Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

คู่มือเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ตามรอยโลเคชันหนังดัง

คู่มือเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ตามรอยโลเคชันหนังดัง
Table of Contents

Bangkok Airways สรุปให้

  • สัมผัสความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ ผืนป่าเขียวชอุ่มกว่า 31,325 ไร่ เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะกับผู้รักธรรมชาติและการผจญภัย ไปชมทั้งน้ำตก ถ้ำ เส้นทางเดินป่า และชมทะเลหมอกบนยอดเขา
  • อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในโลเคชันสำคัญของภาพยนตร์ระดับโลก Jurassic World Rebirth (Jurassic World ภาค 4) ที่น้ำตกห้วยโต้และต้นสมพง ท่ามกลางความเงียบสงบและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ให้เราได้ย้อนเวลากลับไปในยุคไดโนเสาร์

เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางสู่เส้นทางแห่งความมหัศจรรย์และลึกลับกลางผืนป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์ ณ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ ไปพร้อมกับคู่มือเที่ยวจาก Bangkok Airways ได้ในบทความนี้ ร่วมสัมผัสความงดงามของธรรมชาติครบทุกบรรยากาศ ทั้งน้ำตกสูงตระหง่าน ถ้ำสุดลึกลับ เส้นทางเดินป่าหลากระดับ และทะเลหมอกบนยอดเขาที่มองเห็นทัศนียภาพไกลสุดสายตา สถานที่ที่สายธรรมชาติและสายแอดเวนเจอร์ไม่ควรพลาด

ลุยเส้นทางสุดท้าทายที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาที่โอบล้อมด้วยไร่ต้นปาล์มและปกคลุมด้วยม่านหมอก

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ตั้งอยู่ในจังหวัดกระบี่ มีขนาดพื้นที่กว่า 31,325 ไร่ ครอบคลุมอำเภอเมืองกระบี่ อำเภออ่าวลึก และอำเภอเขาพนม เป็นผืนป่าฝนเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตราตรึงด้วยภูเขาหินปูนสูง มีไอหมอกปกคลุมตลอดปี รายล้อมด้วยน้ำตกหลายสาย และพืชพันธุ์หายาก อย่างต้นสมพง ที่อายุกว่า 120 ปี  ที่ทำให้อุทยานฯ ได้รับรางวัลด้านการสนับสนุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากกระทรวงวัฒนธรรม

ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาพนมเบญจา ทั้งความอุดมสมบูรณ์และบรรยากาศเงียบสงบ จนได้ยินเสียงนกร้องและจักจั่น หรือที่ชาวบ้านเรียก ริ้งแร้ หรือสามลูกควน ดังกึกก้อง สะท้อนถึงความงดงามจนดึงดูดทีมงานจากภาพยนตร์ Jurassic World: Rebirth เลือกเป็นโลเคชันถ่ายทำท่ามกลางผืนป่าเขียวชอุ่ม เหมาะกับสายรักธรรมชาติ สายถ่ายภาพ และสายลุยที่หลงใหลในความลี้ลับของป่าเขาที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีไดโนเสาร์ซ่อนตัวอยู่ในป่าแห่งนี้

นักท่องเที่ยวเล่นน้ำบริเวณน้ำตกห้วยโต้ในอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา คือ การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ สัมผัสป่าดิบดั้งเดิมและชมพันธุ์ไม้หายาก รวมถึงการปีนหน้าผา โอบกอดทะเลหมอก และแช่ตัวในธารน้ำตก โดยเฉพาะ น้ำตกห้วยโต้ และ น้ำตกห้วยสะเค ที่สวยงามเย็นชื่นใจ นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งแคมป์ใต้แสงดาว และเฝ้าดูนกประจำถิ่นหลากชนิด ได้แบบเต็มอิ่ม

บินตรงสู่กระบี่ ไปกับสายการบิน Bangkok Airways

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

มาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เดินทางจากกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเที่ยวบินตรงสู่สนามบินกระบี่ โดยสายการบิน Bangkok Airways ที่ให้บริการครบครันแบบ Full Service ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ปักหมุดหมายลุยดงพงไพร ณ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

1. น้ำตกห้วยโต้

น้ำตกห้วยโต้ ใน อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่

เริ่มต้นการผจญภัยในป่าดิบสุดชุ่มชื้นของเขาพนมเบญจา ที่ น้ำตกห้วยโต้ เส้นทางเดินป่าระยะทางกว่า 3.87 กิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยเสียงธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่อันเขียวขจี และความสงบที่ซ่อนความตื่นเต้นให้คนรักธรรมชาติได้ลุยกัน ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในโลเคชันสำคัญของภาพยนตร์ระดับโลก Jurassic World Rebirth (Jurassic World ภาค 4) อีกด้วย

เมื่อถึงน้ำตกห้วยโต้ จะได้พบกับแอ่งน้ำใสเย็นฉ่ำกลางป่าใหญ่ สามารถลงเล่นน้ำได้ 5 ชั้น คือ วังชก วังสามหาบ วังจงลอย วังปรง และวังเทวดา แค่แช่เท้าฟังเสียงน้ำไหลก็ผ่อนคลาย หรือจะนั่งปิกนิก เดินชมธรรมชาติ ทั้งนกป่า ผีเสื้อ และพันธุ์ไม้หายาก โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ที่น้ำตกจะมีชีวิตชีวา บรรยากาศกรีนสุด ๆ อากาศดี เย็นสบาย เหมาะทั้งสายลุยเบา ๆ และครอบครัวที่อยากลองทริปธรรมชาติแบบไม่ต้องปีนเขาหนัก

2. น้ำตกห้วยสะเค

น้ำตกห้วยสะเค ใน อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่

ใครชอบสัมผัสน้ำตกในมุมเงียบสงบ ต้องไม่พลาด น้ำตกห้วยสะเค น้ำตกเล็ก ๆ ขนาด 3 ชั้น ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าดิบชื้นของเขาพนมเบญจา ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 1.2 กิโลเมตร มีแอ่งน้ำใสสะอาดให้แช่ตัวผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ ไฮไลต์สำคัญคือ ต้นสมพงอายุกว่า 120 ปี รุกขมรดกของไทยที่มีขนาดใหญ่ถึงขั้นต้องใช้คนกว่า 30 คนโอบ รอบ ๆ เงียบสงบร่มรื่น เหมาะสำหรับทั้งสายลุยและสายถ่ายรูปที่อยากได้ภาพเช็กอินไม่ซ้ำใคร

3. เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ

เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ใน อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่

เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีให้เลือกเดิน 2 แบบ คือ

  1. เส้นทางระยะไกล สำหรับสายลุยที่ต้องเดินเท้าหลายสิบกิโลเมตร เพื่อพิชิตยอดเขาสูงของเขาพนมเบญจา
  2. เส้นทางระยะสั้น เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั่วไป มีระยะทางประมาณ 1-4 กิโลเมตร เดินชิล ๆ แต่ยังได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม 

เส้นทางเดินป่าของอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาจะค่อย ๆ ไต่ระดับสูงขึ้นไปตามแนวเขา ผ่านป่าร่มรื่นที่เงียบสงบ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของนักดูนก เพราะพบได้มากกว่า 218 ชนิด ทั้งสายพันธุ์หายากหรือทั่วไป หากโชคดีอาจได้เห็น นกกางเขนน้ำหลังแดง โฉบผ่านมาทักทายแบบใกล้ชิด เรียกได้ว่า เป็นเส้นทางเดินป่าที่ทั้งสงบ งดงาม และเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

4. เขาพนมเบญจา – ยอดนมสาว

เขาพนมเบญจา ใน อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่

ลุยเส้นทางสุดท้าทายที่ ยอดนมสาว ยอดเขารูปทรงเฉพาะตัวที่ได้รับการขนานนามว่า “ฟูจิเมืองไทย” จุดสูงสุดของเขาพนมเบญจา บนความสูงกว่า 1,397 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเมืองกระบี่ และยังเป็นจุดชมวิวสุดอลังการกว่า 360 องศา ที่มองเห็นทะเลหมอกยามเช้าและผืนป่าดิบชื้นเขียวขจีได้ไกลสุดสายตา

เส้นทางพิชิตยอดนมสาว ต้องเดินเท้าระยะไกลหลายสิบกิโลเมตรผ่านเส้นทางธรรมชาติที่ลัดเลาะไปตามแนวสันเขา ที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน พร้อมตั้งแคมป์ค้างแรมกลางป่า เหมาะกับสายลุยที่รักการผจญภัย และเก็บภาพวิวในมุมที่สวยที่สุด นอกจากชื่อชวนจดจำ ยังมีบรรยากาศโดยรอบ ที่สวยงามและเงียบสงบ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปยืนอยู่กลางฉากหนังดัง อย่าง Jurassic World เลยทีเดียว

5. คอนางนอน

คอนางนอน ใน อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่

คอนางนอน ลานหินธรรมชาติกลางป่าดิบชื้น ที่ตั้งอยู่ห่างจากยอดเขาพนมเบญจา เพียง 500 เมตร ด้วยบรรยากาศเงียบสงบ ล้อมรอบด้วยแนวป่าสูงและลมเย็นพัดผ่านตลอดวัน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดกางเต็นท์ยอดนิยมในหมู่นักเดินป่า 

จากลานกว้างแห่งนี้สามารถมองเห็นวิวเทือกเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศจะโรแมนติก เพราะสามารถนอนชมดาวเต็มฟ้า ฟังเสียงธรรมชาติรอบตัวขับกล่อมอย่างอบอุ่น และตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกลอยอ้อยอิ่งผ่านยอดไม้ได้แบบใกล้ชิด

ค่าเข้าและเวลาทำการของอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

เข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาตามเวลาทำการ

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

  • คนไทย: ผู้ใหญ่ 20 บาท, เด็ก 10 บาท
  • ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 100 บาท, เด็ก 50 บาท
  • รถยนต์: 30 บาทต่อคัน
  • รถจักรยานยนต์: 20 บาทต่อคัน

*หมายเหตุ: เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ / พระ – นักบวช / ผู้สูงอายุ / ผู้พิการ เข้าฟรี

เวลาทำการของอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.30-16.30 น.

วิธีการเดินทางมาเขาพนมเบญจาจากกระบี่

การเดินทางมาอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา
  • รถส่วนตัว: จากสามแยกบ้านตลาดเก่าในตัวเมืองกระบี่ ขับตามถนนศรีตรัง 1 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนตลาดเก่า-บ้านห้วยโต้ ประมาณ 30 นาที ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา
  • รถประจำทาง: นั่งรถสองแถวสีน้ำเงินจากสถานีขนส่งกระบี่ ไปลงที่โลตัส อ่าวลึก ค่ารถประมาณ 50 บาท แล้วต่อรถสองแถวสีแดงไปอุทยานฯ ค่ารถประมาณ 40-50 บาท
  • แพ็กเกจทัวร์: หากต้องการความสะดวก เช่น โปรแกรมเดินป่าพิชิตยอดเขาพนมเบญจา ค่าบริการประมาณ 2,500-3,000 บาท/คน (ขึ้นอยู่กับบริษัทและโปรโมชัน)

เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาช่วงไหนดีที่สุด

เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาในช่วงเวลาที่ดีที่สุด

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่ อยู่ในเขตมรสุมเมืองร้อน ทำให้อากาศอบอุ่นและชุ่มชื้นจากฝนตกชุกตลอดปี สามารถแบ่งระยะเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวเขาพนมเบญจา ออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่

1. ช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนธันวาคม: ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด

เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เพราะอากาศเย็นสบาย ธรรมชาติเขียวขจี โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เหมาะกับการลุยเส้นทางพงไพรศึกษาธรรมชาติ นอนฟังเสียงสิ่งมีชีวิตอย่างผ่อนคลายยามค่ำคืน และตื่นมาชมทะเลหมอกในยามเช้า ได้บรรยากาศเหมือนในหนังดัง

2. ช่วงเดือนมกราคม-เมษายน: ช่วงฤดูร้อน

เป็นช่วงฤดูร้อนของอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา โดยมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 34 องศาเซลเซียส อากาศแจ่มใส เดินป่าได้สะดวก ปลอดภัย เหมาะกับการทำกิจกรรมคลายร้อน เช่น แช่ตัวในน้ำตกห้วยโต้หรือน้ำตกห้วยสะเคที่มีน้ำใสเย็น

รวมคำถาม-คำตอบก่อนเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กระบี่

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาเหมาะกับนักท่องเที่ยวสายไหน?

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและสายแอดเวนเจอร์ที่รักการบุกป่าฝ่าดงพงไพรไปชมทัศนียภาพอันงดงาม ทั้งน้ำตก ถ้ำ เส้นทางเดินป่า และทะเลหมอกบนยอดเขา

เดินป่าที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาต้องมีไกด์ไหม?

ไม่จำเป็นต้องมีไกด์ แต่หากเป็นมือใหม่หรือเดินป่าระยะไกลที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาควรมีไกด์นำทางเพื่อความปลอดภัย เช่น ทริปเส้นทางเดินป่าระยะไกลสู่ยอดเขาพนมเบญจา ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน โดยเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ มีค่าบริการ 6,000 บาท/กลุ่ม (นักท่องเที่ยว 8 คน) ให้บริการเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมของปี

มีที่พักในอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาไหม?

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจามี บ้านพัก 4 จุด และลานกางเต็นท์ 2 จุด คือ บริเวณลานหน้าผากนาง และบริเวณคอนางนอน โดยนักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มาเอง หรือเลือกใช้บริการเต็นท์ให้เช่าให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถจองที่พักผ่านเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ (nps.dnp.go.th) หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

ติดต่อสอบถามข้อมูลการจองที่พักอุทยานแห่งชาติ
โทรศัพท์: 02-562-0760 ถึง 3 หรือ 02-561-0777 ต่อ 1743, 1744
อีเมล์: banpak025795269@gmail.com

มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำ ร้านอาหาร ในอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจาไหม?

อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบาย มีห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านค้าสวัสดิการ ไฟฟ้าตามอาคาร และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แม้สถานที่เที่ยวจะเหมาะกับสายลุย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องจะใช้ชีวิตลำบาก

เปิดเส้นทางเที่ยวกระบี่เพิ่มเติม ได้ที่นี่

ตามรอยหนังดังที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กับ Bangkok Airways

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

ปลุกสัญชาตญาณนักผจญภัยในตัว แล้วออกไปลุยเส้นทางฝ่าดงพงไพรของ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ให้ทุกก้าวได้สัมผัสธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดกระบี่อย่างใกล้ชิด พร้อมตามรอยโลเคชันหนังดังระดับโลก กับ สายการบิน Bangkok Airways ด้วยเที่ยวบินตรงแบบ Full Service ที่พร้อมดูแลคุณอย่างครบครัน ทั้งบริการพิเศษและมาตรฐานระดับสากลตลอดการเดินทาง เพื่อเติมเต็มทุกช่วงเวลาให้กลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ

  • บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
  • น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
  • การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
  • บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน

Share This Story with your travel friends!
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
Related Posts