Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

พาชม 10 เกาะในจังหวัดตราด ปลายทางในฝันของคนรักท้องทะเล

พาชม 10 เกาะในจังหวัดตราด ปลายทางในฝันของคนรักท้องทะเล
Table of Contents

Bangkok Airways สรุปให้

  • จังหวัดตราด ประกอบด้วยหมู่เกาะกว่า 66 เกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เกาะช้าง เกาะใหญ่ที่สุดที่จัดเต็มสีสันและความคึกคัก เกาะกูดรวมครบทุกกิจกรรม และเกาะหวาย เกาะเล็กเงียบสงบเหมาะกับการพักใจ ทำให้ตราดกลายเป็นจุดหมายในฝันของคนรักทะเลและการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์
  • เที่ยวเกาะตราดแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม การันตีด้วยรางวัลและโครงการระดับสากล เช่น เกาะช้างติดอันดับ Green Destination Top 100 Stories ปี 2025 เกาะหมากคว้าอันดับ 2 รางวัล Green Destinations Top 100 Stories ปี 2023 และเกาะหวาย ที่ร่วมเป็นหนึ่งในพื้นที่ฟื้นฟูธรรมชาติในโครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ฯ โดย ICEF

ตราด จังหวัดเล็ก ๆ ริมทะเลอ่าวไทย ที่เต็มไปด้วยหมู่เกาะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นมุมเซฟโซนเงียบสงบสำหรับพักใจ หรือแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่รออยู่ Bangkok Airways พาชม 10 เกาะในจังหวัดตราด พร้อมอัปเดตไฮไลต์น่าเที่ยวที่จะช่วยเติมเต็มจังหวะชีวิตและความสุขที่เรียบง่ายของคนรักท้องทะเล

10 เกาะในจังหวัดตราดที่ไม่ควรพลาดปี 2568

1. เกาะช้าง

เกาะช้าง จังหวัดตราด

เกาะช้าง ตั้งอยู่บริเวณชายแดนฝั่งตะวันออกของไทย เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต ด้วยพื้นที่กว่า 268,125 ไร่ ที่รายล้อมด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่มากกว่า 52 เกาะ และยังได้รับการยกย่องจากสื่อต่างประเทศ เช่น

  • อันดับ 1 สถานที่ดีที่สุดในโลก เหมาะกับการฮันนีมูน จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของอังกฤษ  enjoytravel.com
  • สถานที่พักผ่อนเขตร้อนชื้นที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก โดยนิตยสาร Travel + Leisure ในปี 2024 
  • ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนของโลก (Green Destination Top 100 Stories) ประจำปี 2025 อีกด้วย

จุดดำน้ำเรือหลวงช้าง (Htms Chang Dive's Spot) เกาะช้าง จังหวัดตราด

ที่เกาะช้างมีกิจกรรมครบหมด ตั้งแต่หาดทรายขาว น้ำทะเลใส และแนวปะการังหลากสีสันสำหรับคนรักการดำน้ำ 

  • หาดทรายขาว ด้านตะวันตกของเกาะ ซึ่งมีทรายขาวเนียนละเอียดสมชื่อทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล หรือเดินเล่นชมวิว โดยในช่วงค่ำยังมีโชว์ควงกระบองไฟให้ชมระหว่างเวลา 19.00-21.00 น
  • ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง หากอยากชมวิวมุมสูง แนะนำจุดชมวิวที่อยู่เลยจากศาลเจ้าพ่อเกาะช้างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร จะมองเห็นเวิ้งอ่าวและแนวชายหาดโค้งสวยแบบพาโนรามา
  • ซากเรือหลวงช้าง (HTMS Chang) จุดดำน้ำแนว Wreck Diving ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่กลางทะเลด้านหลังเกาะคุ้ม เดิมเป็นเรือหลวงที่ปลดประจำการ ก่อนนำมาวางไว้ใต้ท้องทะเล เพื่อสร้างเป็นแนวปะการังเทียมและแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมของนักดำน้ำจากทั่วโลก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ระดับ Advance Open Water Diver ขึ้นไป เนื่องจากตั้งอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 30 เมตร 

บ้านสลักคอก เกาะช้าง จังหวัดตราด
ป่าชายเลนสลักเพชร บ้านนาใน เกาะช้าง จังหวัดตราด

ส่วนบรรยากาศบนเกาะช้างเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมและความอบอุ่นของชุมชนที่ประกอบด้วย 8 หมู่บ้าน ทั้งสลักคอก สลักเพชร เจ้กแบ้ บ้านบางเบ้า บ้านด่านใหม่ คลองสน คลองพร้าว และคลองนนทรี 

  • บ้านสลักคอก หนึ่งในหมู่บ้านที่โดดเด่น ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะช้าง หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบด้วยแนวป่าชายเลนเขียวชอุ่ม ซึ่งเป็นทั้งแหล่งทำกิน แหล่งประมงพื้นบ้าน และพื้นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ไฮไลต์อยู่ที่พายเรือคายัคไปตามลำคลองธรรมชาติ เพื่อชมความสมบูรณ์ของป่าชายเลนหรือเลือกนั่งเรือมาดแบบท้องถิ่นที่รู้จักในชื่อ “เรือกอนโดลาเกาะช้าง”
  • ป่าชายเลนสลักเพชร บ้านนาใน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สะพานแดงเกาะช้าง” อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือน เกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระบบนิเวศที่ทอดยาวไป-กลับประมาณ 1 กิโลเมตร ตลอดทางเดินจะได้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด ทั้งเสียงนกร้อง เสียงจักจั่น โดยเฉพาะช่วงแสงเย็นที่ต้นโกงกางและต้นโปรงทองสะท้อนสวยงาม 

ชมความงามเกาะช้างเพิ่มเติมได้ที่ ที่เที่ยวเกาะช้าง ทะเลสวย น้ำใส ฟีลกู๊ดสุด ๆ

2. เกาะกูด

เกาะกูด จังหวัดตราด

เกาะกูด เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศและได้รับฉายาว่าเป็น “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก” ที่นี่มีทั้งหาดทรายขาวละเอียดและแนวต้นมะพร้าวที่เรียงรายเต็มชายหาด โดยเฉพาะ มะพร้าวคู่หัก 90 องศา บริเวณหาดคลองเจ้า ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเกาะกูด ยิ่งยามเย็นแสงอาทิตย์ส่องกระทบผืนน้ำตรงหน้าชิงช้า จนหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของตราด

เกาะกูด จังหวัดตราด

บนเกาะกูดมีกิจกรรมให้เลือกสนุกหลากหลาย ตั้งแต่ตกหมึกกลางทะเล ได้ชิมหมึกสด ๆ แบบซาซิมิ ไปจนถึงเดินป่าศึกษาธรรมชาติตามเส้นทางที่มีปลายทางคือน้ำตกกลางเกาะ สำหรับสายชิลสามารถเลือกพายคายัคหรือพายซัปบอร์ดชมความงามของทะเลใสและแนวชายฝั่งได้

อีกหนึ่งไฮไลต์สุดฮอตคือ เรสซี รีสอร์ท เกาะกูด ที่มีเปลและเสื่อกลางทะเลบริเวณหน้าหาด ให้นอนอาบแดดรับลมเย็น ๆ กลางน้ำ หรือจะเลือกล่องเรือไม้กับ The Tail & Blu Tail แบบเหมาลำก็มีให้บริการ ราคาเริ่มต้น 4,899 บาท* เหมาะสำหรับคู่รักหรือกลุ่มเพื่อนที่อยากเก็บภาพความทรงจำสุดโรแมนติก

และอย่าลืมแวะชิมของดีประจำเกาะอย่าง มะพร้าวคั่วสูตรโบราณ และน้ำพริกมะพร้าวคั่ว ของฝากรสเด็ดที่สะท้อนเอกลักษณ์วิถีชีวิตชุมชนเกาะกูด หยิบมาทานเมื่อไหร่ก็คิดถึงความทรงจำดี ๆ ของเกาะกูดเสมอ 

สำหรับใครที่สนใจเที่ยวเกาะกูด อัปเดตพิกัดได้ที่ เปิดลิสต์ที่เที่ยวบนเกาะกูดที่ไม่ควรพลาด

3. เกาะหมาก

 เกาะหมาก จังหวัดตราด

สำหรับสายรักษ์โลก ถ้าจะเลือกเที่ยวเกาะไหนในจังหวัดตราด ต้องยกให้เกาะหมาก ต้นแบบการท่องเที่ยว Low-Carbon แห่งแรกของไทยที่คว้าอันดับ 2 รางวัล Green Destinations Top 100 Stories 2023 จาก 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนยอดเยี่ยมทั่วโลก บนเวที ITB Berlin

โดยกิจกรรมที่ห้ามพลาดคือการแวะที่ สวนมะพร้าวไนยวาช่า เพื่อเดินเล่นหรือปั่นจักรยานท่ามกลางทิวมะพร้าวสูงเรียงราย พร้อมเรียนรู้วิถีชาวสวน ตั้งแต่การสอยมะพร้าว การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ไปจนถึงการปล่อยแตนเบียน ศัตรูพืชของต้นมะพร้าว

พร้อมชิมอาหารท้องถิ่น ร่วมปลูกปะการัง อุดหนุนของฝากอย่างผ้ามัดย้อมหรือทำเวิร์กชอปชิ้นเดียวในโลก กับ Roja studio of art ของพี่โรจน์ ที่ต่อยอดวัตถุดิบธรรมชาติให้กลายเป็นสีสันบนผืนผ้า เก็บไฮไลต์ครบทุกจุดได้ที่ เที่ยวเกาะหมาก แบบไม่คิดมาก เวลาน้อยก็เก็บได้ครบทุกจุดไฮไลต์

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

4. เกาะรัง

เกาะรัง จังหวัดตราด

จุดหมายในฝันของคนรักการท่องโลกท้องทะเลต้อง เกาะรัง จังหวัดตราด เป็นเกาะขนาดเล็กตั้งอยู่ห่างจากเกาะหมากไปทางทิศตะวันตกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำหลักของหมู่เกาะทะเลตราด โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวถึงฤดูร้อน ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคมของทุกปี เพราะมีโอกาสได้พบกับปลาปักเป้ายักษ์ขนาดกว่า 1 เมตร ฉลามวาฬ และฉลามหูดำที่มาทักทายแบบใกล้ชิดได้ที่นี่

จุดดำน้ำไฮไลต์ของเกาะรัง

  • หินใบ มีทุ่นไข่ปลาล้อมรอบและเชือกสำหรับไต่ระดับลงใต้น้ำ รอบกองหินปกคลุมปะการังแข็งสวยงาม ความลึกตั้งแต่ 6-14 เมตร
  • หินกระเดื่อง และหินกอ กลุ่มหินยอดแหลมพร้อมกองหินใหญ่เรียงราย จุดนี้หากอากาศดีมีโอกาสพบวาฬหรือฉลามได้ ความลึกเฉลี่ย 24-30 เมตร
  • หินเกือกม้า อยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะรัง ลักษณะพื้นที่เป็นรูปเกือกม้า มีฝูงปลาบาราคูด้า ปะการังจาน และฉลามไผ่ที่ชอบซ่อนตัวใต้กองหิน ความลึกประมาณ 13 เมตร

5. เกาะยักษ์ใหญ่ – เกาะยักษ์เล็ก

เกาะยักษ์ใหญ่ จังหวัดตราด

เกาะยักษ์ใหญ่และเกาะยักษ์เล็ก เป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของหมู่เกาะรัง จังหวัดตราด สองเกาะพี่น้องขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังและชีวิตใต้ทะเล โดยเฉพาะเกาะยักษ์ใหญ่เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมของนักท่องเที่ยว มีกลุ่มปลาตาโตที่ชอบซ่อนตัวอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ และแนวปะการังเขากวางสีน้ำเงิน

เกาะยักษ์เล็ก จังหวัดตราด

ส่วนเกาะยักษ์เล็กก็เป็นอีกจุดดำน้ำยอดนิยม ใต้ท้องทะเลรอบเกาะมีแนวปะการังและฝูงปลาหลากหลายสายพันธุ์ แต่จะโดดเด่นในเรื่องของสีสันและความคึกคักของโลกใต้น้ำ ที่นี่มีทั้งปะการังหลากสี ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน และฝูงปลาน้อยใหญ่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายดำน้ำตื้นที่อยากสัมผัสความงามของท้องทะเลตราดแบบใกล้ชิด

6. เกาะขาม

เกาะขาม จังหวัดตราด

หากมาเที่ยวเกาะหมากแล้ว สามารถข้ามไปเที่ยวเกาะขามได้สบาย จะเลือกพายเรือคายัคไปเอง หรือนั่งเรือเล็กใช้เวลาเพียง ประมาณ 10 นาที ราคาประมาณ 100 บาทต่อคน แม้จะไม่ได้พักบนเกาะหมากก็สามารถแวะเที่ยวเกาะได้ โดยมีค่าขึ้นเกาะ 200 บาทต่อคน สามารถแลกเครื่องดื่มได้ 1 แก้ว

เกาะขาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหมาก การันตีความสวยด้วยฉายา “ไข่มุกมรกตแห่งทะเลตราด” ไฮไลต์คือชายหาดที่มีหินภูเขาไฟสีดำเรียงรายอยู่ตลอดแนวหาดและรอบเกาะตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล ทั้งยังมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติของสันทราย ที่ปรากฏขึ้นในช่วงน้ำลง ทอดยาวออกไปประมาณ 500 เมตร และในช่วงน้ำลงมากที่สุดสันทรายจะโผล่พ้นมาจนเกือบเชื่อมถึงเกาะหมาก

7. เกาะหวาย

เกาะหวาย จังหวัดตราด

เกาะหวาย เกาะเล็ก ๆ ขนาด 1.654 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในจุดที่ได้ทำการฟื้นฟูธรรมชาติในโครงการศูนย์การเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน โดย ICEF เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายสโลว์ไลฟ์ผู้โหยหาความเรียบง่าย ที่นี่ไม่มีเสียงรถ ผู้คนไม่พลุกพล่าน โดยบนเกาะจะไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดวัน จะเปิดเฉพาะช่วงเวลา 17.30-22.00 น. จากระบบปั่นไฟและโซลาร์เซลล์ 

โดยไฮไลต์ของเที่ยวเกาะหวายคือ การดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวด้านเหนือที่น้ำใสจนมองเห็นแนวปะการังและฝูงปลาแหวกว่ายอย่างสวยงาม หรือจะพายคายัคออกไปตกหมึก แล้วนำกลับมาให้ทางรีสอร์ตปรุงอาหารทะเลสด ๆ ก็เติมเต็มความสุขของวันพักผ่อนได้ง่าย ๆ เลย 

เก็บพิกัดเที่ยวเกาะหวายเพิ่มเติมที่ แจกพิกัดเที่ยวเกาะหวาย ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ให้ธรรมชาติชาร์จพลังใจ

8. เกาะเหลายา

เกาะเหลายา จังหวัดตราด

อีกหนึ่ง Hidden Gem ของทะเลจังหวัดตราดอย่างเกาะเหลายา หมู่เกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของเกาะช้าง ได้รับสมญานามว่า “เพชรเม็ดงามแห่งทะเลตะวันออก” ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ 3 เกาะ ทั้งเกาะเหลายาใน เกาะเหลายากลาง และเกาะเหลายานอก เชื่อมถึงกันด้วยสะพานไม้กลางทะเล 

บริเวณรอบ ๆ เกาะเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่สมบูรณ์ที่สุดของทะเลตราด รายล้อมด้วยแนวปะการังน้ำตื้นให้ชมได้ตลอดแนว และแนวสันทรายของเกาะง่ามที่สวยอันซีนระหว่างเดินทาง

  • เกาะเหลายาใน เกาะที่ใหญ่ที่สุด มีหาดทรายขาวละเอียดให้เดินเล่นชิล ๆ พร้อมที่พักและจุดดำน้ำชมปะการังใกล้ฝั่ง
  • เกาะเหลายากลาง ทางเดินบนเกาะมีระยะเพียง 800 เมตร เหมาะกับการชมวิวและดูพระอาทิตย์ตก โดยสามารถมองเห็นวิวของเกาะช้างได้ชัดเจน
  • เกาะเหลายานอก หาดโขดหินธรรมชาติและมุมชมวิวที่เงียบสงบ เหมาะกับการแวะฟังเสียงคลื่นและเก็บภาพความสวยงามของทะเลตราดแบบส่วนตัว

9. เกาะคลุ้ม

เกาะคลุ้ม จังหวัดตราด

เกาะคลุ้ม เกาะเล็ก ๆ ที่ให้ฟีลใช้ชีวิตแบบติดเกาะ ใช้เวลาเดินทางจากเกาะช้างเพียง 15 นาที ด้วยสปีดโบต ค่าบริการเรือไป-กลับคนละประมาณ 700 บาท โดยที่พักมีเพียงแห่งเดียวบนเกาะ คือ คุ้มนางพญา รีสอร์ท โดยกิจกรรมบนเกาะเหมาะกับสายชิลและคนรักธรรมชาติ สามารถขอยืมเรือคายักและอุปกรณ์ดำน้ำจากที่พัก เพื่อพายรอบเกาะ ชมแนวปะการังน้ำตื้น หรือจะลงเล่นน้ำจากหน้าที่พักก็ได้เช่นกัน

10. เกาะกระดาด

เกาะกระดาด จังหวัดตราด

เกาะกระดาด จังหวัดตราด เป็นเกาะขนาดเล็กที่มีพื้นที่ประมาณ 2.8 ตารางกิโลเมตร มียอดเนินสูงสุดของเกาะอยู่ที่ประมาณ 36 เมตรจากระดับน้ำทะเล เมื่อมองจากระยะไกล เกาะจะมีลักษณะเรียบแบนคล้ายแผ่นกระดาษ โดยที่นี่ได้รับการคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็นหนึ่งในโครงการอันซีนไทยแลนด์ 

ไฮไลต์สำคัญของเกาะกระดาด คือฝูงกวางป่าจำนวนมากที่อาศัยอยู่บนเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถอีแต๊กหรือรถพ่วงลัดเลาะชมวิวรอบเกาะ พร้อมแวะให้อาหารกวางและสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 

อีกกิจกรรมที่ห้ามพลาดคือการเดินข้ามไปยังเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะนกใน เกาะนกนอก และเกาะขายหัวเราะ ซึ่งเป็นต้นแบบของเกาะที่ปรากฏอยู่บนหน้าปกการ์ตูนชื่อดังอย่างขายหัวเราะด้วย

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะในจังหวัดตราด

หญิงสาวนั่งบนเรือไม้ที่ให้บริการจากเกาะกูด จังหวัดตราด

เกาะในจังหวัดตราดสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ฤดูหนาวถึงฤดูร้อน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ซึ่งถือเป็นไฮซีซันของทะเลตราด เพราะน้ำทะเลใส ฟ้าเปิด คลื่นสงบ เหมาะกับการพักผ่อนริมทะเลและทำกิจกรรมทางน้ำทุกชนิด เช่น ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายซัปบอร์ด หรือชมพระอาทิตย์ตกริมชายหาด

ส่วนช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม จะเข้าสู่ฤดูมรสุม คลื่นลมแรงในบางช่วง ควรตรวจสอบตารางเรือก่อนเดินทางระหว่างเกาะ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนเงียบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจี และประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะราคาที่พักและการเดินทางมักถูกลง

รวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับการเที่ยวเกาะในจังหวัดตราด

ท้องทะเลจังหวัดตราดสะท้อนกับแสงแดดเป็นประกายสวยงาม

ต้องขึ้นเรือจากที่ไหนไปเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดตราด?

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเกาะต่าง ๆ ในจังหวัดตราดได้จาก 3 ท่าเรือหลักคือ ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ อ.แหลมงอบ ไปยังเกาะช้าง ท่าเรือกรมหลวงชุมพรหรือท่าเรือแหลมศอกไปยังเกาะหมาก และท่าเรือแหลมศอกไปยังเกาะกูด

เกาะในจังหวัดตราด เกาะไหนเหมาะกับการพักผ่อนเงียบสงบ?

เกาะหวาย เกาะเหลายา และเกาะคลุ้ม มีบรรยากาศเรียบง่าย สงบ และใกล้ชิดธรรมชาติ โดยเกาะหวาย เหมาะกับการพักใจได้ฟีลติดเกาะ ส่วนเกาะเหลายาและเกาะคลุ้มเป็นเกาะลับที่มีที่พักแห่งเดียวเหมือนอยู่บนเกาะส่วนตัว ทั้งนี้ควรสอบถามและจองล่วงหน้าก่อนเดินทาง เพราะบางเกาะอาจปิดชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ

เกาะในจังหวัดตราด เกาะไหนเหมาะกับการดำน้ำตื้น และดำน้ำลึก?

เกาะยักษ์เล็กและเกาะหวายเหมาะกับดำน้ำตื้น มีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์และน้ำทะเลใสตลอดปี หากอยากดำน้ำลึกให้ไปที่เกาะยักษ์ใหญ่ และเกาะรัง ศูนย์กลางแหล่งดำน้ำสำคัญของทะเลตราด ที่สามารถดำน้ำได้ทั้งระดับตื้นและลึก รวมถึงซากเรือหลวงช้าง (HTMS Chang) ใต้ทะเลเกาะช้าง จุดดำน้ำแบบ Wreck Diving ระดับโลก เป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีซากเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เที่ยวเกาะตราดแบบ One Day Trip ได้ไหม?

ได้ โดยเฉพาะเกาะที่อยู่ใกล้ฝั่งอย่าง เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะรัง และเกาะขาม ซึ่งมีเรือบริการไป-กลับหรือแพ็กเกจทัวร์ภายในวันเดียว เหมาะกับกิจกรรมดำน้ำ พายคายัค และพักผ่อนริมหาด แต่หากต้องการเก็บครบทุกเกาะและทำกิจกรรมได้เต็มอิ่ม แนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย 4 วัน 3 คืน เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของทะเลตราดได้แบบจุใจ

สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ในจังหวัดตราดเพิ่มเติม ได้ที่นี่

ออกเดินทางสู่วิถีแห่งความสุขบนเกาะจังหวัดตราดไปกับ Bangkok Airways

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

จะเลือกพักใจที่เกาะเล็กเงียบสงบ หรือออกผจญภัยกลางทะเลตราดก็เดินทางสบาย ด้วยเที่ยวบินตรงสู่ตราด โดยสายการบิน Bangkok Airways พร้อมบริการครบวงจรเหนือระดับ เพื่อพาคุณไปสัมผัสจังหวะชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยความสุขอันเรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และงดงาม

  • บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
  • น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
  • การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
  • บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน
Share This Story with your travel friends!
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
Related Posts