็นชื่นใจ และอากาศก็กำลังสบาย 

บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีแอ่งน้ำธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นได้ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะกับสายชิลที่อยากใช้เวลากับธรรมชาติแบบช้า ๆ สบาย ๆ

5. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

ดื่มด่ำความงามของดอกไม้เมืองหนาวท่ามกลางอากาศเย็นสบายตลอดปี ที่ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ โครงการหลวงในอำเภอจอมทอง เป็นศูนย์กลางงานเกษตรบนพื้นที่สูงและแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่อบอุ่นหัวใจ ไฮไลต์คือ สวน 80 พรรษา แปลงไม้ดอกเมืองหนาวสีสันสดใส โรงเรือนรวบรวมเฟินพันธุ์หายาก และผักไฮโดรโพนิกส์ พร้อมวิวขุนเขาที่รายล้อม

นอกจากแปลงเกษตร นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของ ชาวเขาเผ่าม้ง ที่อยู่โดยรอบสถานี เรียนรู้การทอผ้า การเกษตรพื้นบ้าน และภูมิปัญญาที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น อีกหนึ่งมุมที่น่ารักไม่แพ้กันคือ ม่อนน้องแกะ บนดอยผาตั้ง ซึ่งอยู่ภายในสถานีฯ เป็นพื้นที่เลี้ยงแกะที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปและป้อนอาหารอย่างใกล้ชิด ขนแกะที่ได้จะถูกนำไปใช้ทำเป็นเส้นด้ายและทอเป็นผ้าทอพื้นบ้านในชุมชน ถือเป็นตัวอย่างที่ลงตัวของการใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างยั่งยืน

6. พระตำหนักดอยผาตั้ง

พระตำหนักดอยผาตั้ง ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

พระตำหนักดอยผาตั้ง ตั้งอยู่ในอำเภอจอมทอง บนความสูงกว่า 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นอีกหนึ่งมุมเงียบสงบบนดอยอินทนนท์ที่เหมาะกับการพักใจ และชมวิวภูเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา 

ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ในช่วงเดือนมกราคม เมื่อดอกพญาเสือโคร่งพากันผลิบาน เติมแต้มสีชมพูละมุนทั่วทั้งพื้นที่ ยิ่งในยามเช้า ทะเลหมอกจะลอยอ้อยอิ่ง สลับกับแสงแดดอุ่น ๆ ที่ส่องลอดตามทิวเขา กลายเป็นภาพที่อบอุ่นไปถึงข้างในหัวใจ

7. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)

ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

สัมผัสบรรยากาศแบบชนบทท่ามกลางสวนผลไม้เมืองหนาวบนดอยอินทนนท์ที่ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ที่นี่เคยเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น ก่อนจะได้รับการพัฒนาโดยพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้กลายเป็นศูนย์ทดลองพืชบนที่สูง เพื่อส่งเสริมอาชีพและคุณภาพชีวิตของชาวเขา จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรยอดนิยม

กิจกรรมที่นี่มีหลากหลายให้เลือกทำตลอดวัน ทั้งส่องนก เดินชมแปลงไม้ผลเมืองหนาวที่เรียงราย ทั้งสาลี่ พลัม ท้อ แนคตารีน หรือสตรอว์เบอร์รี่ พร้อมชมแปลงกาแฟและโรงกะเทาะเปลือกกาแฟแบบใกล้ชิด 

ยิ่งเที่ยวในช่วงฤดูหนาวบรรยากาศจะโรแมนติก เพราะทั้งดอยจะกลายเป็นสีชมพูจากดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระดอยที่ผลิบานพร้อมกันในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ หากนักท่องเที่ยวอยากพักค้างแรมสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม ที่นี่ก็มีทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ และอาหารบริการในราคาสบาย ๆ

8. ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ

ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

อีกหนึ่งจุดยอดนิยมที่ต้องแวะเช็กอิน เมื่อมาเที่ยวดอยอินทนนท์ในช่วงฤดูหนาว ที่ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงขุนแปะ ทุ่งเล็ก ๆ กลางหุบเขาในอำเภอจอมทองที่เต็มไปด้วยอากาศเย็นสบายและวิวธรรมชาติแสนละมุน 

โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวที่ดอกไม้บานสะพรั่งทั่วแปลง และเป็นช่วงที่เปิดให้เข้าชมสวนได้อย่างเป็นทางการ ไฮไลต์อยู่ที่สีสันของดอกไฮเดรนเยียฟ้า ม่วง และขาวที่เรียงรายอยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายหมอกบางในยามเช้า โดยมีค่าเข้าชมสวนเพียง 30 บาทเท่านั้น

9. ผาแง่ม (ผาสองฤดู)

ผาแง่ม ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

จุดชมวิวสุด Unseen บนดอยอินทนนท์ ที่ผาแง่ม ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง เป็นแนวผาหินขนาดใหญ่ 2 แท่งที่ตั้งคู่กันริมเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ไฮไลต์ของผาแง่มคือช่วงเช้าที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาแบบครึ่งซีก ขณะที่อีกฝั่งยังคงเห็นแสงแดดอุ่นส่องผ่าน เหมือนยืนอยู่ในบรรยากาศสองฤดู จึงเรียกอีกชื่อว่า “ผาสองฤดู”

ด้านบนของหน้าผายังเป็นที่ตั้งของ พระธาตุขุนวาง ที่ประดิษฐานบนความสูงกว่า 2,150 เมตร จากระดับน้ำทะเล ให้ผู้มาเยือนได้แวะสักการะเสริมความเป็นสิริมงคล หากแวะไปในช่วงหน้าหนาว จะพบดอกไม้ป่าหายากอย่าง กุหลาบพันปี และดอกคำขาว ผลิบานตามหน้าผา เพิ่มความละมุนให้กับบรรยากาศยิ่งขึ้น

10. เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว – น้ำตกรักจัง

เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว - น้ำตกรักจัง ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว หนึ่งในเส้นทางเดินป่าระยะสั้น ประมาณ 2.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 2-2.5 ชั่วโมง เริ่มต้นที่กิโลเมตรที่ 30 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ผ่านเส้นทางลัดเลาะเข้าสู่ป่าดิบเขา ลำธาร สะพานไม้ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์

ไฮไลต์อยู่ที่ น้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือที่รู้จักกันในชื่อ “น้ำตกรักจัง” น้ำตกขนาด 10 ชั้น ที่ซ่อนตัวท่ามกลางแมกไม้ที่เขียวชอุ่ม โดยเฉพาะชั้นที่ 7 สูงประมาณ 20 เมตร ถือเป็นชั้นที่สวยที่สุด เหมาะกับสายเดินป่ามือใหม่ หรือคนที่อยากปล่อยใจไปสัมผัสธรรมชาติในมุมที่ได้ยินแต่เพียงเสียงของธรรมชาติ

11. บ้านแม่กลางหลวง

บ้านแม่กลางหลวง ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

จากเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว จะพบกับบ้านแม่กลางหลวง หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาของดอยอินทนนท์ ในตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง โอบล้อมด้วยทุ่งนาขั้นบันได สายน้ำ และสายหมอก บรรยากาศเงียบสงบชวนให้ใช้ชีวิตช้าลง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม ทุ่งนาจะขับสีเขียวสดใสตัดกับความเข้มของป่าดิบชื้นบนขุนเขาและม่านหมอกจางที่เคลื่อนตัวตามลมช้า ๆ ในยามเช้า

ไฮไลต์สำคัญของที่นี่ คือ การเที่ยวแบบใกล้ชิดชุมชน โดยมีไกด์ท้องถิ่นคอยดูแลและเล่าเรื่องระหว่างทาง ที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก ทั้งชิมกาแฟอาราบิก้าสดจากไร่ ชมการทอผ้ากี่เอวของชาวปกาเกอะญอ เดินเที่ยวชมวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย หรือจะนั่งทานอาหารท้องถิ่นร้อน ๆ จากฝีมือชาวบ้านก็อิ่มทั้งท้องและใจ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ได้สัมผัสทั้งธรรมชาติและชุมชนไปพร้อมกัน

12. น้ำตกแม่ยะ

น้ำตกแม่ยะ ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

หากพูดถึงน้ำตกที่สวยและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย น้ำตกแม่ยะ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คงติดอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมากว่า 30 ชั้น รวมความสูงกว่า 260 เมตร ท่ามกลางผืนป่าเขียวขจีที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศร่มรื่น เย็นฉ่ำ และเสียงน้ำกระทบหินที่ดังก้องไปทั่วหุบเขา 

บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีลานหินธรรมชาติที่เหมาะกับการนั่งพัก เล่นน้ำ หรือปิกนิกชิล ๆ น้ำตกแห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำตกไหลแรง ผืนป่าเขียวสด และม่านหมอกเสริมความชีวิตชีวาจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจ

13. ไร่ภูผาหมวก

ไร่ภูผาหมวก ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางขุนเขาที่ ไร่ภูผาหมวก ไร่เกษตรเล็ก ๆ บนดอยอินทนนท์ อำเภอเชียงดาว ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อนในโฮมสเตย์แบบกระท่อมไม้หลังเล็ก ๆ เพียง 7 หลัง ที่ซ่อนตัวอยู่ริมไหล่เขา ได้ตื่นมาสัมผัสอากาศเย็น ฟังเสียงนกร้องยามเช้า และชมวิวหมอกจากหน้าต่างห้องพัก โดยจะเปิดให้เข้าพักเฉพาะช่วงเดือนกันยายนถึงกุมภาพันธ์เท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด 

ไฮไลต์ห้ามพลาดคือ สะพานไม้กลางทุ่งดอกไม้เมืองหนาว ที่เบ่งบานหลากสีในฉากหลังของทิวเขา พร้อมชุดหมูกระทะร้อน ๆ ที่เสิร์ฟท่ามกลางอากาศเย็น ๆ บนระเบียงหน้าห้อง นั่งกินไป ชมหมอกไป บอกเลยว่า ฟินไม่แพ้ที่ไหนแน่นอน

14. น้ำตกวชิรธาร

น้ำตกวชิรธาร ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

อีกหนึ่งน้ำตกสุดอลังการบนดอยอินทนนท์ คือ น้ำตกวชิรธาร สายน้ำขนาดใหญ่ที่ตกจากหน้าผาสูงกว่า 70 เมตร ลงมากระทบโขดหินเบื้องล่างเกิดเป็นม่านน้ำฟุ้งกระจาย ท่ามกลางผืนป่าดิบเขาเขียวขจี บรรยากาศเย็นฉ่ำตลอดปี จนกลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่เข้าถึงง่ายและเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกวัย

ที่นี่มีจุดชมวิวหลัก ๆ อยู่ 2 จุด คือ จุดชมวิวด้านหน้า ที่สามารถสัมผัสความอลังการของสายน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด และ จุดชมวิวด้านบน ที่มองลงมาเห็นสายน้ำไหลจากหน้าผาสู่พื้นดิน ได้แบบพาโนรามาจากมุมสูง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวจนถึงฤดูร้อน ระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายน บรรยากาศสวย เขียวขจี และมีโอกาสได้เห็นรุ้งกินน้ำท่ามกลางละอองน้ำที่สวยที่สุด

15. ห้วยกุ๊บกั๊บ

ห้วยกุ๊บกั๊บ ที่เที่ยวดอยอินทนนท์

พักกายพักใจจากความวุ่นวาย แล้วปล่อยตัวท่ามกลางธรรมชาติ ที่ ห้วยกุ๊บกั๊บ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าลาหู่ หรือมูเซอแดง บนดอยสูงในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังคงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเงียบสงบ มีเพียงราว 40 หลังคาเรือน รายล้อมด้วยป่าสน ขุนเขา และอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะกับสายสโลว์ไฟล์ที่ต้องการมาใช้ชีวิตช้า ๆ นอนโฮมสเตย์ จิบกาแฟ ชมทะเลหมอก และพูดคุยกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิด

ไฮไลต์ของบ้านห้วยกุ๊บกั๊บ คือ กิจกรรมเดินป่าขึ้น ผาสามเหลี่ยม ยอดดอยที่สูงที่สุดของอำเภอแม่แตง มีความสูงประมาณ 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยเริ่มต้นจากหมู่บ้าน นั่งรถ 4×4 ขึ้นไปประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นเดินเท้าผ่านแนวป่าสนอีก 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงก็จะถึงจุดชมวิวบนยอดเขา ที่เปิดให้เห็นวิวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางทะเลหมอกหนาที่แทรกตัวทิวเขาแบบคดเคี้ยวเหมือนสายน้ำไหลทอดไกลสุดสายตา

วิธีการเดินทางมาดอยอินทนนท์จากเชียงใหม่

การเดินทางเที่ยวดอยอินทนนท์
  • รถยนต์ส่วนตัว: จากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับตามทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-จอมทอง) ถึงอำเภอจอมทอง แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวง 1009 ขึ้นดอยอินทนนท์ รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร
  • รถโดยสารประจำทาง: นั่งรถสองแถวสายเชียงใหม่-จอมทองจากประตูเชียงใหม่ มาลงที่อำเภอจอมทอง แล้วต่อรถสองแถวจากหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองขึ้นดอย เส้นทางนี้ใช้งบประหยัด แต่ถ้าอยากสะดวก แนะนำเหมารถเที่ยว
  • เช่ามอเตอร์ไซค์: สามารถเช่าจากในเมืองเชียงใหม่หรือที่อำเภอจอมทองก็ได้ โดยมีค่าเช่าวันละประมาณ 200-300 บาท

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวดอยอินทนนท์

เที่ยวดอยอินทนนท์ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด

1. เดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์: ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด

ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดของดอยอินทนนท์ คือ ฤดูหนาว ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิบนยอดดอยอาจลดลงถึง -2 องศา พร้อมทะเลหมอกหนาปกคลุมทั่วป่าเขา สามารถเที่ยวได้ครบทุกสไตล์ เพราะจุดท่องเที่ยวบางแห่งจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงนี้ อาทิ กิ่วแม่ปานเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน – 31 พฤษภาคม และดอกไม้เมืองหนาวก็บานสะพรั่งเต็มที่ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสลมหนาวและชมความงามของธรรมชาติบนยอดดอยสูงสุดในไทย

2. เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน: ช่วงฤดูร้อน

เป็นช่วงฤดูร้อนของดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อากาศจะแห้งและร้อนที่สุดในรอบปี เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่าศึกษาธรรมชาติขึ้นยอดดอย หรือหลบร้อนด้วยการแวะชมน้ำตกใสเย็นตามจุดต่าง ๆ

3. เดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม: ช่วงฤดูฝน

เป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกชุกและอากาศชุ่มฉ่ำ เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสความเงียบสงบของผืนป่าในมุมที่ต่างออกไป ต้นไม้ใบหญ้าเขียวสดชื่นที่สุดในช่วงนี้ ม่านหมอกบางคลอเคลียยอดไม้ และเป็นฤดูกาลที่ผืนป่าของดอยอินทนนท์เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

รวมคำถาม-คำตอบก่อนเที่ยวดอยอินทนนท์

เที่ยวดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ฤดูไหนมีโอกาสเห็นเหมยขาบบนดอยอินทนนท์?

ฤดูที่มีโอกาสได้เห็นเหมยขาบ หรือแม่คะนิ้ง บนดอยอินทนนท์ คือ ฤดูหนาว ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม

อุทยานดอยอินทนนท์มีค่าเข้าเท่าไหร่

คนไทย: ผู้ใหญ่ 60 บาท, เด็ก 30 บาท
ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 300 บาท, เด็ก 150 บาท
รถยนต์: 4 ล้อ 30 บาทต่อคัน / 6 ล้อ 100 บาทต่อคัน / มากกว่า 6 ล้อ 200 บาทต่อคัน 
รถจักรยานยนต์: 20 บาทต่อคัน

อุทยานดอยอินทนนท์เปิดกี่โมง

อุทยานฯ ดอยอินทนนท์เปิดให้เช้าชม ตั้งแต่เวลา 05.00 – 18.00 น.

เดินป่าที่ดอยอินทนนท์ต้องมีไกด์ไหม?

ขึ้นอยู่กับเส้นทาง แต่หากเป็นมือใหม่หรือเดินป่าระยะไกลที่ดอยอินทนนท์ควรมีไกด์นำทางเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เช่น กิ่วแม่ปาน จะมีไกด์ชาวบ้านคอยดูแลตลอดการเดินทาง โดยมีค่าบริการเพียง 200 บาท/กลุ่ม

มีที่พักบนดอยอินทนนท์ไหม?

บนดอยอินทนนท์มีที่พักหลายแบบให้เลือกตามต้องการ ทั้งบ้านพักของอุทยานฯ, ลานกางเต็นท์ อย่าง ผาสองฤดู, โฮมสเตย์ชาวเขา เช่น บ้านแม่กลางหลวงและบ้านขุนวาง รวมถึง รีสอร์ตเล็ก ๆ ใกล้จุดท่องเที่ยวหลัก อาทิ พระมหาธาตุฯ และสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ แนะนำจองล่วงหน้า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเที่ยวช่วงหน้าหนาว เพราะเป็นช่วงไฮซีซันที่นักท่องเที่ยวจองเต็มเร็วมาก

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจองที่พักของกรมอุทยานแห่งชาติฯ สามารถจองผ่านเว็บไซต์ (nps.dnp.go.th) หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

ติดต่อสอบถามข้อมูลการจองที่พักอุทยานแห่งชาติ
โทรศัพท์: 02-562-0760 ถึง 3 หรือ 02-561-0777 ต่อ 1743, 1744
อีเมล์: banpak025795269@gmail.com

มีร้านอาหารบนดอยอินทนนท์ไหม?

บนดอยอินทนนท์มีร้านอาหารให้บริการหลายจุด โดยเฉพาะในบริเวณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, ลานจอดรถพระมหาธาตุฯ, สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ และตามหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น บ้านแม่กลางหลวง และ บ้านขุนวาง ทั้งอาหารตามสั่ง อาหารพื้นเมือง และกาแฟสดจากชุมชน ราคาไม่แพง

ค้นพบพิกัดเที่ยวเชียงใหม่ครบทุกมิติ ได้ที่นี่

ออกเดินทางไปเช็กอินที่ดอยอินทนนท์แบบชิค ๆ กับ Bangkok Airways

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

เช็กอินครบทุกบรรยากาศแห่งธรรมชาติ พร้อมพักใจท่ามกลางขุนเขาและสายหมอกที่ดอยอินทนนท์ ไปกับ สายการบิน Bangkok Airways ด้วยเที่ยวบินตรงสู่จังหวัดเชียงใหม่แบบ Full Service ที่พร้อมดูแลคุณอย่างครบครัน ทั้งบริการพิเศษและมาตรฐานระดับสากลตลอดการเดินทาง เพื่อเติมเต็มทุกช่วงเวลาให้กลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ

  • บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
  • น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
  • การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
  • บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน

Share This Story with your travel friends!
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
Related Posts