Bangkok Airways สรุปให้
- ปาย จุดหมายปลายทางที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาของแม่ฮ่องสอน เมืองที่อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ และชุมชนที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่น
- นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ แล้ว ปายก็ยังมีกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติสนุก ๆ ให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งล่องแก่งผจญภัย เดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติ แช่น้ำร้อนผ่อนคลาย และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมความเป็นสิริมงคล
ปาย อำเภอเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขาของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติของ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ และชุมชนที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ Bangkok Airways ขอแจกพิกัด 15 ที่เที่ยวปาย ให้ทุกคนเตรียมเก็บกระเป๋าไปเที่ยวสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบใกล้ชิดธรรมชาติด้วยตัวเอง
มนต์เสน่ห์ ‘ปาย’ ที่สุดของบรรยากาศโรแมนติก

“ลำปายสายธาร นมัสการหลวงพ่ออุ่นเมือง ลือเลื่องกระเทียมพันธุ์ดี ป่าเขียวขจีรอบทิศ วิถีชีวิตสงบร่มเย็น”
คำขวัญประจำอำเภอที่บอกเล่ามนต์เสน่ห์ของปายได้อย่างลึกซึ้ง โดยถ่ายทอดภาพของดินแดนกลางขุนเขาอันเขียวชอุ่ม ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงามและวิถีชีวิตอันเรียบง่าย สะท้อนถึงเสน่ห์ที่รอให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส ทั้งบ่อน้ำพุร้อน ถ้ำและน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา ฟาร์มออร์แกนิก แคมป์ช้าง แหล่งประวัติศาสตร์ ศาสนสถาน รวมถึงชุมชนพหุวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
ปายจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบโลคัลและสโลว์ไลฟ์ พักกายและใจจากเมืองใหญ่ มาสัมผัสกับความโรแมนติกของธรรมชาติและวิถีชีวิตเรียบง่ายของผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ ซึ่งมีความน่ารัก อบอุ่น พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนแบบเป็นกันเอง ทำให้นักท่องเที่ยวตกหลุมรักทิวทัศน์และหลงใหลในเสน่ห์ของชุมชนแห่งนี้
ชี้พิกัด 15 ที่เที่ยวปาย รับสัมผัสโอบกอดจากธรรมชาติ
1. หมู่บ้านสันติชล

บ้านสันติชล ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอปายประมาณ 4.5 กิโลเมตร หมู่บ้านชาวจีนฮ่อที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดดเด่นด้วยวัฒนธรรมและการตกแต่งสถานที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์จีนยูนนานดั้งเดิม บ้านดินสีส้ม หลังคามุงด้วยหญ้าคา ตามเส้นทางประดับโคมไฟจีนทั่วทั้งหมู่บ้าน ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือ การแต่งชุดจีนโบราณเก็บภาพความประทับใจตามจุดต่าง ๆ อาทิ ทางเดินกำแพงเมืองจีนจำลอง สะพานกลางสระน้ำ และศาลาสไตล์จีน ไม่ว่าจะถ่ายจุดไหนก็ได้รูปสวย ๆ
นอกจากนี้ที่บ้านสันติชลยังมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งขี่ม้าแคระชมหมู่บ้าน โล้ชิงช้าแบบชาวเขา ชิมเมนูเด็ดอย่าง ขาหมูยูนนานและหมั่นโถว หรือเพลิดเพลินกับการศึกษาวิถีชีวิตภายในศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนานบ้านสันติชล พร้อมเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง เช่น รองเท้า เสื้อผ้า ชา ผลไม้ดองและอบแห้ง กลับไปเก็บเป็นของที่ระลึกหรือมอบของฝากให้คนพิเศษกัน
เวลาเปิด-ปิด: 07.00-21.00 น.
2. ทะเลหมอกหยุนไหล

ทะเลหมอกหยุนไหล ตั้งอยู่บนเนินเขาห่างจากหมู่บ้านสันติชลเพียง 1.6 กิโลเมตร เป็นจุดชมทะเลหมอกและแสงอรุณรุ่งที่ดีที่สุดของปาย จากระเบียงชมวิวสามารถมองเห็นม่านหมอกหนาปกคลุมเมืองปายท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่แบบ 360 องศา หากแวะมาเช็กอินในช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างตุลาคมถึงมกราคม จะเป็นช่วงเวลาที่สัมผัสลมหนาวและความงดงามของทะเลหมอกได้โรแมนติกที่สุด
หนึ่งในไฮไลต์ที่กลุ่มคู่รักไม่ควรพลาดคือ กิจกรรมคล้องกุญแจคู่รักและแขวนป้ายบอกรักที่ “จุดป้าย 100 สถานที่บอกรัก 20 สถานที่ขอแต่งงาน” เพื่อเป็นพยานรักบนต้นสนมงคล นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถลิ้มลองหมั่นโถว ซึ่งเป็นของอร่อยขึ้นชื่อของที่นี่ พลางจิบชาอุ่น ๆ ชมวิวตรงระเบียงแบบฟิน ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 05.30-20.00 น.
3. ดอยขุนแม่ยะ

ชมพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งบนดอยขุนแม่ยะ บนความสูงกว่า 2,020 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล หนึ่งในดอยสุดโรแมนติกที่ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อระหว่างอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
เสน่ห์ของดอยขุนแม่ยะจะสามารถพบเห็นได้ในเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งเป็นเวลาที่ผืนป่าเขียวขจีจะถูกแต่งแต้มเป็นพื้นที่สีชมพูสะท้อนความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย กว่า 500 ต้น ไฮไลต์พิเศษสำหรับสายแคมป์คือ ที่นี่มีจุดกางเต็นท์ให้นอนชิล ๆ รับลมหนาวท่ามกลางบรรยากาศสุดเอกซ์คลูซีฟที่จะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-18.00 น.
4. ดอยธง

ดอยธง ยอดดอยที่มีจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเมืองปาย ด้วยความสูงถึง 1,895 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพแบบ 360 องศา ตั้งแต่อำเภอปายและอำเภอปางมะผ้าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยาวไปถึงดอยหลวงและยอดดอยอินทนนท์ของจังหวัดเชียงใหม่
หากเดินทางขึ้นดอยธงในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ อาจโชคดีได้สัมผัสลมหนาว อุณหภูมิต่ำสุดถึง 0-2 องศาเซลเซียส และชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกแบบโรแมนติก
อีกหนึ่งในไฮไลต์พิเศษของที่นี่ คือ เจดีย์บนยอดดอยซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน โดยเปิดให้ผู้มาเยือนได้กราบสักการะเสริมสิริมงคล และเก็บภาพสวย ๆ เป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งเคยเดินทางขึ้นมาถึงยอดดอยธงท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และเงียบสงบ

5. สะพานบุญโขกู้โส่

สะพานบุญโขกู้โส่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านแพมบกในอำเภอปาย เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวผ่านทุ่งนาประมาณ 815 เมตร เชื่อมระหว่างหมู่บ้านแพมบกกับสำนักสงฆ์ห้วยคายคีรีมฤคทายวัน ระหว่างเดินบนสะพานสามารถชมทัศนียภาพของท้องทุ่งนาได้แบบเต็มอิ่ม ซึ่งจะให้บรรยากาศที่แตกต่างตามแต่ละฤดูกาล โดยในช่วงฤดร้อนและฤดูฝนจะได้สัมผัสกับท้องทุ่งเขียวขจี แต่หากเดินทางมาในช่วงฤดูหนาวข้าวจะเริ่มออกรวงและเปลี่ยนท้องทุ่งเป็นสีเหลืองทองอร่าม
สำหรับคนรักการเที่ยวแบบโลคัล สามารถเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่และร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น อาทิ การหีบอ้อยเพื่อทำน้ำตาล และการตำข้าว พร้อมซื้อน้ำพริกถั่วเน่า ของอร่อยประจำถิ่นมาลิ้มลอง คลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือกินคู่กับผักก็อร่อยอย่าบอกใคร
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-18.00 น.
6. บ่อน้ำพุร้อนไทรงาม

แช่น้ำอุ่นสบาย ๆ ผ่อนคลายกายและใจ ที่บ่อน้ำพุร้อนไทรงาม หรือที่เรียกว่าโป่งน้ำร้อนไทรงาม บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านแม่ฮี้ อำเภอปาย โดดเด่นด้วยน้ำใสสะท้อนความเขียวขจีของธรรมชาติ จนมองเห็นเป็นสีมรกต
อุณหภูมิของน้ำประมาณ 36-38 องศาเซลเซียส อยู่ในระดับที่อุ่นกำลังดี สามารถเล่นน้ำเพลิน ๆ หรือนอนแช่น้ำอุ่น เพื่อปรับสมดุลการไหลเวียนของโลหิต เสริมความผ่อนคลายจากภายในสู่ภายนอก ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น ใครที่กำลังรู้สึกเหนื่อยล้า อย่าลืมแวะมาลองธรรมชาติบำบัด ณ ที่แห่งนี้
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-17.00 น.
7. ปายแคนยอน

จุดชมวิวสุด Unseen ที่กองแลน หรือที่เรียกว่า “ปายแคนยอน” ภูเขาหินแบ่งชั้นที่ถูกกัดเซาะตามธรรมชาติจนเกิดเป็นแนวสันเขาแคบ ๆ ลดหลั่นกันไป รอบด้านรายล้อมด้วยป่าเต็งรังผสมป่าสนเสริมบรรยากาศให้สวยงาม เส้นทางเดินบางช่วงแคบและมีเหวลึกขนาบข้าง เพิ่มความท้าทายและเร้าใจให้กับผู้ที่รักการผจญภัย
ปายแคนยอนสามารถขึ้นได้จากสองเส้นทางหลัก คือทางฝั่งบ้านสบแพม ซึ่งอยู่ในเขตของกรมป่าไม้ และฝั่งบ้านร้องแหย่ง ซึ่งทั้งสองเส้นทางนำไปสู่จุดชมวิวที่ลึกที่สุดและเป็นไฮไลต์สำคัญของกองแลน จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวสุดอลังการของชุมชนเมืองปายได้แบบพาโนรามา ยิ่งมาในช่วงฤดูหนาว ชมพระอาทิตย์ทอแสงยามเช้ากลางสายหมอก สลับกับภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็น กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่ครองใจสายแอดเวนเจอร์
เวลาเปิด-ปิด: 06:00-19:00 น.
8. วัดพระธาตุแม่เย็น

สักการะพระองค์ใหญ่ พร้อมชมวิวเมืองปายสวย ๆ ที่วัดพระธาตุแม่เย็น วัดเก่าแก่บนเนินเขาทางทิศตะวันออกของอำเภอปาย ห่างจากตัวเมืองแค่ประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นี้โดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมล้านนา-พม่าโบราณ และเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธโลกุตระมหามุนี” พระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวองค์ใหญ่บนยอดเขา โดยต้องเดินขึ้นบันไดพญานาคกว่า 300 ขั้น เพื่อกราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้สำเร็จดั่งใจหวัง
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ การชมแสงอาทิตย์ยามเย็นพาดผ่านเมืองปายให้บรรยากาศสุดโรแมนติก โดยมีดอยจิกจ้องเป็นฉากหลังสุดตระการตา สูดอากาศดี ๆ แล้วปล่อยใจให้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและความศรัทธา

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่า สามารถเก็บแลนด์มาร์กต่อได้ที่น้ำตกแม่เย็น น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในปาย โดยต้องเดินเท้าประมาณ 12 กิโลเมตร แต่ความงดงามของจุดหมายปลายทางที่รออยู่ คุ้มค่าความเหนื่อยอย่างแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด: 06.00-18:00 น.
9. วัดทรายขาว

วัดทรายขาว ตั้งอยู่ในตำบลแม่ฮี้ของอำเภอปาย วัดเก่าแก่ของชาวพม่าและเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสำคัญ อาทิ “พระสิงห์รุ่น 3” และ “สมเด็จพระมหาสมณโคดม” องค์ใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ตั้งกลางแจ้งคู่กับพระเจดีย์องค์สีขาว ไฮไลต์พิเศษอยู่ที่ ทุกต้นปีทางวัดจะประกอบพิธีสืบชะตาหลวง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญต่อชะตา หรือเสริมชีวิตให้ร่มเย็นเป็นสุข
สำหรับนักท่องเที่ยวสายปั่น สามารถเพลิดเพลินกับเส้นทางปั่นจักรยานที่เรียกว่า เส้นทาง 4020 แม่ฮี้-วัดทรายขาว ระยะทางไปกลับกว่า 8 กิโลเมตร เริ่มจากโรงแรมเมดิโอ ลัดเลาะตามเส้นทางชมวิถีชีวิตของผู้คนและความงามแห่งธรรมชาติตลอดสองข้างทาง ผ่านท้องทุ่งนาไปจนถึงหน้าวัดทรายขาว ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของคนรักการปั่นจักรยาน
เวลาเปิด-ปิด: 06.00-18:00 น.
10. สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย

เช็กอินแลนด์มาร์กในตำนานที่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ตั้งอยู่ที่บ้านท่าปาย ตำบลแม่ฮี้ เป็นสะพานเหล็กสีเขียวเข้มเชื่อมต่อระหว่างถนนเชียงใหม่และเมืองปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สะท้อนเรื่องราวในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม
ด้วยความงามแบบวินเทจของตัวสะพานท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวปาย และยังเป็นอีกหนึ่งในจุดยอดนิยมที่คู่รักจับมือกันมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสไตล์วินเทจเก๋ ๆ อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: ตลอด 24 ชั่วโมง
11. Thom’s Elephant Camp

Thom’s Elephant Camp แคมป์ช้างเชิงอนุรักษ์แห่งแรกของเมืองปาย เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตช้างอย่างใกล้ชิด เพื่อเรียนรู้และใช้เวลาอยู่ร่วมกับช้าง โดยไม่มีการนั่งขี่ช้างบนสัปคับตามแบบที่เคยเห็นทั่วไป เพื่อให้ช้างรู้สึกสบายและสร้างสายสัมพันธ์ร่วมกับนักท่องเที่ยว โดยแคมป์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย เพียงประมาณ 2.4 กิโลเมตรเท่านั้น
นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของช้าง ไม่ว่าจะเป็นให้อาหารช้าง เดินป่าไปยังภูเขากับช้าง ลงเล่นน้ำกับช้างในแม่น้ำ ฝึกการสื่อสารกับช้าง หรือก้าวสู่ขั้นแอดวานซ์ด้วยการเรียนรู้หลักสูตรการเป็นควาญช้าง พร้อมกิจกรรมสุดชิล อาทิ ล่องแพไม้ไผ่ แช่น้ำแร่ร้อนและสปาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และศึกษาขั้นตอนการทำเกษตรอินทรีย์ ได้ลงมือทำและนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริง
เวลาเปิด-ปิด: 08:30–17:00 น.
12. Romance Farm & Cafe

Romance Farm & Cafe หรือ Another Story in Pai เป็นฟาร์ม คาเฟ่ และที่พักสไตล์คันทรีในเมืองปายที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100 ไร่ ภายในฟาร์มเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งทุ่งข้าวบาร์เลย์ ทุ่งกระเทียม ทุ่งนา สวนผลไม้ และแปลงผักปลอดสารพิษ ตกแต่งบรรยากาศเหมือนอยู่ในฟาร์มต่างประเทศ
เสน่ห์ของ Romance Farm & Cafe มีกิจกรรมเพลิดเพลินให้ทำ ทั้งขี่ม้า ให้อาหารแกะ อาหารกระต่าย ดื่มนมสดส่งตรงจากฟาร์มโคนม ชมการแสดงดนตรีสดบนลานกิจกรรม ขับขี่รถ ATV ตามเส้นทางรอบฟาร์ม นั่งอาบไอหมอกเหนือยอดเขา พร้อมเก็บภาพความประทับใจตามมุมต่าง ๆ อาทิ สะพานไม้กลางทุ่งดอกไม้ ชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่ และทุ่งนาสีเขียว พักอยู่นานแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อ
เวลาเปิด-ปิด: 09.00–18:00 น.
13. ถ้ำน้ำลอด

สถานศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด ตั้งอยู่ในอำเภอปางมะผ้า ซึ่งอยู่ระหว่างอำเภอปายกับอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโบราณคดีสุด Unseen ของปาย ภายใต้ความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปีเลยทีเดียว
ไฮไลต์ของถ้ำน้ำลอดคือ ลำห้วยภายในถ้ำที่มีชื่อว่า “น้ำลาง” ซึ่งไหลลอดผ่านภูเขาไปออกอีกเส้นทางหนึ่ง ทำให้ถ้ำแห่งนี้มีหินงอกหินย้อยที่สวยแปลกตา และเสน่ห์ของการผจญภัยของที่นี่ คือการนั่งแพไม้ไผ่ล่องไปตามลำห้วยในถ้ำ พร้อมผู้นำทางท้องถิ่น และต้องใช้แสงสว่างจากตะเกียงพายุเท่านั้น เพิ่มความตื่นเต้นและกลิ่นอายสำรวจธรรมชาติแบบดั้งเดิม
ภายในโพรงถ้ำถูกน้ำกัดเซาะมามากกว่าล้านปี จนเกิดเป็นห้องโถงใหญ่ที่มีความโดดเด่นต่างกันถึงสามห้อง ได้แก่ “ถ้ำเสาหินหลวง” มีเสาหินปูนขนาดใหญ่ที่เกิดจากหินงอกหินย้อย “ถ้ำตุ๊กตา” มีหินงอกเป็นปุ่มปมคล้ายตุ๊กตา ผนังถ้ำพบภาพเขียนของมนุษย์โบราณ และ “ถ้ำผีแมน” จุดที่พบโบราณวัตถุสำคัญ อาทิ ภาชนะดินเผา เครื่องมือหิน และ โลงผีแมน ซึ่งเป็นโลงศพของมนุษย์โบราณ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่สายแอดเวนเจอร์ควรมาเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเองสักครั้ง
เวลาเปิด-ปิด: 08.00–17:00 น.
14. ปางอุ๋ง

สถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวปายสำหรับสายแคมปิง คือ ปางอุ๋ง หรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรวมไทย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ซึ่งโอบล้อมด้วยป่าสนเขียวขจีและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ โดยมีทั้งจุดกางเต็นท์ริมทะเลสาบและบ้านพักให้เลือกตามความสะดวก
โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ บรรยากาศจะโรแมนติกเป็นพิเศษ เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาจะพบสายหมอกลอยต่ำแตะผิวน้ำของทะเลสาบ หากอยากสัมผัสหมอกแบบใกล้ชิด สามารถล่องแพไม้ลำน้อยกลางผืนน้ำชมวิวแบบ 360 องศา เมื่อถึงยามค่ำคืน นอนรับลมหนาว พร้อมชมทางช้างเผือกพาดผ่านและดวงดาวสดใสเต็มท้องฟ้า
เวลาเปิด-ปิด: 05.30-18.00 น.
15. บ้านรักไทย

บ้านรักไทย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปางอุ๋ง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ สุดน่ารักตั้งอยู่กลางหุบเขาที่มีความสูงกว่า 1,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นหมู่บ้านชาวจีนฮ่อที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย และยังคงรักษาวัฒนธรรมแบบจีนยูนนานไว้ ทั้งในเรื่องอาหาร การแต่งกาย และสถาปัตยกรรม
จุดเด่นของหมู่บ้าน คือ ทะเลสาบผืนกว้าง ใจกลางหมู่บ้าน ซึ่งถูกขนานนามว่า “เขื่อนในหมอก” เพราะในช่วงฤดูหนาว หมอกลอยตัวละเลียดเหนือผิวน้ำในยามเช้า ให้บรรยากาศอบอุ่น ละมุน และโรแมนติก จิบชาร้อน ๆ ชมวิวหมอก ความสุขเรียบง่ายที่ใครก็หลงรัก

ไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือ การล่องเรือไม้สไตล์จีนโบราณหลังคาโค้ง ตกแต่งด้วยโคมแดง ชมความโรแมนติก ความงดงาม และที่บ้านรักไทยยังมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งขี่ม้าหรือนั่งสามล้อชมหมู่บ้าน ชิมขาหมูยูนนานเนื้อนุ่มละลายในปาก สักการะเทพเจ้ามังกรและเจ้าแม่กวนอิมที่ศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน เสริมสิริมงคล และพกตะกร้าเก็บยอดใบชา พร้อมลิ้มลองชาอู่หลงอุ่น ๆ ละมุนปลายลิ้น ของเด็ดประจำบ้านรักไทย
เวลาเปิด-ปิด: 09.00–18:00 น.
เก็บกระเป๋าเที่ยวปายช่วงไหนฟินสุด

สภาพอากาศของปายเย็นสบายตลอดปี แต่ในบางพื้นที่อาจมีอากาศร้อนอบอ้าวช่วงในช่วงเดือนเมษายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 25.9-33.2 องศาเซลเซียส สามารถแบ่งระยะเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวปายออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
1. กลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม: ช่วงฤดูร้อน
ช่วงนี้ถือเป็นฤดูร้อนของปาย มีอากาศร้อนสุดในช่วงเดือนเมษายน โดยอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 36 องศาเซลเซียส อากาศแจ่มใส เหมาะกับการเที่ยวเชิงอนุรักษ์และทำกิจกรรม แช่น้ำคลายร้อนที่ลำธารหรือน้ำตก สำรวจถ้ำ ขับรถ ATV ลุยเส้นทางธรรมชาติ
2. กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม: ช่วงฤดูมรสุม
เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก อากาศชุ่มชื้นและเย็นลงเล็กน้อย โดยอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยประมาณ 32 องศาเซลเซียส ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพราะป่าจะเขียวขจีและอุดมสมบูรณ์
3. ช่วงกลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์: ช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด
ช่วงเวลานี้นับว่าเหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวเมืองปาย อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20.5 องศาเซลเซียส และในช่วงที่หนาวจัด อุณหภูมิบนยอดดอยอาจลดต่ำลงถึงเลขหลักเดียว สัมผัสบรรยากาศท่ามกลางสายหมอกสุดโรแมนติกของปาย พร้อมรับลมหนาวแบบฟิน ๆ
เปิดโลกการท่องเที่ยวภาคเหนือ ได้ที่นี่
- ที่เที่ยวลำปางยอดฮิต รวมจุดเช็กอินที่ห้ามพลาด
- ที่เที่ยวดอยเชียงใหม่ สูดอากาศดี ๆ รับพลังบวก ให้ใจฟู
- รวมวัดเชียงใหม่ แวะไหว้พระ ชมวัดสวย สายบุญไม่ควรพลาด
บินลัดฟ้าสัมผัสกลิ่นอายโรแมนติกที่ปาย กับ Bangkok Airways

มาสัมผัสความอบอุ่นที่ปาย เมืองเล็กบนขุนเขาของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กบรรยากาศสุดโรแมนติกแห่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และวิถีชีวิตเรียบง่ายของชุมชนพหุวัฒนธรรม ไปกับสายการบิน Bangkok Airways มีเที่ยวบินตรงสู่แม่ฮ่องสอน ที่พร้อมพาคุณออกเดินทางไปท่องเที่ยวปายแบบเต็มอิ่ม พร้อมด้วยประสบการณ์เหนือระดับตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน