Bangkok Airways สรุปให้
- สัมผัสความโรแมนติกแห่งธรรมชาติที่แม่กำปอง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวในหุบเขาของจังหวัดเชียงใหม่ กับบรรยากาศชนบทล้านนาโบราณที่ยังคงความงดงามและเงียบสงบ เต็มอิ่มกับวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ ผ่านบ้านไม้สวยคลาสสิก ร้านกาแฟบรรยากาศชิล ๆ พร้อมวิวภูเขา และเส้นทางธรรมชาติที่มีน้ำตกสวยใต้ร่มเงาป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์
- จุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปอง มีให้เลือกหลากสไตล์ เช่น วัดคันธพฤกษา (วัดแม่กำปอง), น้ำตกแม่กำปอง, ถนนคนเดินแม่กำปอง, โครงการหลวงตีนตก, ผาน้ำลอด และกิ่วฝิ่น พร้อมให้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ หรือจะเลือกพักโฮมสเตย์กลางหมู่บ้านท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นและเงียบสงบ
แม่กำปอง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาของจังหวัดเชียงใหม่ เต็มไปด้วยเสน่ห์และโรแมนติกแห่งธรรมชาติที่ยังคงกลิ่นอายวิถีเมืองเก่า ด้วยบรรยากาศชนบทล้านนาโบราณ แม่กำปองจึงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวสายสโลว์ไลฟ์ ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ไปฮีลใจด้วยความสงบแบบเต็มอิ่ม
คู่มือเที่ยวฉบับ Bangkok Airways ขอพาทุกคนออกเดินทางไปสัมผัสกับความงามของแม่กำปอง พร้อมสูดรับอากาศบริสุทธิ์ของป่าเขา น้ำตกใสเย็น และดื่มด่ำกับเสน่ห์ของบ้านไม้เรียบง่าย อย่างเต็มปอด
เหตุผลที่ควรมาเที่ยวแม่กำปอง สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์

แม่กำปอง หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว 50 กิโลเมตร มีอายุมากกว่า 100 ปี โดยมีบ้านไม้แสนเรียบง่ายตั้งเรียงรายในหุบเขาและสองฝั่งของลำห้วย ระหว่างสายธารเต็มไปด้วยดอกไม้สีเหลือง-แดงบานสะพรั่งที่ชื่อว่า ดอกกำปอง จึงได้ชื่อว่า “แม่กำปอง”
หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่าอันเขียวขจีและหุบเขาที่โอบล้อม จึงมีอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะกับการเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าหนาวที่จะได้สัมผัสความหนาวเย็นและม่านหมอกอันงดงาม

ด้วยบรรยากาศโรแมนติกของธรรมชาติที่เงียบสงบและอุดมสมบูรณ์ ผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงเรียบง่ายและงดงามตามขนบธรรมเนียมล้านนาโบราณ ถือเป็นเสน่ห์เฉพาะของชุมชนหมู่บ้านแม่กำปอง ทำให้ผู้คนที่ได้แวะมาต่างตกหลุมรักเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้
ที่เที่ยวแม่กำปอง กับ กิจกรรมสุดชิล
สำหรับการเที่ยวหมู่บ้านแม่กำปอง แบ่งเป็น 3 ปางหลัก ซึ่งการเดินเที่ยวครบทั้ง 3 ปางจะทำให้ได้สัมผัสเสน่ห์ที่หลากหลายของหมู่บ้านอย่างสมบูรณ์
- ปางนอก เป็นประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว จุดเริ่มต้นเส้นทางการเดินชมหมู่บ้าน
- ปางกลาง เป็นศูนย์กลางถนนคนเดิน มีทั้งร้านค้าสำคัญ ร้านอาหาร และคาเฟ
- ปางใน เป็นแหล่งอยู่อาศัยของชาวบ้านและใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด

นอกจากเดินเล่นชมเมืองรับโอโซนบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอด พร้อมถ่ายภาพสวยงามทุกมุมของหมู่บ้าน แม่กำปองยังมีกิจกรรมผ่อนคลายอีกมากมายที่ไม่ควรพลาด อาทิ
- ศึกษาเส้นทางธรรมชาติอันงดงามด้วยการเดินป่า
- ลิ้มลองความอร่อยของอาหารเหนือแบบดั้งเดิม
- เล่นน้ำใสให้ชุ่มฉ่ำที่น้ำตกแม่กำปอง
- ชมแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและทะเลหมอกที่จุดชมวิวกิ่วฝิ่น
- พักที่โฮมสเตย์สักคืน เพื่อชมทางช้างเผือกที่แสนโรแมนติก

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ การนั่งจิบกาแฟชิล ๆ ชมวิวธรรมชาติที่แม่กำปอง เพราะกาแฟของคาเฟที่นี่ปลูกแบบใช้วิถีการเกษตรแบบธรรมชาติ ปราศจากการใช้สารเคมี บนพื้นที่สูงมากกว่า 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ด้วยอุณหภูมิหนาวเย็น ทำให้กาแฟมีรสชาตินุ่มนวล พร้อมกลิ่นหอมกรุ่นที่ชวนให้หลงใหล

รวม 7 จุดเช็กอินเมื่อมาเที่ยวแม่กำปอง
1. วัดคันธาพฤกษา (วัดแม่กำปอง)

“วัดคันธาพฤกษา” หรือที่เรียกกันว่า “วัดแม่กำปอง” วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีประจำหมู่บ้าน ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านและจุดหมายปลายทางที่สายบุญไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผสานมนต์ขลังเข้ากับความงามแห่งธรรมชาติ วิหารแบบล้านนาโบราณที่แกะสลักลวดลายวิจิตร และโบสถ์ไม้สักทองสุดอันซีนที่ตั้งอยู่กลางลำธารแห่งสายน้ำแม่กำปอง
ภายในประดิษฐานพระประธานสีทององค์ใหญ่และพระเจ้าทันใจ นิยมแวะมาสักการะขอพรเสริมสิริมงคลให้สมหวังดั่งใจและเก็บภาพสวย ๆ กลับบ้าน ด้านหลังวิหารไม้สัก ประดิษฐานเจดีย์สีขาว ซึ่งมักจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมิถุนายน
เวลาเปิด-ปิด: 06.00-18.00 น. (ทุกวัน)
2. น้ำตกแม่กำปอง

“น้ำตกแม่กำปอง” น้ำตกสูงลดหลั่นกว่า 7 ชั้น สูงประมาณ 1,700 เมตร ใจกลางแม่กำปอง ถือเป็นธารน้ำหลักของหมู่บ้าน ด้วยน้ำใสเย็นที่ไหลลงมาจากต้นน้ำบนเทือกเขาสูง แต่ละชั้นมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โอบล้อมด้วยธรรมชาติร่มรื่นเคล้ากลิ่นดินและน้ำอันชุ่มฉ่ำ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินเลาะบันไดระยะทางประมาณ 300 เมตร ขึ้นไปชมความงามของแต่ละชั้นได้ โดยมีศาลาริมน้ำตกพักผ่อนให้หยุดรับลมและฟังเสียงน้ำไหลคลอเบา ๆ หรือหากอยากเติมเต็มความสดชื่นสามารถลงเล่นน้ำเย็นใสสะอาดแบบเพลิน ๆ หรือแช่ขาคลายความเมื่อยล้า ที่แอ่งน้ำชั้นล่างของน้ำตกได้อย่างสบายใจ สายน้ำจากน้ำตกแห่งนี้จะไหลตลอดปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เหมาะกับการแวะเที่ยวพักผ่อน
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-17.00 น. (ทุกวัน)
3. ถนนคนเดินแม่กำปอง

สัมผัสวิถีชีวิตของชาวแม่กำปองอย่างใกล้ชิดที่ “ถนนคนเดินแม่กำปอง” ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ และของฝากมากมาย ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นของบ้านไม้แสนเรียบง่าย
ระหว่างเดินชิล ๆ จะได้ยินเสียงน้ำไหลจากลำธารที่ไหลผ่านตลอดทาง สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศคึกคักแบบชุมชนที่น่ารัก โดยเฉพาะในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด

เดินเล่นชมบ้านเรือนไม้แบบล้านนาโบราณ และถ่ายรูปเช็กอินกับมุมสวย ๆ แวะชิมอาหารท้องถิ่นรสเด็ด อาทิ ไส้อั่ว ไส้ย่าง ไข่ป่าม ในราคาน่ารัก และขนมหวานจากร้านดังต่าง ๆ อย่าง บัวลอยมะพร้าวอ่อน จากร้านบัวจั๋น พร้อมหาซื้อของฝากเป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากใบชา กาแฟคั่วสด หมอนใบชา เครื่องเทศ และสมุนไพรท้องถิ่น หรือของทำมือจากชาวบ้าน อย่างงานหัตถกรรมและของประดับเก็บไปฝากคนสนิทก็ได้เหมือนกัน
เวลาเปิด-ปิด: 07.00-20.00 น. (ทุกวัน)
4. ร้านระเบียงวิว – The Giant Chiangmai

เช็กอินจุดชมวิวยอดฮิตของแม่กำปองที่ “ร้านระเบียงวิว” นั่งจิบกาแฟหอมกรุ่น หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และบรรยากาศแสนโรแมนติกจากจุดที่สูงของหมู่บ้าน พร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่กำปอง มองเห็นบ้านเรือนไม้ที่กระจัดกระจาย ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และลำธารที่คดเคี้ยวไหลผ่านหมู่บ้าน
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-17.00น. (ทุกวัน)

อีกหนึ่งจุดเช็กอินสุดฮิตที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาแม่กำปอง “The Giant Chiangmai” ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ ไฮไลต์สำคัญ คือ สะพานลิงที่ยาวเหยียด และกิจกรรมโหนสลิงสุดท้าทาย เหมาะสำหรับสายผจญภัย ขณะที่สายชิลสามารถนั่งจิบกาแฟและดื่มด่ำบรรยากาศร่มรื่น นอกจากนี้ยังเป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ โดยเฉพาะช็อตพิเศษบนต้นไม้ที่ต้องมาถ่ายรูปเก็บไว้กัน
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-17.30น. (วันอังคาร-อาทิตย์)
5. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก

“โครงการหลวงตีนตก” บ้านไม้ที่ตั้งอยู่ริมลำธารในโอบกอดของแนวเทือกเขาสูง ห่างจากน้ำตกแม่กำปองเพียง 5 กิโลเมตร เดิมทีที่แห่งนี้ห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยรายได้น้อย จนกระทั่งได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์สาธิตและส่งเสริมการเพาะเห็ดหอมและกาแฟพันธุ์อาราบิก้า
ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้และชมแปลงสาธิตโครงการต่าง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติ สนุกไปกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ทั้งชมการปลูกพืชผักเมืองหนาว ชมสวนกาแฟในช่วงเดือนธันวาคมที่จะเห็นเมล็ดกาแฟสุกสีแดงสด และเรียนรู้ขั้นตอนการแปรรูปกาแฟ ตั้งแต่การกะเทาะเปลือก ตากแห้ง จนถึงการคั่ว และผลิตผลทางการเกษตรอื่น เช่น การทำมันฝรั่งทอดกรอบ การทำน้ำพริก และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีที่พักภายในโครงการฯ แบ่งเป็น 3 แบบ คือ บ้านพักธารใส บ้านพักริมธาร และ บ้านพักธารริน ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงพระราชกรณียกิจและชื่นชมผลงานการพัฒนาที่ยั่งยืน ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกแห่งธรรมชาติ
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-20.0น. (ทุกวัน)
6. ผาน้ำลอด

อีกหนึ่งจุดแวะพักใจที่ควรมาเที่ยวที่แม่กำปอง “ผาน้ำลอด” ตั้งอยู่ห่างจากโครงการหลวงตีนตกประมาณ 200 เมตร ด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีช่องว่างใต้ก้อนหิน ทำให้ลำน้ำสามารถไหลผ่านลอดใต้ผาไปได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ผาน้ำลอด”
ไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือ สะพานไม้ทอดยาวผ่านต้นไม้นานาพันธุ์ เมื่อเดินเข้าไปเรื่อย ๆ จะพบกับลำธารที่ไหลผ่านลอดใต้ผาหินใหญ่ มีต้นไม้สวยงามและลำธารน้อยๆ ไหลผ่าน บรรยากาศร่มรื่น อากาศเย็นสบาย เหมาะกับสายถ่ายรูป นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร และคาเฟ ให้แวะนั่งพักผ่อนทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มชิล ๆ ทั้งนี้ควรตรวจสอบเวลาทำการล่วงหน้าเพราะบางช่วงอาจปิดให้บริการ
เวลาเปิด-ปิด: 07.00-18.00 น. (ทุกวัน)
7. กิ่วฝิ่น

จุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดของแม่กำปอง ต้องไม่พลาดที่ “กิ่วฝิ่น” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ระหว่างเขตแดนของจังหวัดเชียงใหม่และลำปาง ห่างจากแม่กำปองเพียง 4 กิโลเมตร บนยอดดอยที่สูงถึง 1,517 เมตร ดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่สวยงามของเชียงใหม่และลำปางแบบ 360 องศา
ที่นี่มีจุดกางเต็นท์ให้พักผ่อนเต็มอิ่มท่ามกลางธรรมชาติ ยามเช้าช่วงเวลา 05.00-07.00 น. จะได้เห็นหมอกหนาปกคลุมแทรกตัวตามทิวเขาเคล้ากับแสงอาทิตย์ส่องผ่านชั้นหมอก และในยามค่ำคืนจะได้สัมผัสกับทะเลดาวส่องประกายงดงาม หากโชคดีอาจมีโอกาสได้พบเห็นทางช้างเผือกพาดผ่านเก็บไว้เป็นภาพความทรงจำอันล้ำค่า
เวลาเปิด-ปิด: 07.00 – 17.00 น. (ทุกวัน)
ที่พักแบบสโลว์ไลฟ์ใกล้ชิดธรรมชาติที่หมู่บ้านแม่กำปอง

สำหรับใครที่อยากแวะมาเที่ยวแม่กำปอง สามารถเลือกเที่ยวได้หลายสไตล์ จะมีเวลาน้อย แค่แวะเช็กอินถ่ายรูปชิล ๆ หรือจะเที่ยวแบบ 1 Day Trip ครบจบในวันเดียวก็ได้ แต่ถ้าอยากสัมผัสวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์แบบเต็มอิ่ม การพักโฮมสเตย์ใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน
- บ้านพักลุงปุ๊ด&ป้าเป็ง บ้านไม้ใจกลางหมู่บ้าน ซึมซับวิถีชุมชนอย่างเต็มอิ่ม
- ฮิมดอยโฮม โฮมสเตย์ไม้ร่วมสมัย บรรยากาศดีติดริมน้ำ ให้ผ่อนคลายกับเสียงน้ำไหลชิล ๆ
- April Cottage บ้านพักริมลำธารที่โอบล้อมด้วยต้นพญาเสือโคร่งสีชมพูหวาน แต่งแต้มบรรยากาศโรแมนติกในช่วงฤดูหนาว
วิธีการเดินทางมาที่แม่กำปองจากเชียงใหม่

การเดินทางมาที่แม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ จากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถเลือกขับรถยนต์ส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะ ตามความสะดวก ดังนี้
1. รถยนต์ส่วนบุคคล
- ขับรถยนต์ไปยังน้ำพุร้อนสันกำแพง ตามป้ายสันกำแพง-แม่ออน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
- สามารถจอดรถฟรีได้ที่ลานจอดรถของโรงเรียนบ้านแม่กำปอง วัดแม่กำปอง และพื้นที่จอดรถของคาเฟต่าง ๆ หรือร้านค้าบางแห่งในหมู่บ้าน
2. รถยนต์สาธารณะ
- ขึ้นรถตู้จากท่ารถตู้เชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยจะมีทั้งหมด 4 รอบต่อวัน ตั้งแต่ 07.40-14.30 น.
- เหมารถสองแถวจากเชียงใหม่-แม่กำปอง โดยคิดราคาตามระยะทางและการต่อรองกับคนขับ
เก็บกระเป๋าเที่ยวแม่กำปอง เชียงใหม่ ช่วงไหนดีที่สุด

แม่กำปองมีสภาพอากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 25.6 องศาเซลเซียส สามารถแบ่งระยะเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ ออกเป็น 3 ช่วง
1. กลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม: ช่วงฤดูร้อน
เป็นช่วงฤดูร้อนของแม่กำปอง เชียงใหม่ อากาศแจ่มใสและอบอุ่นกำลังดี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 23.3-28.1 องศาเซลเซียส โดยเดือนที่มีอากาศร้อนอบอ้าวที่สุด คือ เดือนเมษายน เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นศึกษาเส้นทางธรรมชาติขึ้นสู่ยอดเขา หรือแวะสัมผัสความฉ่ำเย็นของน้ำตก
2. กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม: ช่วงฤดูมรสุม
เป็นช่วงที่มีลมมรสุมพัดผ่าน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3-28.5 องศาเซลเซียส ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวสัมผัสเสน่ห์อีกแบบของแม่กำปอง เพราะหมู่บ้านและผืนป่าที่โอบล้อมจะเขียวขจีสดชื่นที่สุด บรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน อากาศชุ่มฉ่ำและมีฝนตกชุก โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม
3. กลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์: ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด
ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุดของแม่กำปองคือ ช่วงฤดูหนาว โดยอุณหภูมิเฉลี่ยลดลงต่ำสุดถึง 14.1 องศาเซลเซียส และมีม่านหมอกขาวสุดโรแมนติกปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน โดยเฉพาะในเดือนมกราคม เหมาะกับการเก็บภาพความประทับใจและใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ จิบกาแฟอุ่น ๆ แบบชิล ๆ พร้อมชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม
สำรวจที่เที่ยวเชียงใหม่เพิ่มเติม ได้ที่นี่
- ที่เที่ยวดอยเชียงใหม่ สูดอากาศดี ๆ รับพลังบวก ให้ใจฟู
- วัดเชียงใหม่ แวะไหว้พระ ชมวัดสวย สายบุญไม่ควรพลาด
- ตลาดกลางคืน เชียงใหม่ ถนนคนเดินสุดชิค ถูกใจสุด ๆ
สัมผัสเมืองเล็กแสนโรแมนติกที่ แม่กำปอง ไปกับ Bangkok Airways

ค้นพบวิถีสโลว์ไลฟ์ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกแห่งธรรมชาติของ “แม่กำปอง” จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งการใช้ชีวิตเรียบง่าย ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และอากาศบริสุทธิ์ เริ่มต้นการเดินทางกับ Bangkok Airways บินตรงสู่เชียงใหม่ ด้วยเที่ยวบินสุดพิเศษ พร้อมยกระดับความประทับใจตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน