Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

รวม 15 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ให้ธรรมชาติฮีลใจท่ามกลางทะเลหมอก

รวม 15 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ให้ธรรมชาติฮีลใจท่ามกลางทะเลหมอก
Table of Contents

Bangkok Airways สรุปให้

  • เสน่ห์ของการท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว คือ ความลงตัวระหว่างธรรมชาติที่สดชื่น อากาศที่เย็นสบาย จังหวะชีวิตที่ไม่เร่งรีบ เป็นช่วงเวลาพิเศษที่เปิดโอกาสให้เราได้โอบกอดทะเลหมอกสวย ๆ อย่างเต็มอิ่ม 
  • ที่เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ไม่ว่าจะขึ้นภูเขาหรือเที่ยวทะเล ต่างก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง หากเลือกขึ้นดอยจะได้สัมผัสทะเลหมอกยามเช้า สูดอากาศเย็นสดชื่น และกางเต็นท์นอนดูดาวใต้ท้องฟ้า ส่วนสายทะเล ช่วงนี้คลื่นลมสงบ น้ำทะเลใส บรรยากาศเงียบสงบ น่าพักใจ

ปลายฝนต้นหนาว ช่วงเวลาที่ธรรมชาติจะเปล่งประกายความสดชื่น อากาศเย็นสบาย และสายหมอกบางที่สร้างบรรยากาศผ่อนคลายในทุกจังหวะชีวิต เป็นฤดูกาลที่เหมาะที่สุดสำหรับการหลีกหนีความวุ่นวาย แล้วปล่อยให้ธรรมชาติได้ฮีลใจ สำหรับใครกำลังมองหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ Bangkok Airways ขอชวนเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทาง สู่ 15 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ท่ามกลางวิวทะเลหมอกสวย ๆ ที่จะทำให้ตกหลุมรักการท่องเที่ยวในฤดูกาลนี้ไปอีกนาน

ค้นพบ 15 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว สัมผัสอ้อมกอดทะเลหมอก

1. บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ ณ “บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย” หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ และความเรียบง่ายของวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ผืนนาเขียวขจีบรรยากาศสดชื่นเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและรีเซ็ตใจให้กลับมาเบิกบานอีกครั้ง ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะ ศูนย์การเรียนรู้การย้อมผ้าหมักโคลน ซึ่งถ่ายทอดความงามของงานฝีมือพื้นบ้าน ผ่านผ้าสีธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากการเรียนรู้แล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่าง ข้าวเปิ๊ป และข้าวพันผัก เมนูเรียบง่ายที่ทั้งกลมกล่อม ถูกปาก ดีต่อสุขภาพ และอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวที่บ้านนาต้นจั่นคือ การเดินเท้าระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ขึ้นสู่ “ดอยห้วยต้นไฮ” เพื่อดื่มด่ำกับวิวทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียท่ามกลางขุนเขายามรุ่งสาง ระหว่างทางยังสามารถร่วมกิจกรรม ปลูกป่าหนังสติ๊ก และจิบกาแฟอุ่น ๆ จากกระบอกไม้ไผ่ที่แสนอบอุ่นใจ

และถ้าใครมีโอกาสมาเยือนในคืนวันศุกร์หรือเสาร์ อย่าลืมแวะ “ตลาดฮิมห้วย” หรือ “ตลาดริมห้วย” ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. เพลิดเพลินกับของกินพื้นบ้าน พร้อมการแสดงรำวงชาวบ้านเข้าถึงบรรยากาศบ้านนาได้อีกด้วย

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

2. เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว เขาหลวง จังหวัดสุโขทัย

ชาร์จพลังใจ ด้วยจุดเช็กอินสุดท้าทายที่ “เขาหลวง” ยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ตั้งตระหง่านอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ได้รับฉายาจากนักผจญภัยว่าเป็น “ภูเขาปราบเซียนแห่งภาคเหนือ” ด้วยความสูงกว่า 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดเขาหลวงที่ทอดยาวประมาณ 3.7 กิโลเมตร เต็มไปด้วยธรรมชาติร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับการเดินทอดน่อง ค่อย ๆ ปล่อยใจไปกับวิวข้างทาง และฟังเสียงข้างในใจตัวเอง

เขาหลวงมี 4 ยอดเขาสำคัญที่แต่ละยอดก็มีเสน่ห์ต่างกันไป ทั้ง “ยอดเขานารายณ์” สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้น “ยอดเขาพระเจดีย์” สำหรับชมแสงสุดท้ายของวัน และอีกสองยอดอย่าง “ยอดเขาพระแม่ย่า” กับ “ยอดเขาภูกา” ที่เหมาะแก่การเดินชมป่าและดื่มด่ำธรรมชาติสีเขียวสด สูดกลิ่นหญ้าและใบไม้สดใหม่ ในช่วงปลายฝนต้นหนาว หมอกจะลอยละลานท่ามกลางสันเขา โดยเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ที่บรรยากาศธรรมชาติจะสวยเป็นพิเศษ

วางแผนพิชิตยอดเขา และเตรียมใจให้พร้อมสำหรับวิวทะเลหมอกสวย ๆ เพิ่มเติมที่ เปิดเส้นทางพิชิตเขาหลวงสุโขทัย ปีนเขารับไอหมอก

3. ดอยฟ้างาม จังหวัดลำปาง

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ดอยฟ้างาม จังหวัดลำปาง

“ดอยฟ้างาม” หนึ่งในจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดของเมืองลำปาง เหมาะสำหรับสายธรรมชาติและคนรักการชมวิวแบบพาโนรามา โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่อากาศเย็นสบาย ได้สัมผัสทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียแนวขุนเขาอย่างใกล้ชิด 

การเดินทางไปยังจุดขึ้นดอยได้สะดวก สามารถขับรถขึ้นไปที่จุดเริ่มต้น จากนั้นเดินเท้าขึ้นเขาราว 1.8 กิโลเมตรก็จะถึงยอดดอย ด้านบนเป็นจุดชมวิว 360 องศา มองเห็นทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก เหมาะกับทั้งทริปแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือจะกางเต็นท์นอนดูดาวใต้ฟ้ากว้างก็ได้ฟีลโรแมนติก ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ 

ศึกษาเส้นทางและข้อควรรู้ในการท่องเที่ยวเพิ่มเติมที่ ดอยฟ้างาม ลำปาง: จุดชมทะเลหมอกที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

4. วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส จังหวัดลำปาง

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส จังหวัดลำปาง

พักใจบนยอดเขา ณ “วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ตั้งอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า “วัดพระบาทปู่ผาแดง” หนึ่งในจุดหมาย Unseen ของภาคเหนือ ไฮไลต์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่ รอยพระพุทธบาทศักดิ์สิทธิ์ ให้ผู้แสวงบุญได้สักการะ ขอพรเสริมสิริมงคล พร้อมชมวิวพาโนรามาของขุนเขาที่โอบล้อมรอบตัว 

เส้นทางเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาระยะทางประมาณ 800 เมตร แม้จะท้าทาย แต่คุ้มค่าเมื่อได้ยืนมองพระอาทิตย์ขึ้นและลับขอบฟ้าจากมุมสูง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่นี่จะสวยเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสได้ชมทะเลหมอก ที่ลอยคลอเคลียยอดเขา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ผู้เป็นพุทธศาสนิกชนสายธรรมชาติไม่ควรพลาด

5. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

“ดอยเสมอดาว” ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน หนึ่งในจุดหมายที่เหมาะที่สุด สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากหนีความวุ่นวาย มาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ได้นอนกางเต็นท์กลางลานหญ้าเขียว ชมวิวแนวเทือกเขาสลับซับซ้อน ดูดาวยามค่ำคืน ชมทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียในยามเช้า

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ “จุดชมวิวผาหัวสิงห์” จุดชมวิวแบบ 360 องศา โดยทิศเหนือมองเห็นอำเภอเวียงสา ทิศใต้ทอดยาวไปยังทิวเขา ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้และแม่น้ำน่าน ส่วนทิศตะวันตกเห็นอำเภอนาน้อยอย่างชัดเจน เป็นจุดเช็กอินที่สายแคมป์ สายธรรมชาติ และสายถ่ายภาพไม่ควรพลาด ด้วยความเรียบง่าย โรแมนติก และเสน่ห์ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

6. สะปัน จังหวัดน่าน

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว สะปัน จังหวัดน่าน

อีกหนึ่งพิกัดของสายสโลว์ไลฟ์ ที่ควรไปสักครั้งที่ “บ้านสะปัน” หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาในอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน มาสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชุมชนอันอบอุ่น ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ สูดโอโซนสะอาดให้เต็มปอด โอบล้อมด้วยทุ่งนาเขียวขจี ภูเขาสูง และลำธารชื่อ “สบปัน” ที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน มานั่งจิบกาแฟยามเช้า ฟังเสียงน้ำไหล และพักผ่อนในโฮมสเตย์ 

ไฮไลต์ของสะปันอยู่ที่การชมทะเลหมอกยามเช้าลอยต่ำปกคลุมทิวเขา พร้อมแวะเที่ยว “น้ำตกสะปัน” น้ำตกสามชั้นที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าร่มรื่น โดยต้องเดินเท้าผ่านบันไดระยะทางราว 800 เมตร เพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ด้านล่างมีแอ่งน้ำใสให้ลงแช่ผ่อนคลาย พร้อมรับอากาศเย็นสบายได้ตลอดวัน โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวพื้นที่บริเวณรอบน้ำตกจะเขียวชอุ่ม อากาศสดชื่น

7. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ชมความโรแมนติกแห่งธรรมชาติที่ “ม่อนแจ่ม” ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่หลงใหลในบรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติก ม่อนแจ่มรายล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน พร้อมไร่สตรอว์เบอร์รีปลายฟ้า และสวนดอกไม้หลากสีที่ผลิบานสะพรั่งรับสายลมหนาว ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ม่อนแจ่มจะเต็มไปด้วยความสดชื่น หมอกบางลอยคลอเคลียยอดเขา เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูปกับวิวธรรมชาติ และใช้เวลาช้า ๆ อยู่กับธรรมชาติ

จุดชมวิวบนม่อนแจ่มสามารถมองเห็นทิวเขาและทะเลหมอกในยามเช้าได้แบบพาโนรามา เป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยที่สุดในเชียงใหม่ ด้วยระดับความสูงราว 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดปี ไฮไลต์สำคัญคือ “Sky Walk ม่อนแจ่ม” ทางเดินชมวิวที่ทอดยาวผ่านแปลงดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณ ท่ามกลางมวลดอกไม้สีสันสดใสและฉากหลังเป็นแนวเขาไกลสุดสายตา

ที่พักบนม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากใช้เวลาอยู่กับม่อนแจ่มให้นานขึ้น ที่นี่มีที่พักหลากหลายรูปแบบ ให้เลือก ทั้งรีสอร์ตเล็ก ๆ บนไหล่เขา เต็นท์กระโจมสไตล์แคมป์หรู (Glamping) ไปจนถึงโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่เปิดบ้านต้อนรับด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นแบบชาวเหนือแท้ ๆ ตื่นเช้ามาเจอทะเลหมอกตรงหน้า หรือจะนั่งจิบกาแฟริมระเบียงชมทะเลหมอกแต่งแต้มทิวเขา เหมาะทั้งสำหรับคู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือคนที่อยากพักใจจากเมืองใหญ่

8. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่

“อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน หนึ่งในจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ “จุดชมวิวดอยกิ่วลม” ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,615 เมตร สามารถมองเห็นทะเลหมอกขาวโอบล้อมดอยหลวงเชียงดาวได้แบบพาโนรามา ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย มากางเต็นท์พักผ่อนในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่หมอกสวยที่สุด

ไฮไลต์อีกจุดคือ “โป่งเดือดป่าแป๋” น้ำพุร้อนธรรมชาติแบบไกเซอร์ (Geyser type) ขนาดใหญ่ ที่พุ่งขึ้นจากใต้ดินสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิเหนือผิวดินอยู่ที่ 90-99 องศาเซลเซียส โดยมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติจากอุทยานฯ ถึงบ่อน้ำพุร้อน ระยะทางประมาณ 1.55 กิโลเมตร ผ่านผืนป่าเบญจพรรณอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงเหมาะกับทั้งสายเดินป่า ช่างภาพ หรือผู้ที่อยากพักใจกลางขุนเขา

9. กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่

“กิ่วแม่ปาน” หรือ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน” หนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่สวยที่สุดของเมืองไทย ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ บนความสูงประมาณ 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 31 พฤษภาคม ของทุกปี 

เส้นทางระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร เป็นเส้นทางวงรอบที่พาเดินผ่านป่าดิบเขา ที่เรียกว่า “ป่าเมฆ” เพราะมีเมฆปกคลุมตลอดปี และทุ่งหญ้าบนแนวสันเขาโล่ง พร้อมจุดชมวิวหลักที่ กม.42 ไฮไลต์สำคัญในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกหนาสุดอลังการ

ระหว่างทางแวะพักที่ “น้ำตกลานเสด็จ” และ “ผาแง่มน้อย” และลานชมวิวที่สามารถมองเห็น ดอยหลวงเชียงดาว ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม นักท่องเที่ยวอาจได้พบกับกุหลาบพันปีแดงที่เบ่งบานเพียงปีละครั้ง เพิ่มความโรแมนติกและเป็นประสบการณ์ที่เติมความอบอุ่นและฮีลใจให้ตัวเองผ่านธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

10. กลอเซโล จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว กลอเซโล จังหวัดแม่ฮ่องสอน

จุดหมายในฝันของคนรักสายหมอก ต้องยกให้ “กลอเซโล” จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไฮไลต์อยู่ที่ “จุดชมวิวกลอเซโล” ตั้งอยู่ห่างจากตัวหมู่บ้าน ราว 3 กิโลเมตร เรียกกันว่าเป็น “ทะเลหมอกสองแผ่นดิน” ซึ่งทอดตัวอยู่ระหว่างพรมแดนไทยและเมียนมา สามารถมองเห็นทั้งแม่น้ำเมยและแม่น้ำสาละวิน

ช่วงปลายฝนต้นหนาว ระหว่างปลายเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นช่วงพีกที่มีโอกาสพบหมอกหนานุ่มไหลเรี่ยทักทายยามเช้าสูงถึง 80-90% บรรยากาศโอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติสีเขียว ช่วยเติมความสดชื่นได้อย่างเต็มที่ 

ส่วนจุดกางเต็นท์ที่กลอเซโลก็มีให้เลือกหลายแห่ง มากกว่า 20 จุด อาทิ ม่อนกลอเซโล ม่อนชมเดือน และม่อนภพฟ้า เส้นทางขึ้นดอยต้องใช้รถ 4WD ผ่านระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร แต่คุ้มค่ากับวิวหลักล้าน และรอยยิ้มจริงใจของเด็ก ๆ ชาวปกาเกอะญอในหมู่บ้านที่คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น

11. บ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว บ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

“บ้านจ่าโบ่” อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านชาวลาหู่ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ทั้งภาษาและการแต่งกาย โอบล้อมด้วยขุนเขาหินปูนสูงและป่าเขียวชอุ่ม ไฮไลต์สำคัญคือ “จุดชมวิวภูผาหมอก” ที่เดินเท้าเพียง 15 นาทีก็จะพบกับภาพทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสุดอลังการ 

โดยเฉพาะที่ “ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบ่” ซึ่งมองเห็นทะเลหมอกเคลื่อนไหวรอบทิวเขาพาโนรามาในยามเช้า พร้อมซดก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดราคาหลักสิบบนระเบียงไม้ไผ่สุดชิล นอกจากนี้ยังมี “Dek Doi Coffee” ให้จิบกาแฟอุ่น ๆ รับลมเช้า และหากโชคดีช่วงฟ้าเปิด กลางคืนอาจได้ชม ทางช้างเผือก จากระเบียงโฮมสเตย์เลยทีเดียว

12. ดินแดงดอย จังหวัดกระบี่

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ดินแดงดอย จังหวัดกระบี่

นอกจากผืนน้ำใสให้ดำน้ำชมปะการัง ภาคใต้ยังมีอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หลายคนอาจยังไม่เคยสัมผัส “ดินแดงดอย” จุดชมทะเลหมอกสุดชิลในอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนัก แต่กลับซ่อนความงดงามไม่แพ้ดอยทางภาคเหนือ ที่นี่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและผืนป่าสีเขียวชอุ่ม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าขึ้นเพียง 300 เมตร หรือใช้บริการรถรับส่งขึ้นจุดชมวิวได้สะดวก

ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีทะเลหมอกลอยละเลียดคลุมยอดเขาเบื้องล่าง โดยเฉพาะในยามเช้า เมื่อแสงแรกของวันส่องผ่านม่านหมอก บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการกางเต็นท์ พักใจ และเก็บภาพช่วงเวลาที่ธรรมชาติสวยที่สุด และหากอยู่จนถึงเย็น อย่าลืมรอชมแสงสุดท้ายราว 5 โมงเย็น ที่จะเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นฉากโรแมนติกของวัน

13. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

หนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในช่วงปลายฝนต้นหนาวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ “เขื่อนเชี่ยวหลาน” หรือ “เขื่อนรัชชประภา” ทะเลสาบสีมรกตโอบล้อมด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน สวยจนได้รับฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ไฮไลต์อยู่ที่การตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกบาง ๆ ที่ลอยเหนือผืนน้ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์แรกของวันที่โผล่พ้นยอดเขา 

กิจกรรมสำหรับสายแอดเวนเจอร์มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งล่องเรือชม “เขาสามเกลอ” แลนด์มาร์กกลางเขื่อน พายเรือคายัครอบแพเพื่อชมธรรมชาติ เดินป่าเส้นทางสั้นและทางไกลศึกษาพรรณไม้ หรือผจญภัยในถ้ำหินงอกหินย้อยสุด Unseen อย่าง “ถ้ำปะการัง” และ “ถ้ำน้ำทะลุ” พอตกเย็นชมแสงสุดท้ายของวันสะท้อนบนผืนน้ำ เป็นการพักผ่อนที่ทั้งสดชื่นและปลุกพลังใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ

14. พระธาตุพูสี และ โบลาเวน ประเทศลาว

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว โบลาเวน ประเทศลาว

“พระธาตุพูสี” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พูสวง” ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว สูงจากระดับพื้นดินประมาณ 150 เมตร ที่นี่จะได้ขึ้นบันไดกว่า 328 ขั้นไปสักการะองค์พระธาตุที่มีรูปทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมสีทองอร่าม สูงประมาณ 21 เมตร บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริดเจ็ดชั้น ซึ่งเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างเคารพนับถือ พร้อมชมวิวหลวงพระบางแบบพาโนรามาในยามเช้า ท่ามกลางทะเลหมอกที่ลอยละเลียดทั่วทั้งเมือง

หากมีโอกาสมาเที่ยวลาวทั้งที อย่าลืมปักหมุดไปที่ “โบลาเวน” พื้นที่ราบสูงทางตอนใต้ของลาว ที่มีน้ำตกสวยงามมากมาย เช่น ตาดขมึด ตาดเสือ และ ตาดฟาน น้ำตกขนาดใหญ่ท่ามกลางม่านหมอกจาง ๆ จากละอองน้ำ โดยเฉพาะที่ตาดฟานยังมีกิจกรรมถูกใจสายผจญภัย อย่าง โหนซิปไลน์ชมวิวทิวทัศน์รอบน้ำตก และหากมาในช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยเฉพาะเดือนมิถุนายน “ทุ่งดอกเปราะภูสีชมพู” บนที่ราบแห่งนี้จะบานสะพรั่งทั่วพื้นที่เปลี่ยนโบลาเวนให้เป็นจุดหมายสุดโรแมนติกอย่าบอกใคร

15. PH EURO PARK และ พระบรมราชวังจตุมุขมงคล ประเทศกัมพูชา

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว พระบรมราชวังจตุมุขมงคล กัมพูชา

“PH Euro Park” พิกัดเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สวนสาธารณะที่จำลองสถานที่สำคัญระดับโลก เช่น หอไอเฟล จากฝรั่งเศส และ ซิดนีย์ โอเปร่าเฮาส์ จากออสเตรเลีย ให้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในยุโรปกลางเมืองพนมเปญ สวนนี้เปิดให้เข้าชมฟรีและมีร้านอาหาร คาเฟ และร้านค้าต่าง ๆ ให้บริการ เหมาะสำหรับการเดินเล่น พักผ่อน หรือแวะถ่ายรูปในบรรยากาศสบาย ๆ

ห่างจาก PH Euro Park ประมาณ 8.6 กิโลเมตร จะพบ “พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Royal Palace of Cambodia” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ 4 สายที่ไหลมาบรรจบกันในกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์กัมพูชา นับแต่ ค.ศ. 1866 สะท้อนความงามของสถาปัตยกรรมกัมพูชาได้อย่างวิจิตร ภายในมีพระที่นั่งสำคัญ เช่น พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย ใช้สำหรับงานพระราชพิธีต่าง ๆ และ วิหารเงิน ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ เช่น พระแก้วมรกต และ พระศรีอริยเมตไตรย ที่ประดับทองคำอย่างงดงาม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ โดยมีค่าเข้าชมประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ และต้องแต่งกายสุภาพตามระเบียบของพระราชวัง

รวมคำถาม-คำตอบก่อนเที่ยวทะเลหมอก ช่วงปลายฝนต้นหนาว

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวปลายฝนต้นหนาว

1. ช่วงไหนของปีที่เหมาะกับการชมทะเลหมอกมากที่สุด?

ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงปลายฤดูฝนต่อเนื่องถึงฤดูหนาว เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชมทะเลหมอก เนื่องจากอุณหภูมิในช่วงเช้าลดต่ำลง ประกอบกับลมเย็นและความชื้นในอากาศ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทะเลหมอกได้บ่อยครั้งและหนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงเช้าเวลา 05:30 – 07:30 น. ถือเป็นช่วงที่ทะเลหมอกมีความงดงามมากที่สุด

2. ช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศเป็นอย่างไร ควรเตรียมเสื้อผ้าแบบไหน?

ในช่วงปลายฝนต้นหนาว อากาศโดยทั่วไปเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 18-25 องศา อาจมีความหนาวในช่วงเช้า และอุ่นขึ้นในช่วงกลางวัน หากขึ้นมาชมทะเลหมอก ควรเตรียมเสื้อแขนยาวบาง ๆ หรือเสื้อแจ็กเก็ตน้ำหนักเบา เพื่อกันลมหนาว กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบหรือเดินป่า ที่ลุยน้ำและกันลื่นได้ดี รวมถึงร่มพับหรือเสื้อกันฝน เผื่อเจอฝนหลงฤดู

3. ข้อควรระวังและคำแนะนำในการท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาวมีอะไรบ้าง? 

ช่วงปลายฝนต้นหนาวควรระวังเรื่องการเดินทางและสภาพอากาศ โดยเฉพาะหากขับรถขึ้นเขาหรือเดินป่าเพื่อไปชมทะเลหมอก จึงควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัยในกาารท่องเที่ยว

  • ฝนหลงฤดู: แม้จะเข้าสู่ช่วงปลายฤดูฝนแล้ว แต่อาจยังมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภูเขาหรือป่าไม้ ควรเตรียมร่มหรือเสื้อกันฝนมาด้วย
  • เส้นทางลื่น: เส้นทางขึ้นดอยหรือทางเดินป่าอาจยังมีความลื่นจากฝนที่เพิ่งหยุดตก ทำให้เสี่ยงต่อการลื่นล้ม ผู้เดินทางควรเลือกรองเท้าที่กันลื่นได้ดี หรือรองเท้าเดินป่าที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
  • การขับขี่ช่วงหมอกหนา: ในช่วงเช้ามืดอาจมีหมอกหนาปกคลุม โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางภูเขา ซึ่งอาจบดบังวิสัยทัศน์และเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ควรเปิดไฟหน้า ไฟตัดหมอก และขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • สัตว์มีพิษและแมลงป่า: เนื่องจากป่าเขาที่มีความชื้นอาจพบเจองู ตะขาบ หรือยุงที่อาจเป็นพาหะของโรคต่าง ๆ ผู้เดินทางควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยหญ้า และควรพกสเปรย์กันยุงหรืออุปกรณ์ป้องกันแมลงติดตัวไว้เสมอ
  • อุณหภูมิเย็นฉับพลัน: โดยเฉพาะในพื้นที่สูงอย่างยอดดอยหรือภูเขา อากาศอาจเย็นจัดในเวลากลางคืน ส่งผลให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันและเกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย ควรเตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม หรือถุงนอนให้เพียงพอ พร้อมพกยาแก้ไข้ ยาแก้แพ้อากาศ และยาประจำตัวติดตัวไว้เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพระหว่างการเดินทาง

โอบกอดทะเลหมอกช่วงปลายฝนต้นหนาว ไปกับ Bangkok Airways

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

แวะไปฮีลใจกับธรรมชาติท่ามกลางวิวทะเลหมอกสวย ๆ สุดฟิน พร้อมสัมผัสเสน่ห์ของการท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ทั้งในประเทศและจุดหมายใกล้เคียงยอดนิยม อย่าง ลาว และกัมพูชา ไปกับสายการบิน Bangkok Airways ด้วยเที่ยวบินเหนือระดับ ที่พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง ด้วยบริการพิเศษและมาตรฐานระดับสากล เพื่อเติมเต็มทุกช่วงเวลาให้กลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ

  • บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
  • น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
  • การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
  • บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน
Share This Story with your travel friends!
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
Related Posts