Bangkok Airways สรุปให้
- ภูเก็ตได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร (Creative Cities of Gastronomy) เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558 จากอัตลักษณ์อาหารที่ผสานวัฒนธรรมการทานอาหารของคนหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย จีนแผ่นดินใหญ่โดยเฉพาะชาวฮกเกี้ยน แขกมลายู อินเดีย และเปอรานากัน จนกลายเป็นเมนูเฉพาะถิ่น
- อาหารภูเก็ตสะท้อนพหุวัฒนธรรม ผ่านเมนูเด่น เช่น หมี่ฮกเกี้ยน หมูฮ้อง ขนมจีนแกงปู และติ่มซำ กลายเป็นภาพรวมของเมืองที่ใช้อาหารเป็นภาษากลางเชื่อมผู้คนและวัฒนธรรมจากทั่วโลก
อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตแต่ละเมนูเต็มไปด้วยเรื่องราวทางวัฒนธรรม จนภูเก็ตได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารระดับโลก (Creative Cities of Gastronomy) Bangkok Airways ชวนคุณจดลิสต์ 15 อาหารภูเก็ตที่อร่อยจัดเต็มทุกคำ ครบทั้งจานหลักและของหวาน ฟินได้ครบทุกมื้อตลอดทริป
สัมผัสวัฒนธรรมการทานอาหารที่ภูเก็ต “เมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร” โดย UNESCO
ภูเก็ต นอกจากจะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความงดงามแห่งธรรมชาติจนได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ยังเป็นเมืองแห่งรสชาติที่สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนผ่านอาหารในทุกจาน ที่สะท้อนความหลากหลายของเชื้อชาติ ทั้งคนไทย ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะชาวฮกเกี้ยน แขกมลายู อินเดีย และเปอรานากัน จนได้รับการยอมรับให้เป็น Creative Cities of Gastronomy หรือเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร โดย UNESCO เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558
โดยจุดเด่นที่ทำให้ภูเก็ตได้รับเลือกให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารระดับโลก (UNESCO Creative Cities of Gastronomy) คือ
- ความหลากหลายทางวัฒนธรรมอาหาร: ผลลัพธ์ของพหุสังคม เกิดเป็นเมนูเฉพาะถิ่นที่รวมความเป็นไทย จีน และมลายูไว้ในจานเดียว
- อาหารคือปัจจัยหลักของทุกเทศกาลและพิธีกรรม: ทั้งงานมงคล งานประเพณี หรือชีวิตประจำวัน อาหารถือเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อและสายใยในครอบครัว
- อาหารท้องถิ่นที่หาทานไม่ได้จากที่อื่น: หลายเมนูเป็นสูตรดั้งเดิมของภูเก็ตแท้ ๆ ที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และยังคงรสชาติดั้งเดิมไว้จนถึงปัจจุบัน
- ความร่วมมือของทุกภาคส่วน: ชุมชน เชฟ ผู้ประกอบการ และภาครัฐ ร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาอาหารท้องถิ่นให้เกิดนวัตกรรมใหม่บนพื้นฐานของวิทยาการอาหาร
- วิถีชีวิต “กินดี อยู่ดี มีจิตงาม…ที่ภูเก็ต”: ภูเก็ตพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยผู้คนที่มีน้ำใจ อัธยาศัยดี อาหารอร่อย บรรยากาศอบอุ่น และภูมิทัศน์ที่งดงาม
15 เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวที่ภูเก็ต
1. ผัดหมี่ฮกเกี้ยน
ผัดหมี่ฮกเกี้ยน หนึ่งในอาหารพื้นเมืองของชาวภูเก็ต ที่สะท้อนอิทธิพลวัฒนธรรมจีนฮกเกี้ยนได้ชัดเจน ด้วยการใช้เส้นหมี่เหลืองเส้นใหญ่ เหนียวนุ่ม ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำสูตรเฉพาะจนได้สีเข้ม หอมกลิ่นกระทะแบบต้นตำรับ
โดยเอกลักษณ์ของผัดหมี่ฮกเกี้ยนภูเก็ตอยู่ที่เครื่องแน่น ทั้งหมู หมึก กุ้ง หรือ หอยติบ (หอยนางรมตัวเล็ก) พร้อมเติมความกลมกล่อมด้วยไข่และผักคะน้า เสิร์ฟคู่พริกน้ำส้มและหอมเจียว เมนูนี้สามารถพบได้ตั้งแต่ร้านอาหารท้องถิ่น ร้านสตรีตฟู้ด ไปจนถึงร้านเก่าแก่ในย่านเมืองเก่า เช่น
- หมี่ต้นโพธิ์ บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา มีทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง โดดเด่นด้วยรสชาติกลมกล่อมเคล้ากลิ่นกระทะคั่ว สูตรดั้งเดิมกว่า 70 ปี และได้รับรางวัล Michelin Guide ในส่วน Michelin Plate การันตีความอร่อยระดับสากล
- หมี่อ่าวเก ร้านในตำนานที่อยู่คู่เมืองภูเก็ตมากว่า 70 ปี ถ่ายทอดสูตรโบราณถึงรุ่นที่ 3 โดยใช้เตาถ่านแบบดั้งเดิม รสชาติเด็ดที่ถูกใจทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
- หมี่สะปำ คุณยายเจียร อีกหนึ่งร้านในตำนานความอร่อยที่ติด Michelin Guide ที่ผสานเอกลักษณ์ของหมี่ฮกเกี้ยนเข้ากับเรื่องราวย่านสะปำได้รสชาติและเครื่องแน่นจัดเต็ม
2. โอวต้าว
โอวต้าว อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านเนื้อสัมผัสและรสชาติ คล้ายหอยทอดผสมกับออส่วน นำมาผัดปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย และน้ำตาล จนได้รสชาติเข้มข้น จากนั้นโรยกากหมู กุ้งแห้ง และหอมแดงเจียว พร้อมห่อด้วยใบตอง เพื่อให้กลิ่นหอมกรุ่นและอุ่นพร้อมเสิร์ฟ
หากอยากลิ้มลองโอวต้าวรสชาติต้นตำรับ ร้านเหล่านี้คือหมุดหมายที่ไม่ควรพลาด
- โอวต้าวจี้เปี่ยน ร้านโอวต้าวเจ้าแรกและร้านดังระดับตำนานของภูเก็ต เปิดขายมากว่า 100 ปี ตั้งอยู่บริเวณพูนผล ซอย 7 หัวมุมตัดถนนตะกั่วป่า
- โอวต้าวบางเหนียว มีโอวต้าวให้เลือกหลายรูปแบบ ได้รับการการันตีความอร่อยจาก Michelin Guide ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน (พ.ศ. 2562–2564)
- โอวต้าวโก๊แดง (เยาว์เย็นตาโฟ) โดดเด่นด้วยการคั่วโอวต้าวในกระทะจนแห้ง หอมกลิ่นกระทะชัด รสเข้มข้น
3. หมูฮ้อง
อีกหนึ่งตำนานความอร่อยของภูเก็ตคือ หมูฮ้อง ที่ทำจากหมูสามชั้นหรือหมูเนื้อแดงติดมัน หั่นชิ้นพอดีคำ นำไปตุ๋นด้วยซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ และเครื่องเทศหอมอย่างกระเทียม พริกไทย รากผักชี และโป๊ยกั๊ก เคี่ยวด้วยไฟอ่อนเป็นเวลานานจนเนื้อหมูนุ่ม ผสมน้ำซอสข้นเข้มขลุกขลิก รสหวานเค็มกลมกล่อม หอมเครื่องเทศอย่างเป็นเอกลักษณ์
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากรู้จักภูเก็ตผ่านหมูฮ้อง ต้องไม่พลาด 3 ร้านดัง ได้แก่
- ร้านตู้กับข้าว เมนูหมูฮ้องร้านนี้คือที่สุด รสชาติเข้มข้น พร้อมบรรยากาศดีในอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีส
- ร้านน้ำย้อย รสชาติจัดจ้านแบบภูเก็ตแท้ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง ทั้งยังได้รับการแนะนำจาก Michelin Guide ชวนให้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างมาลิ้มลอง
- ร้านวันจันทร์ หมูฮ้องจานเด็ดที่ได้กลิ่นอายความเป็นเมือง ในร้านที่ตกแต่งแบบย้อนยุคสะท้อนความทรงจำของคุณย่า ทั้งอร่อยและคุ้มค่าจนได้รับรางวัลบิบ กูร์มองด์จาก Michelin
4. ขนมจีนแกงปู
ขนมจีนแกงปู อาหารจานเด็ดของชาวภูเก็ตที่ใช้ปูม้าสดหรือปูทะเล แกะเนื้อเป็นชิ้นโต นำไปเคี่ยวกับพริกแกงใต้สูตรเข้มข้น หอมกลิ่นสมุนไพร ผสานความมันจากกะทิ ยิ่งทานคู่กับไข่ต้มยางมะตูมและผักแนม เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วงอก และใบชะพลู ยิ่งอร่อย
5. หมี่หุ้นบ๊ะฉ่าง (หมี่หุ้นป้าฉ่าง)
หมี่หุ้นบ๊ะฉ่างหรือบี๊หุ้นปาฉ่าง เป็นอาหารพื้นเมืองภูเก็ตที่รสชาติอร่อยถึงขั้นต้องยกนิ้วให้ เมนูนี้ใช้หมี่หุ้นหรือเส้นหมี่ขาว นำไปผัดกับซีอิ๊วและเครื่องปรุงสูตรเฉพาะผัดจนเส้นนุ่ม ก่อนคลุกกับน้ำตาลได้รสกลมกล่อม จากนั้นโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวหอม ๆ และใบกุยช่ายหั่นเพิ่มกลิ่นและรสสัมผัสแบบดั้งเดิม เสิร์ฟคู่กับน้ำซุปกระดูกหมูน้ำใสช่วยตัดรสให้ลงตัว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสรสชาติหมี่หุ้นบ๊ะฉ่างแบบต้นตำรับ แนะนำร้านหมี่หุ้นป้าฉ่าง จี้ใจ – บางเหนียว ร้านดังของภูเก็ตที่สืบทอดสูตรดั้งเดิม และได้รับการยอมรับจาก Michelin Guide ต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน (พ.ศ. 2562-2564) ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวภูเก็ต
6. โลบะ
โลบะหรือหมูต้มพะโล้ ตามฉบับชาวฮกเกี้ยน ทำจากส่วนต่าง ๆ ของหมู ทั้งหู ลิ้น ไส้ ปอด หัวใจ รวมถึงเนื้อแดงจากหัวหมู ไปหมักกับเครื่องพะโล้ แล้วลวกในน้ำที่ผสมซีอิ๊วดำให้พอสุกหรือตุ๋นกับเครื่องยาจีน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มมะขามรสหวานอมเปรี้ยวทานเพลินเกินห้ามใจ
7. ปาวหล้าง
ปาวหล้าง ขนมพื้นเมืองชาวภูเก็ต มีลักษณะเป็นข้าวเหนียวปิ้งไส้มะพร้าวที่ผสมกุ้งแห้งป่นและพริกไทย ให้รสหวาน มัน เค็ม และเผ็ดอ่อน ๆ อย่างลงตัว
8. อาโป๊ง
อีกหนึ่งของว่างอันเลื่องชื่อที่ชาวภูเก็ตมักทานคู่กับกาแฟตอนเช้าคือ อาโป๊ง รสชาติ หวานมัน หอมกะทิ ทานง่าย ด้วยแป้งข้าวเจ้า ผสมกับไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่แดง) น้ำตาลทราย น้ำกะทิ น้ำ และยีสต์ก่อนเทลงบนกระทะเหล็กแบนร้อน ๆ แล้วอบด้วยฝาครอบจนแป้งสุกเป็นแผ่นบาง ขอบกรอบเล็กน้อย ตรงกลางนุ่ม หอมกลิ่นแป้งและควันกระทะ สามารถหยิบมาทานเล่นระหว่างวันได้
สำหรับใครที่อยากทานอาโป๊งรสชาติแบบต้นตำรับ ขอแนะนำ ขนมอาโป๊ง แม่สุนีย์ ร้านดังขวัญใจคนท้องถิ่น ตั้งอยู่บริเวณซอยสุ่นอุทิศ จังหวัดภูเก็ต ที่ยังคงทำอาโป๊งด้วยวิธีแบบดั้งเดิมทุกขั้นตอน ให้รสชาติหวานมัน หอมกะทิสุด ๆ และได้รับการยอมรับจาก Michelin Guide ในปีพ.ศ. 2565
9. เสี่ยวโบ๋ยหรือติ่มซำ
ติ่มซำหรือที่ชาวภูเก็ตเรียกกันว่าเสี่ยวโบ๋ย มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนมจีบ ฮะเก๋า หมูห่อสาหร่าย ซาลาเปา ของทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอด รวมถึงอาหารนึ่งอื่น ๆ โดยเฉพาะน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ซึ่งใส่เต้าเจี้ยวจีน (ตี่เจี่ยว) ให้รสกลมกล่อม หอมถั่ว ทานคู่กับติ่มซำร้อน ๆ ยิ่งถ้าได้จับคู่กับกาแฟโบราณหรือโกปี้แบบภูเก็ต บอกเลยว่าเป็นคอมบิเนชันอาหารเช้าที่สมบูรณ์แบบ
เสี่ยวโบ๋ยของภูเก็ตส่วนใหญ่สืบทอดสูตรความอร่อยกันมาหลายรุ่น บางร้านเปิดมานานกว่า 100 ปี และยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมไว้ อาทิ
- ร้านบุญรัตน์ติ่มซำ ร้านติ่มซำระดับตำนาน สูตรต้นตำรับจากจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2460 (ค.ศ. 1917) ปัจจุบันสืบทอดถึงรุ่นที่ 4 รสชาติคุ้นเคยแบบที่คนท้องถิ่นกันมาตั้งแต่เด็ก
- ร้านจ่วนเฮี้ยง อีกหนึ่งร้านเสี่ยวโบ๋ยชื่อดัง ขึ้นชื่อเรื่องซี่โครงน้ำแดงและติ่มซำที่มีให้เลือกหลากหลาย นึ่งสดจากซึ้ง พร้อมน้ำจิ้มสูตรทำเองรสเด็ด
- ร้านเก็ตโฮ่ ติ่มซำ ร้านเล็ก ๆ ย่านเก็ตโฮ่ ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ด้วยติ่มซำเนื้อแน่น นึ่งสดใหม่ทุกวัน พร้อมบริการชาหอมมะลิร้อน ๆ ฟรี เพิ่มความละมุนให้มื้อเช้า
10. น้ำชุบหยำหรือน้ำพริกกุ้งสด
หนึ่งในเมนูที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวภูเก็ต คือ น้ำชุบหยำ ที่บางคนเรียกกันว่าน้ำพริกโจรหรือน้ำพริกกุ้งสด มีลักษณะคล้ายน้ำพริกกะปิของภาคกลาง ให้รสชาติครบเครื่องจากกะปิ หอมแดง พริกสด มะนาว น้ำตาล และกุ้งสดต้มสุก ทานคู่กับผักสด โดยสามารถหาได้ทั่วไปตามร้านอาหารท้องถิ่นในภูเก็ต
11. โอ้เอ๋ว
โอ้เอ๋ว ขนมหวานประจำเมืองภูเก็ต ที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตคนภูเก็ตอย่างยาวนาน ทำจากวุ้นธรรมชาติที่สกัดจากเมล็ดโอ้เอ๋ว ไม่ใส่ผงวุ้น เนื้อวุ้นที่ได้จะใส นุ่ม จากนั้นนำมาราดด้วยน้ำเชื่อมหวานหอม เติมถั่วแดงต้มสุก และน้ำแข็งไส กลายเป็นของหวานที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้
12. ฮูแช้
เมนูเอาใจสายสุขภาพที่มาเที่ยวภูเก็ต ขอยกให้ฮูแช้ อาหารว่างพื้นเมืองแบบสลัดผักสไตล์ภูเก็ต โดยเอกลักษณ์ของฮูแช้อยู่ที่น้ำจิ้มพริกแห้ง 4 รส ครบทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ดอ่อน ๆ ราดลงบนผักและเครื่องต่าง ๆ ก่อนเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วยหมี่กรอบ
รวมถึงน้ำจิ้มสูตรเฉพาะหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่าน้ำช้อ ทำจากพริกแห้งใหญ่ กระเทียม เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำมะขามเปียก น้ำตาล และมะนาว นำมาปั่นให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟให้เดือดก่อนเติมถั่วลิสงคั่วและงาขาวคั่ว เพิ่มความหอมมัน จากนั้นราดลงบนจานฮูแช้และคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนรับประทาน
13. ขนมอังกู๊
ขนมอังกู๊หรือขนมเต่า เป็นขนมมงคลของชาวภูเก็ตเชื้อสายจีน มักใช้ในงานมงคลสำคัญ อาทิ งานไหว้เจ้า งานวันเกิด งานแต่งงาน หรือพิธีรับขวัญเด็กแรกเกิด ซึ่งอังกู๊มีลักษณะเป็นแป้งข้าวเหนียวนึ่ง สีแดงสด ซึ่งถือเป็นสีมงคลของชาวจีน ตัวแป้งมีความเหนียวนุ่ม ไส้ด้านในนิยมใช้ถั่วทอง (ถั่วเขียว) ปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือเล็กน้อย ก่อนนำไปกดพิมพ์เป็นลวดลายกระดองเต่า ซึ่งสื่อถึงความมั่นคง แข็งแรง และการมีอายุยืน
14. น้ำพริกกุ้งเสียบ
น้ำพริกกุ้งเสียบทำจาก กุ้งตากแห้ง นำมาคั่วให้หอม หรือย่างทั้งเปลือกแล้วรมควันด้วยกาบมะพร้าว เพื่อดึงกลิ่นหอมเฉพาะตัว จากนั้นนำไปตำรวมกับเครื่องเทศพื้นบ้านอย่างพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม และกะปิ ก่อนคลุกเคล้ากับกุ้งเสียบและปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และรสเปรี้ยวจากมะนาวหรือมะขามเปียก โดยรสชาติของน้ำพริกกุ้งเสียบจะมีความ เผ็ด เค็ม หอม และมัน ทานคู่ได้ทั้งผักสด ผักต้ม หรือข้าวสวยร้อน ๆ
สำหรับใครที่อยากซื้อน้ำพริกกุ้งเสียบเป็นของฝาก หรือเก็บกลับไปทานที่บ้าน สามารถหาซื้อได้ตามร้านรวมของฝาก อาทิ
- คุณแม่จู้ ภูเก็ต ร้านของฝากเจ้าแรกของเมืองภูเก็ต เปิดมากว่า 85 ปี น้ำพริกกุ้งเสียบรสเด็ด กุ้งกรอบรสจัดจ้าน มีให้เลือกทั้งรสดั้งเดิม แบบเข้มข้น และแบบตำสด
- หมี่สะปำ คุณยายเจียร นอกจากขึ้นชื่อเรื่องหมี่ฮกเกี้ยนแล้ว น้ำพริกกุ้งเสียบของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา ให้กุ้งแบบจัดเต็ม รสออกหวานนิด ๆ เหมาะกับคนที่ชอบน้ำพริกแบบติดหวาน
- พรทิพย์ ภูเก็ต ศูนย์รวมของฝากชื่อดังของภูเก็ต ที่มีสินค้าหลากหลาย รวมถึงน้ำพริกกุ้งเสียบรสกลมกล่อม ทานง่าย
15. เต้าส้อ
ขนมเต้าส้อ หรือที่เรียกกันว่าต่าวซ้อ เป็นขนมพื้นเมืองของภูเก็ตและพังงาจากชาวจีนฮกเกี้ยนมีลักษณะคล้ายขนมเปี๊ยะ นิยมรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟ มีให้เลือกทั้งไส้หวานและไส้เค็ม รสชาติกลมกล่อม
รวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับอาหารภูเก็ต
อาหารพื้นเมืองภูเก็ตเผ็ดไหม? ทานเผ็ดไม่ได้ เลือกเมนูไหนดี?
อาหารพื้นเมืองภูเก็ตมีรสจัดและเผ็ด เพราะเป็นอาหารใต้ แต่ก็มีหลายเมนูที่รสชาติไม่เผ็ดหรือเผ็ดน้อยให้คนที่ทานเผ็ดไม่ได้ สามารถเลือกทานได้ง่าย ๆ เช่น หมูฮ้อง หมี่ฮกเกี้ยน ติ่มซำ โรตีน้ำแกง ฮูแช้ หรือปอเปี๊ยะสด เหมาะกับคนทานเผ็ดไม่เก่ง
ขนมพื้นเมืองภูเก็ต มีอะไรน่าลองบ้าง?
ขนมพื้นเมืองของภูเก็ตที่มาเที่ยวแล้วต้องลอง ได้แก่ เต้าส้อ ที่มีไส้หวาน ไส้เค็ม โอ้เอ๋วที่เป็นของหวานเย็นชื่นใจ อาโป้งที่เป็นแป้งบางกรอบทานเพลิน รวมถึงบีโกหมอยเนื้อหนึบหนับที่ทานคู่กับไอศกรีม
ของกินภูเก็ตที่ควรซื้อเป็นของฝาก มีอะไรบ้าง?
ของกินขึ้นชื่อของภูเก็ตที่นิยมซื้อเป็นของฝากมีอาทิ เต้าส้อ ขนมพริก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ น้ำพริกกุ้งเสียบ แกงไตปลาน้ำแห้งหรือคั่วกลิ้ง และปลาฉิ้งฉ้างกรอบ สามารถเก็บได้นาน และสะท้อนเอกลักษณ์รสชาติอาหารใต้ของภูเก็ตได้ดี
ฟินกับอาหารแล้ว อย่าลืมเช็กลิสต์เที่ยวภูเก็ตครบทุกสไตล์เพิ่มเติม ได้ที่นี่
- รวมที่เที่ยวภูเก็ต ทริปเดียวคุ้ม ครบทุกกิจกรรม
- ที่เที่ยวเมืองเก่าภูเก็ต ตึกสวย ของกินอร่อย
- หาดภูเก็ตทะเลสวยที่ต้องไปสัมผัสเองสักครั้ง
- เกาะน่าเที่ยวภูเก็ต ธรรมชาติสวย ทะเลใส
- จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม เปิดโลกใต้ทะเลอันดามัน
สัมผัสความฟินจัดเต็มผ่านรสชาติอาหารและที่เที่ยวภูเก็ต ไปกับ Bangkok Airways
สัมผัสความประทับใจผ่านมื้ออาหารได้ตลอดทริปเที่ยวที่ ภูเก็ต เดินทางสะดวกด้วยเที่ยวบินตรงสู่ภูเก็ต โดยสายการบิน Bangkok Airways ด้วยบริการ Full-Service ที่ยกระดับการดูแลผู้โดยสารในทุกเส้นทาง พร้อมบริการครบครัน เพื่อสัมผัสเสน่ห์ได้ครบในทุกพิกัดและอาหารทุกจานของภูเก็ต
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน
