คู่มือเที่ยวม่อนแจ่ม เชียงใหม่ 2568 อัปเดตที่เที่ยว ไฮไลต์ และมุมถ่ายรูปสุดชิค

Bangkok Airways สรุปให้

• ม่อนแจ่ม ดอยสูงกว่า 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล บรรยากาศดีทั้งทิวเขา สายหมอก และดอกไม้เมืองหนาวที่ผสานกับเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวม้ง เช่น โครงการหลวงหนองหอย และสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ปี 2568 ยังมีแลนด์มาร์กใหม่อย่าง The First Miracle Flower Castle ปราสาทดอกไม้กลางขุนเขา เพิ่มสีสันให้ม่อนแจ่มมากขึ้น
• นอกจากสวนดอกไม้ ไร่ส้ม และไร่สตรอว์เบอร์รีแล้ว ม่อนแจ่มยังมีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย ทั้งให้อาหารแกะ แล่นฟอร์มูล่าม้ง เล่นจังเกิ้ลโคสเตอร์และซิปไลน์ นั่งคาเฟชมวิว หรือพักค้างคืนในเต็นท์ชมทะเลดาวท่ามกลางลมหนาว จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของเชียงใหม่ที่ทั้งโรแมนติก เที่ยวสนุก และได้เก็บภาพสวย ๆ

ม่อนแจ่ม ดอยเล็กที่อบอวลด้วยสีสันและความโรแมนติกแห่งธรรมชาติ พร้อมวิวหลักล้านที่ไม่ต้องเดินทางไกลจากใจกลางเมืองเชียงใหม่ และในปี 2568 นี้ Bangkok Airways พาอัปเดตที่เที่ยวม่อนแจ่มแบบจัดเต็ม รวบรวมกว่า 20 ไฮไลต์ห้ามพลาด พร้อมมุมถ่ายรูปสุดชิคให้เก็บภาพความประทับใจกลับบ้านได้ครบในทริปเดียว

สัมผัสกลิ่นอายโรแมนติกแห่งธรรมชาติบนม่อนแจ่ม เชียงใหม่

สัมผัสอ้อมกอดของขุนเขาที่ ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงส่งเสริมให้ชาวเขามีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนบนสันเขาสูง 1,350 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และรายล้อมไปด้วยแปลงผักและสวนดอกไม้หลากสีสัน

อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ม่อนแจ่ม คือ กลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมของชาวเผ่าม้ง เผ่าลีซู และเผ่าจีนฮ่อ ที่ยังคงอบอวลอยู่ทั่วพื้นที่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มอบอุ่นและเป็นมิตร และหากอยากใกล้ชิดวิถีม้งมากขึ้น ก็สามารถเช่าชุดม้งสีสันสดใสมาสวมใส่ในราคาชุดละ 50 บาท แล้วเดินเล่นท่ามกลางแปลงดอกไม้ ทุ่งผัก และวิวภูเขา

ไปเที่ยวม่อนแจ่ม บินตรงสู่จังหวัดเชียงใหม่ ไปกับสายการบิน Bangkok Airways

มาเที่ยวม่อนแจ่ม เดินทางจากกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเที่ยวบินตรงสู่สนามบินเชียงใหม่ โดยสายการบิน Bangkok Airways ที่ให้บริการครบครันแบบ Full Service ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ที่ดูแลตลอดการเดินทาง ทั้งอาหารบนเครื่อง ห้องรับรอง น้ำหนักสัมภาระ และความสะดวกสบายตั้งแต่เช็กอินจนถึงปลายทาง

รวม 20 จุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาม่อนแจ่ม เชียงใหม่

1. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย หนึ่งใน 39 ศูนย์โครงการหลวง ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัดของภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน และตาก นอกจากเป็นพื้นที่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรแล้ว ในบริเวณโครงการหลวงยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตบนดอย 

ภายในศูนย์มีการสาธิตการปลูกผักด้วยระบบไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน รวมถึงการปลูกสมุนไพรต่างประเทศ เช่น ชาสมุนไพร 7 ชนิดที่หอมและสดชื่น นอกจากนี้ ด้วยภูมิประเทศที่เป็นภูเขาลาดชัน ชาวบ้านจึงปรับพื้นที่เป็นแปลงผักขั้นบันได ที่ทั้งสวยงามและเหมาะกับการเพาะปลูก ทั้งยังมีแปลงสาธิตผักและไม้ผลเมืองหนาว เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด และสตรอว์เบอร์รี ให้ได้ชมและเรียนรู้การปลูกแบบใกล้ชิด 

โดยช่วงเวลาที่สวยที่สุดของที่นี่คือ กลางฤดูฝนถึงกลางฤดูหนาว ระหว่างเดือนสิงหาคม-ธันวาคม แปลงผักเขียวสดตัดกับทิวเขาและสายหมอกสวยงาม

2. ฟอร์มูล่าม้ง

ประชันความเร็วกับฟอร์มูล่าม้ง กิจกรรมสุดมันส์ที่สะท้อนภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของชาวเขา ตั้งอยู่บริเวณทางเข้า Sky Walk ม่อนแจ่ม โดยชาวบ้านนำไม้มาประกอบเป็นรถลากแบบพื้นบ้านที่สามารถควบคุมได้ แล้วปล่อยให้ไหลลงมาตามทางลาดชันระยะทางประมาณ 400 เมตร 

ไฮไลต์อยู่ที่เดือนมกราคมของทุกปีจะมีการจัดแข่งขันฟอร์มูล่าม้งและการแสดงของชาวม้ง โดยราคาค่าบริการฟอร์มูล่าม้งมี 2 แบบคือ รถนั่งเดี่ยว 50 บาทต่อรอบ และรถนั่งคู่ 100 บาทต่อรอบ สามารถซื้อบัตรได้ที่ซุ้มขายตั๋วบริเวณทางเข้าก่อนลงสนามจริง

3. จุดชมวิวม่อนแจ่ม

จุดชมวิวแม่แจ่ม จุดไฮไลต์ที่ใครขึ้นดอยแล้วต้องแวะให้ได้ ที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาแบบพาโนรามา 360 องศา มีซุ้มไม้และแคร่ไม้ไผ่ตั้งเรียงรายริมหน้าผา ให้นั่งพักชมวิว สูดอากาศเย็นๆ ได้อย่างสบาย บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยแปลงผักและทุ่งดอกไม้สีสวยที่ปลูกสลับกันเป็นขั้นบันได เหมาะทั้งกับการนั่งจิบกาแฟ รับลมหนาว หรือถ่ายรูปม่อนแจ่มเก็บความทรงจำไว้ในมุมที่สวยที่สุด

4. สกายวอล์ก ม่อนแจ่ม

จากจุดชมวิวม่อนแจ่มประมาณ 50 เมตร สายธรรมชาติที่มองหาจุดเช็กอินบนม่อนแจ่มแบบได้ฟีลอบอุ่นหัวใจ ต้องแวะสกายวอล์ก ม่อนแจ่ม ทางเดินไม้ยาวกว่า 100 เมตรที่ลัดเลาะไปตามริมภูเขา ชมวิวทะเลหมอกและทิวเขาแบบ 360 องศา สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด  

ไฮไลต์คือเช่าชุดชาวเขาและชุดฮันบกเกาหลี ใส่ถ่ายรูปเก๋ ๆ แค่ 50 บาท อินไปกับบรรยากาศเหมือนบินลัดฟ้าไปถ่ายถึงเกาหลี แถมยังมีโซนให้อาหารน้องแกะให้ได้ใกล้ชิดแบบน่ารัก ๆ อีกด้วย โดยเปิดให้เที่ยวทุกวัน ตั้งแต่ 06.00-18.00 น.

5. ยอดดอยม่อนแจ่ม

ยอดดอยม่อนแจ่ม ร้านคาเฟยอดฮิตที่กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กประจำม่อนแจ่ม นั่งจิบกาแฟชิล ๆ ชมสวนไฮเดรนเยีย ที่บานสะพรั่งเต็มพื้นที่ทั้งสีฟ้าและสีม่วงสดใสตัดกับวิวภูเขาสลับซับซ้อนสุดตระการตา 

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่สวนไฮเดรนเยียและชิงช้าชมวิวริมผาที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูปเช็กอินสักครั้ง โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 07:00-17:30 น. และค่าเข้าสวนเพียง 40 บาทเท่านั้น แนะนำให้มาช่วงเช้า อากาศจะเย็นสบาย หมอกบาง ๆ คลอเคลียภูเขา ถ่ายรูปออกมาได้ฟีลละมุน

6. ดอยม่อนล่อง

ดอยม่อนล่อง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ม่อนคว่ำล่อง” เป็นหน้าผาหินสูงชันที่มีเอกลักษณ์ อยู่บนระดับความสูง 1,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากเชิงดอยขึ้นไปประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึงยอด ซึ่งสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาว ส่วนในช่วงปลายฝนต้นหนาว นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าขึ้นไป แต่เส้นทางนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นของธรรมชาติ โดยบนดอยม่อนล่องมีสองจุดชมวิวหลัก ได้แก่

• จุดสูงสุดของดอยม่อนล่อง จุดชมวิวที่สวยที่สุด โดยเฉพาะแสงแรกของวันในยามอาทิตย์ขึ้น สามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา
• จุดฝังศพของขุนหลวงวิรังคะ อดีตเจ้าเมืองระมิงค์นคร ผู้มีชื่อเสียงด้านพละกำลังและคาถาอาคม โดยบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลให้ผู้คนได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

จากบนยอดดอยสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่และลำพูนได้แบบพาโนรามา เป็นทั้งจุดชมวิวและจุดกางเต็นท์ยอดนิยม สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสอากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัดและอาจพบสายหมอกโอบกอดขุนเขา

7. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่กว้างใหญ่กว่า 6,500 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ทั้งโซนป่าธรรมชาติที่อนุรักษ์ผืนป่าเดิมไว้และ โซนจัดแสดงที่ออกแบบให้เดินชมสะดวกและเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพรรณแบบเพลิน ๆ ไฮไลต์สำคัญคือ Canopy Walks เส้นทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในไทยถึง 400 เมตร สูงจากพื้นดินกว่า 20 เมตรกลางป่าเขียว ๆ ชมทิวทัศน์ 360 องศา

จากนั้นอย่าลืมแวะต่อที่กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ (Glasshouse Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งภายในแบ่งเป็นเรือนกระจกถึง 12 หลัง จำลองสภาพแวดล้อมของป่าดิบชื้น ปาล์ม เฟิร์น พืชวงศ์ขิงข่า ไปจนถึงกลุ่มกระบองเพชรและพืชทนแล้ง ไฮไลต์อยู่ที่ต้นกระบองเพชรขนาดใหญ่ชื่อ “ถังทอง” รูปทรงกลมคล้ายถังปกคลุมด้วยหนามสีทองอายุประมาณ 30-40 ปีที่สายแคคตัสหรือสายฮิปต้องไม่พลาดเก็บภาพไว้เช็กอินอีกมุม

8. น้ำตกแม่สาน้อย

หลังจากเดินชมสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อย่าลืมแวะน้ำตกแม่สาน้อยกัน ตั้งอยู่ภายในสวนพฤกษศาสตร์ฯ แม้น้ำตกจะไม่ใหญ่ แต่มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวหลายคนมักแวะมาถ่ายรูป นั่งพัก หรือสัมผัสไอละอองน้ำเย็น ๆ เพื่อรีชาร์จพลังให้กายและใจไปกับการเดินลุยศึกษาธรรมชาติตลอดทั้งวัน

เกร็ดความรู้: น้ำตกแม่สาน้อยเป็นคนละที่กับน้ำตกแม่สา โดยตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 6.6 กิโลเมตร 

• น้ำตกแม่สาน้อย อยู่ในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่มีน้ำไหลตลอดปี
• น้ำตกแม่สา อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ละชั้นห่างกัน 100-150 เมตร รวมประมาณ 1.5 กิโลเมตร และสามารถเดินเท้าชมได้ครบทุกชั้น

9. ไร่สตรอว์เบอรีปลายฟ้า

ไร่สตรอว์เบอร์รีปลายฟ้า ตั้งอยู่บนม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปลูกสตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 รสอมเปรี้ยวอมหวาน ถ้าสุกจะหวานกรอบอร่อย  ไฮไลต์คือ ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ สำหรับใครอยากเก็บสตรอว์เบอร์รีสดกลับบ้านก็ทำได้ แต่ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน โดยจะคิดราคาประมาณขีดละ 30 บาท หรือกิโลกรัมละ 300 บาท

เกร็ดความรู้: ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทางไร่อาจอนุญาตให้ถ่ายรูปอย่างเดียวเพื่อรักษาความสวยของแปลงปลูก แต่แค่เดินเล่น จิบลมหนาว และชมวิวภูเขา พร้อมเก็บภาพไร่สตรอว์เบอร์รีที่โอบล้อมด้วยท้องฟ้าก็สัมผัสความฟินได้ โดยจะลดค่าเข้าชมผู้ใหญ่เหลือเพียง 20 บาท และเด็ก 10 บาทเท่านั้น

10. สวนดอกไม้ป้างฮวา

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวม่อนแจ่ม ต้องที่สวนดอกไม้ป้างฮวา ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแม่ขิ ห่างจากม่อนแจ่มประมาณ 8 กิโลเมตร บรรยากาศดี วิวสวย และรายล้อมด้วยทุ่งดอกไม้หลายสีสัน ทั้งดอกซัลเวียสีแดงสด ดอกบลูซัลเวียสีม่วง หรือดอกเดซี่สีเหลืองสะวันนา 

นอกจากนี้ยังมีสวนส้มให้นักท่องเที่ยวเดินถ่ายรูปบนทางเดินของสวนแบบชิค ๆ หรือจะเก็บส้มสดจากต้นก็ได้ คิดราคาเพียงกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น มาเดินถ่ายรูปกับดอกไม้ แวะเก็บส้ม เดินเล่น สูดอากาศเย็นของฤดูหนาว ก็ดีต่อใจแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม: โดยในปีนี้มีความพิเศษเพราะทางสวนได้ปลูกดอกไฟเออร์เวิร์คสีชมพู สายพันธุ์จากเกาหลีที่กำลังฮิต รับรองว่าถ่ายรูปออกมาสวยละมุน แถมยังมีคาเฟเล็ก ๆ ให้นั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวภูเขาแบบชิล ๆ อีกด้วย

11. บ้านแกะแม่ขิ

จากสวนดอกไม้ป้างฮวา แวะเติมพลังใจต่อที่บ้านแกะแม่ขิ ที่อยู่ห่างกันเพียง 900 เมตร บรรยากาศเป็นลานหญ้าเขียวบนเนินวิวภูเขา ที่นี่มีทั้งแกะอัลปาก้า น้องกระต่าย และนกหงษ์หยกให้เดินเล่นดูแบบใกล้ชิด ค่าเข้าชมอยู่ที่ 100 บาทต่อคน โดยบัตรสามารถนำไปแลกรับเครื่องดื่มฟรีที่คาเฟได้อีกด้วย ใครแพ้ความน่ารักของน้อง ๆ ต้องเตรียมหัวใจไว้ดี ๆ เพราะนอกจากจะเข้าไปลูบ และถ่ายรูปคู่แล้ว ยังสามารถซื้ออาหารให้น้องได้ด้วยในราคาถังละ 40 บาทเท่านั้น

ไฮไลต์ที่ห้ามพลาด คือกิจกรรมแม่ทูนหัว ที่เปิดโอกาสให้เราได้เป็นคุณแม่น้องหนึ่งตัวในราคา 999 บาท สามารถตั้งชื่อน้องเอง อาบน้ำ และติดตามอัปเดตของน้อง ๆ ได้เสมอ หรือถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาแบบชิล ๆ ตอนเย็น ที่นี่ก็มีปิกนิกบาร์บีคิวบนลานหญ้า ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ชมพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมฟังเสียงแกะเบา ๆ อย่างอบอุ่น

12. ปราสาทดอกไม้ The First Miracle Flower Castle

แลนด์มาร์กใหม่ที่กำลังมาแรงในปี 2568 บนม่อนแจ่มต้องยกให้ The First Miracle Flower Castle ปราสาทดอกไม้แห่งแรกของภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่ขิ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากบ้านแกะแม่ขิเพียง 450 เมตร ที่นี่คือจุดรวมดอกไม้นานาพรรณที่จัดแต่งจนกลายเป็นปราสาทสุดอลังการ ตั้งเด่นท่ามกลางสวนดอกไม้และวิวขุนเขาล้อมรอบ

โดยมีราคาเข้าชม 120 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 60 บาทสำหรับเด็ก ๆ ทั้งยังสามารถนั่งพักจิบเครื่องดื่ม ทานขนมหวานหรืออาหารได้ แนะนำให้ไปช่วงเช้าเพราะจะได้เจอแสงแดดอ่อน ๆ หมอกบางลอยเหนือดอย

13. สวนส้มยอดดอย

ถัดจากบ้านแกะแม่ขิประมาณ 650 เมตร จะเจอสวนส้มยอดดอย จุดเช็กอินอีกแห่งที่อบอุ่นและน่ารักของม่อนแจ่ม ที่นี่ปลูกส้มเขียวหวานพันธุ์สายน้ำผึ้งลูกโต รสหวานฉ่ำ และมีกิจกรรมให้สวมบทเป็นชาวสวนแบบสนุก ๆ โดยทางสวนมีพร็อพให้ยืมฟรีครบชุด ทั้งตะกร้าเก็บส้ม หมวก ร่ม หรือรองเท้าบูต แล้วเดินเก็บส้มสด ๆ จากต้น ท่ามกลางวิวภูเขาและต้นส้มเรียงราย

หลังจากเดินเก็บส้มจนฟินแล้ว อย่าลืมแวะเลือกซื้อของฝากโฮมเมดจากสวนกลับบ้านด้วย มีทั้งคอมบูชาส้มสูตรพิเศษ ส้มอบแห้งพริกเกลือผสมเกลือหิมาลายัน ส้มอบแห้งเกลือหิมาลายันแบบคลาสสิก และเจลลี่ส้ม ให้เลือกชิมเลือกซื้อกันแบบเพลิน ๆ

14. ยิ่งยงสวนดอกไม้

อีกหนึ่งสวนดอกไม้ที่ต้องปักหมุดมา คือที่ยิ่งยงสวนดอกไม้ บนดอยแม่แจ่ม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ไฮไลต์คือสะพานไม้ไผ่ทอดยาวให้เดินชมวิวแบบ 180 องศา มีเปียโนกลางทุ่งดอกไม้ ให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเข้าฤดูหนาว บรรยากาศเย็นสบาย มีหมอกบาง ๆ ลอยผ่านระหว่างดอย  ให้เก็บภาพสวย ๆ เติมความประทับใจระหว่างทริป

15. กู๋เนียร์ ไฮเดรนเยีย

สวนดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงหนองหอย เป็นสวนไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอแม่ริม และอยู่ห่างจากม่อนแจ่มเพียง 1.3 กิโลเมตร ภายในสวนจะเห็นทุ่งไฮเดรนเยียไล่ระดับตามขั้นบันได เต็มไปด้วยสีฟ้า สีชมพู สีม่วงอ่อน 

นักท่องเที่ยวสามารถยืมพร็อพได้ ทั้งรองเท้าบูตและตะกร้าดอกไม้ ให้เดินถ่ายภาพเก๋ ๆ โดยมีค่าเข้าชมอยู่ที่ 150 บาทต่อคน พร้อมแลกรับเครื่องดื่มจากคาเฟภายในสวนได้ด้วย นอกจากไฮเดรนเยียแล้ว ที่นี่ยังมีสวนอะโวคาโด ให้เก็บสดจากต้นในราคากิโลกรัมละ 120 บาท

16. ทุ่งดอกเก๊กฮวย สวนนายพล

สัมผัสบรรยากาศทุ่งดอกไม้สีขาวละลานตา ต้องแวะทุ่งดอกเก๊กฮวย สวนนายพล บ้านอมลอง อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นทุ่งเก๊กฮวยที่สวยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสะเมิง โดยดอกเก๊กฮวยจะเริ่มบานเต็มที่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงปลายพฤศจิกายน เหมาะกับการถ่ายรูปแบบอบอุ่น ได้ฟีลเกาหลี

นอกจากเดินถ่ายรูปแล้ว ยังสามารถจิบน้ำเก๊กฮวยหอมหวานอุ่น ๆ ได้จากสวน พร้อมเลือกซื้อของฝากติดมือกลับบ้าน ทั้งดอกเก๊กฮวยอบแห้ง หญ้าหวาน และกล้วยฉาบสูตรโฮมเมด โดยช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวคือ เช้า 07.00-10.00 น. หรือเย็น 16.00-17.00 น.

17. โป่งแยงจังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์

สำหรับสายแอดเวนเจอร์ ต้องมาที่โป่งแยงจังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์ ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนถึงม่อนแจ่ม 3 กิโลเมตร ที่จัดเต็มความมันส์กลางป่าแบบจุใจ

• จังเกิล โคสเตอร์: รถเลื่อนวิ่งตามรางยาวกว่า 880 เมตร ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชวนปลุกอะดรีนาลีนให้ใจเต้นแรง
• ซิปไลน์: โหนสลิงเหินเวหาผ่านยอดไม้กว่า 34 สถานี มองวิวภูเขาแบบพาโนรามา
• แอดเวนเจอร์ ซิมูเลชัน 5 มิติ: เครื่องเล่นโลกเสมือนจริงที่จำลองทั้งภาพ เสียง การสั่นสะเทือน ครบทุกโสตประสาท 

ที่นี่เปิดให้เล่นทุกวัน โดยวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์ เปิด 08.00-17.00 น. ส่วนวันอาทิตย์ เปิด 08.30-17.30 น. มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 200-3,000 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจที่เลือก

18. น้ำตกตาดหมอก

น้ำตกตาดหมอก น้ำตกขนาดใหญ่แบบชั้นเดียว ตั้งอยู่ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 26 เมตร และเมื่อกระทบพื้นจะกลายเป็นละอองน้ำฟุ้งกระจายคล้ายสายหมอก สมกับชื่อ “ตาดหมอก” ด้านหน้าตัวน้ำตกยังมีต้นไม้ใหญ่คู่อย่าง ต้นงุนหรือต้นงุ้น อายุเกิน 100 ปี ยืนต้นให้ร่มเงาอยู่คู่ธรรมชาติมานาน น้ำตกแห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

19. สวนกุหลาบโรแมนติกชิดขอบฟ้า

สำหรับคู่รักที่อยากเติมความหวานให้ทริปม่อนแจ่ม ต้องแวะที่สวนกุหลาบโรแมนติกชิดขอบฟ้า ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านบวกเต๋ย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สวนแห่งนี้เป็นแปลงกุหลาบขั้นบันไดที่ปลูกลดหลั่นตามไหล่เขา ไฮไลต์คือกุหลาบมากถึง 7 สี ที่จะบานสะพรั่งรับหมอกในยามเช้า ทั้งสีชมพู สีขาว สีแดง สีม่วง สีส้ม และสีเฉดพาสเทลอื่น ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม: สวนแห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น เช่น ช่วงปลายฝนต้นหนาวปี 2568 เปิดระหว่างวันที่ 13-30 กันยายน 2568 ส่วนช่วงหน้าหนาวต้องคอยอัปเดตกับทางสวนอีกครั้ง

20. ไร่ดอกลมหนาว

ทุ่งดอกไม้ไร่ดอกลมหนาว ม่อนแจ่ม เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ปลูกแซมกัน ทั้งทุ่งดอกเวอร์บีน่าสีม่วงละมุน ดอกคอสมอสสีชมพูและขาว ดอกหงอนไก่สีแดงสด ไปจนถึงดอกกระดาษหลากสีสัน 

รอบ ๆ ยังมีมุมให้เดินเล่นและถ่ายภาพอีกมากมาย ทั้งทุ่งดอกบัวดินสีชมพูอ่อน แปลงกะหล่ำปลีขั้นบันได และแปลงผักอินทรีย์ ที่ปลูกลดหลั่นตามไหล่เขา เหมาะกับทั้งคู่รัก เพื่อน หรือครอบครัวที่อยากเก็บภาพท่ามกลางขุนเขาที่โอบล้อมม่อนแจ่ม โดยมีค่าเข้าชมเพียงคนละ 40 บาท

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ คือ ช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบาย หมอกลอยคลอระหว่างหุบเขา และเป็นช่วงที่ดอกไม้เมืองหนาวเบ่งบานเต็มที่ ทั้งนี้ม่อนแจ่มสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์ต่างกันออกไป

• ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์): เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็นสบายที่สุด ดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง วิวภูเขาสวย เช่น สวนดอกไม้ป้างฮวา ยิ่งยงสวนดอกไม้ และทุ่งดอกเก๊กฮวย สวนนายพล และมีโอกาสที่จะพบทะเลหมอก
• ฤดูร้อน (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม): เหมาะกับกิจกรรมคลายร้อน เช่น เล่นน้ำตกแม่สาน้อย ชมน้ำตกใกล้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ หรือไปนั่งคาเฟชมวิว
• ฤดูฝน (เดือนมิถุนายน-ตุลาคม): เป็นช่วงที่ธรรมชาติสดชื่นที่สุด เหมาะกับการชมหมอกฝน เดินป่าเบา ๆ แต่ควรเตรียมเสื้อกันฝนและระวังเส้นทางลื่นด้วย

รวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ปักหมุดพิกัดโรแมนติกแห่งธรรมชาติของเชียงใหม่เพิ่มเติม ได้ที่นี่

• ที่เที่ยวดอยเชียงใหม่ สูดอากาศดี ๆ รับพลังบวก ให้ใจฟู
• ที่เที่ยวดอยอินทนนท์ ยอดเขาสูงสุดในไทย เช็กอินทุกจุดไฮไลต์
• คู่มือเที่ยวฉบับสายมูที่พระธาตุดอยสุเทพ วัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
• คู่มือเที่ยวแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ ชมความโรแมนติกแห่งธรรมชาติ

บินไปกับ Bangkok Airways สัมผัสสีสันแห่งธรรมชาติบนม่อนแจ่ม เชียงใหม่

เติมแรงบันดาลใจด้วยสีสันแห่งธรรมชาติที่ ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางสะดวกด้วยเที่ยวบินตรงสู่เชียงใหม่ โดยสายการบิน Bangkok Airways ที่พร้อมดูแลทุกท่าน ด้วยบริการครบวงจร เพื่อยกระดับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนตั้งแต่การเดินทาง

• บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
• น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
• การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
• บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน