Bangkok Airways สรุปให้
- ที่เที่ยวภาคเหนือในปี 2025 มีไฮไลต์ใหม่ ๆ รอให้ค้นพบเก็บครบทุกฟีลตลอดทั้งปี อาทิ น้ำตกแม่ยะที่สวยตระการตา น้ำไหลตลอดปี บ้านยางชุมชน สงบเรียบง่าย และดอยช้างชมเมืองกาแฟและสัมผัสน้องแกะแบบใกล้ชิด
- จุดหมายที่สายล่าหมอกไม่ควรพลาดเมื่อเที่ยวภาคเหนือในหน้าหนาว อย่างบาหลู่โข่ ลานกางเต็นท์ที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่เหนือเมฆ ภูชี้ฟ้า-ภูชี้เดือนที่เปิดมุมมองให้ชมวิวสุดสายตา รวมถึงกลอเซโล หมู่บ้านกลางหุบเขาที่โอบด้วยทะเลหมอกสวยงาม
เที่ยวภาคเหนือในปี 2025 มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และไฮไลต์เด็ดที่รอให้ค้นพบ จะสายเดินศึกษาธรรมชาติ สายล่าทะเลหมอก คนรักวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือนักแชะภาพวิวทุ่งดอกไม้ Bangkok Airways รวมครบ 15 จุดหมายที่ไม่ควรพลาดให้ทุกคนตามเก็บเช็กอินได้ตลอดปี
ที่เที่ยวเชียงใหม่ สัมผัสเสน่ห์เมืองเหนือครบทุกมิติ
1. ดอยหลวงเชียงดาว – สันป่าเกี๊ยะ

ดอยหลวงเชียงดาว ด้วยความสูง 2,275 เมตรจากระดับน้ำทะเล หนึ่งในพื้นที่สงวนชีวมณฑลโลกแห่งใหม่ของไทยที่ UNESCO ประกาศรับรองเมื่อปี 2564 ไฮไลต์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาสัมผัส คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่พาเดินผ่านร่องรอยของโลกโบราณ ทั้งฟอสซิลหอยที่ซ่อนตัวอยู่ในหิน และความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งเหล่านกกว่า 300 ชนิดที่ส่งเสียงขับขานตามยอดไม้ รวมถึงสัตว์หายาก อย่างผีเสื้อสมิงเชียงดาว ไก่ฟ้าหางลายขวาง กวางผา และเลียงผา ที่ถือเป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย
จุดพักแรมยอดฮิตที่อ่างสลุง ที่นี่สามารถกางเต็นท์นอนชมทะเลดาว ก่อนจะตื่นเช้ามาสัมผัสแสงแรกของวันใหม่ พร้อมชมทะเลหมอกขาวโอบล้อม ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะช่วงพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ของทุกปีเท่านั้น

หากยังมีแรงใจและเวลา ลองออกเดินทางต่อราว 1 ชั่วโมง 40 นาที จะได้พบกับความงามที่สันป่าเกี๊ยะหรือสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ที่นี่เคยเป็นพื้นที่ทดลองภายใต้โครงการพัฒนาที่สูงไทย-ออสเตรเลีย จึงเต็มไปด้วยสีสันจากพืชเมืองหนาวในแปลงทดลอง ทั้งบ๊วย ท้อ และดอกป๊อบปี้ ที่พร้อมใจกันอวดโฉม โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ดอกไม้จะบานสะพรั่ง พร้อมชมวิวอลังการของดอยหลวงเชียงดาว ที่ทอดตัวตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
2. ชุมชนบ้านยาง – อ่างเก็บน้ำแม่มาว

สายโลคอลต้องไม่พลาดชุมชนบ้านยาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนเขา ใกล้ดอยอ่างขาง มีบ้านเรือนราว 300 หลังคาเรือน และส่วนใหญ่เป็นชาวจีนยูนนานที่สืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ นอกจากบรรยากาศเงียบสงบ ยังเต็มไปด้วยแหล่งเช็กอินที่หลากหลาย
- พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) ที่บอกเล่าเรื่องราวพระราชดำริและการพัฒนาชุมชน
- ศาลเจ้าแม่กวนอิมพระราชทาน ที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาประจำหมู่บ้าน
- ศาลเจ้าบ้าน สำหรับประกอบพิธีและสักการะเทพเจ้าเสริมสิริมงคล
- มัสยิดอัลเอี๊ยะห์ซานและคริสตจักรบ้านยาง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางศาสนาและการอยู่ร่วมกัน
ไฮไลต์ของที่นี่คือการได้ลิ้มรสผลไม้สด ๆ จากสวนตามฤดูกาล ทั้งส้มสายน้ำผึ้ง ลิ้นจี่ ลำไย อะโวคาโดที่หวานฉ่ำ และยังมีอาหารจีนยูนนานแท้ ๆ เช่น ซาลาเปาไส้มะพร้าว บะหมี่เส้นสด เกี๊ยวซ่าสุกี้ยูนนาน และที่พิเศษสุดคือ “เนื้อน้ำค้าง” หรือ “กังปา” ที่ต้องอาศัยลมเย็นและน้ำค้างของฤดูหนาวมาช่วยตากเนื้อ ทำให้นุ่มและหอมเป็นเอกลักษณ์

เมื่อมาถึงอำเภอฝาง อย่าลืมแวะพักใจที่อ่างเก็บน้ำแม่มาวหรือที่เรียกว่าเขื่อนบ้านลาน โลเคชันลับ ที่มีเพียงสายลมเย็น ๆ และผืนน้ำกว้างใหญ่ โอบล้อมด้วยขุนเขา โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ทุ่งหญ้าจะเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย จะนั่งเล่นเงียบ ๆ ฟังเสียงธรรมชาติ เดินถ่ายรูปชิล ๆ หรือมานั่งปิกนิกกับเพื่อนฝูงก็เหมาะมาก
3. น้ำตกแม่ยะ

น้ำตกแม่ยะ อีกหนึ่งความงดงามระดับตำนานของเมืองไทยที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ น้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลดหลั่นลงมาถึง 30 ชั้น รวมความสูงราว 260 เมตร จนได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศ
สำหรับสายแคมปิง ที่นี่ก็มีพื้นที่ให้กางเต็นท์พักแรม ท่ามกลางเสียงน้ำตกและอากาศบริสุทธิ์จากผืนป่าใหญ่ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวภาคเหนือที่มอบประสบการณ์ที่ทั้งผ่อนคลายและโรแมนติกในที่เดียว
4. บาหลู่โข่

สำหรับนักล่าทะเลหมอก บาหลู่โข่ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ คือหมุดหมายที่ต้องจดลงลิสต์ เพราะที่นี่คือลานกางเต็นท์แห่งใหม่ที่ให้บรรยากาศเหมือนใช้ชีวิตอยู่เหนือก้อนเมฆ ไฮไลต์คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่โอบล้อมรอบตัว
พอตกช่วงกลางคืน จะได้สัมผัสทะเลดาวและทางช้างเผือกที่พาดผ่านฟากฟ้า เหมาะกับสายแคมป์ที่ชอบนอนดูดาว และอย่าลืมรีบเคลียร์ตารางงาน เพราะบ่าหลู่โข่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียงช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปีเท่านั้น

ที่เที่ยวเชียงราย ดินแดนแห่งทะเลหมอกสุดโรแมนติก
5. ภูชี้ฟ้า – ภูชี้เดือน

ที่เที่ยวภาคเหนือยอดฮิตที่ติดอันดับเกือบทุกปี ต้องอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ด้วยเอกลักษณ์หน้าผาแหลมที่ยื่นออกไป ทำมุมประมาณ 45 องศา จึงเป็นที่มาของชื่อ ภูชี้ฟ้า ด้วยความสูง 1,628 เมตร จากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นวิวสุดขอบฟ้ากว่า 360 องศา โดยด้านล่างคือหมู่บ้านเชียงตอง ประเทศลาว
หากมาในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคม เส้นทางขึ้นเขาจะถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพูหวานจากดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย แต่ถ้ามาในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นสีขาวจากดอกเสี้ยวที่บานสะพรั่งตามเชิงเขา

ถ้าอยากได้มุมมองใหม่ ๆ จากภูชี้ฟ้าเพียง 8 กิโลเมตร จะพบกับภูชี้เดือน จุดอันซีนแห่งอำเภอเวียงแก่น ยอดที่สูงที่สุดแห่งเทือกเขาดอยผาหม่น บนความสูงกว่า 1,742 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไฮไลต์คือการชมทะเลหมอกหนา ที่ค่อย ๆ เปิดม่านให้พระอาทิตย์ยามเช้าทอแสง โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงหน้าหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เหมาะกับการมากางเต็นท์นอนสักคืน เพื่อรอชมภาพอลังการของทั้งภูชี้ฟ้าและภูชี้ดาวที่มีหมอกหนาโอบกอดรอบหุบเขา
6. ดอยช้าง

พิกัดยอดฮิตของสายสโลว์ไลฟ์ ต้องยกให้ดอยช้าง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย จุดสูงที่สุดอยู่ที่ผาหัวช้าง สูงราว 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มกาแฟดอยช้างสดจากไร่ รสเข้มกลมกล่อม และชิมแมคคาเดเมียกรอบอร่อย ของดีจากดอย อีกทั้งที่นี่ยังอบอวลด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านจุดเช็กอินทั้งอาข่า ลีซู (ลีซอ) และจีนยูนนาน
- ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (บ้านดอยช้าง) มีสวนดอกไม้สีสันสดใสให้เก็บภาพความประทับใจได้ตลอดปี
- Leehu Coffee Farm ฟาร์มสเตย์กลางไร่กาแฟ ที่ครบตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว โรงล้าง ลานตาก ไปจนถึงการคั่วกาแฟมาตรฐาน เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องกาแฟเต็มรูปแบบ
- อาข่า ฟาร์มวิลล์ (Akha FarmVille) ม้าหมุนวิวหลักล้านกลางดอย พร้อมฝูงแกะสุดน่ารักให้ได้สัมผัสแบบใกล้ชิด เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและคู่รักที่อยากได้ภาพโรแมนติก
7. น้ำตกห้วยแก้ว

น้ำตกห้วยแก้ว อำเภอเมืองเชียงราย น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีถึง 3 ชั้น โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวขจีและอากาศบริสุทธิ์ตลอดปี โดยแต่ละชั้นมีเสน่ห์ที่ต่างกัน ชั้นหนึ่งเป็นน้ำตกสูงราว 30 เมตร สามารถลงเล่นน้ำเย็น ๆ ได้อย่างปลอดภัย ส่วนชั้น 2 เดินต่ออีก 200 เมตรจะเจอน้ำตกสูงกว่า 40 เมตร ตกลงมาจากหน้าผา เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามและแหล่งเล่นน้ำยอดฮิต และชั้น 3 สูงเพียง 10 เมตร ให้บรรยากาศที่สงบ
อีกไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม อยู่ห่างจากน้ำตกห้วยแก้ว ไปเพียง 6.5 กิโลเมตร เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติชื่อดังของเชียงราย ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำบัดโรคและคลายอาการปวดเมื่อย เหมาะกับการปิดท้ายวันแบบสบาย ๆ
8. ผาฮี้

บนแนวชายแดนไทย-พม่า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาเขียวขจี ที่ดอยผาฮี้ ชุมชนชาวเขาเผ่าอาข่าที่มีอาชีพหลักคือการปลูกชาและกาแฟ ไฮไลต์คือการนั่งห้อยขาชมวิวภูเขาสุดกว้างใหญ่ พร้อมชิมกาแฟที่มีกลิ่นหอมเอกลักษณ์ ที่ร้านกาแฟดอยผาฮี้
ถ้าใครได้มาในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ยังมีโอกาสสัมผัสเทศกาลสำคัญของชาวอาข่า “ฉ่อลาบาลา” งานฉลองพืชผลที่เต็มไปด้วยสีสัน ไฮไลต์อยู่ที่ประเพณีโล้ชิงช้า (แย้ขู่อ่าเผ่ว) พิธีที่หนุ่มสาวอาข่ามาร่วมเล่นชิงช้าสูงกลางหมู่บ้าน และการละเล่นไม้หมุน (กะลาล่าเชอ) ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ลองสนุกไปพร้อมกับชาวบ้าน
ที่เที่ยวสุโขทัย สัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ที่เมืองมรดกโลก
9. เขาหลวง

เส้นทางสายผจญภัยสุดท้าทายของนักเดินป่าในเมืองไทย เขาหลวงสุโขทัย ยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดสุโขทัย ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ด้วยความสูงราว 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ไฮไลต์คือการพิชิต 4 ยอดเขา ได้แก่
- ยอดเขานารายณ์ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอันงดงาม
- ยอดเขาพระเจดีย์ จุดพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศเงียบสงบ
- ยอดเขาพระแม่ย่าและยอดเขาภูกา มุมสงบที่เหมาะกับการนั่งซึมซับธรรมชาติรอบตัว
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวภาคเหนือเพื่อพิชิตเขาหลวงคือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม เพราะป่าจะเขียวชอุ่ม และยังมีโอกาสได้สัมผัสทะเลหมอกที่ลอยคลอไปตามหุบเขา ศึกษาเส้นทางให้พร้อมลุยได้ที่ เปิดเส้นทางพิชิตเขาหลวงสุโขทัย 2568 ปีนเขารับไอหมอก
10. กิ่วตะเคียนงาม
กิ่วตะเคียนงาม จุดชมวิวของชุมชนปางตะเคียน จังหวัดสุโขทัย พิกัดลับที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่เต็มไปด้วยความงดงามแห่งธรรมชาติ การเดินทางก็มีสีสันไม่แพ้ปลายทาง เพราะจะได้นั่งอีแต๊กพาลัดเลาะไปตามเส้นทางกลางหุบเขาและสวนส้ม ใช้เวลาราว 20 นาที ก่อนจะถึงทางขึ้นดอย จากนั้นเดินสบาย ๆ เพียง 300 เมตร ก็ถึงยอดชมวิว
ไฮไลต์ของที่นี่คือการมานั่งรอชมแสงแรกของวันที่พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่ขึ้นเหนือสายหมอก หรือเลือกช่วงเย็นเพื่อดูแสงสุดท้ายสุดโรแมนติก ท่ามกลางทะเลหมอกที่โอบล้อมหุบเขา
11. บ้านนาต้นจั่น

หลบความเร่งรีบในเมืองใหญ่มาสัมผัสวิถีสโลว์ไลฟ์ที่บ้านนาต้นจั่น ชุมชนท่องเที่ยวสุดอบอุ่นของจังหวัดสุโขทัย ที่นี่มีโฮมสเตย์มากกว่า 30 หลัง พร้อมต้อนรับนักเดินทางด้วยบรรยากาศเงียบสงบท่ามกลางไร่นาและสวนผลไม้ตามฤดูกาล ไฮไลต์คือกิจกรรมที่ได้เรียนรู้วิถีชีวิตจริง ๆ ของชาวบ้านทั้งย้อมผ้าหมักโคลน ทำข้าวเปิ๊บ ทำตุ๊กตาบาร์โหน ปั่นจักรยานชมทุ่งนา และนั่งรถอีแต๊ก เพื่อซึมซับกับวิถีชนบท
ส่วนเรื่องอาหารที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ โดยเฉพาะข้าวเปิ๊บยายเครื่อง สูตรต้นตำรับที่ขึ้นชื่อ เส้นแป้งนุ่ม ๆ ผ่านการหม่า (การแช่ข้าวก่อนนึ่ง) ราว 2-3 วัน เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปกลมกล่อม ซึมซับรสหวานหอมเข้มข้น ทานคู่กับผักพื้นบ้าน จานเดียวก็อิ่มทั้งท้องและใจ

ใครที่มีโอกาสมาเยือนช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว อย่าพลาดทริปชมแสงแรกที่จุดชมวิวห้วยต้นไฮ เส้นทางเริ่มจากการนั่งรถออกจากหมู่บ้านราว 3.5 กิโลเมตร ต่อด้วยการเดินเท้าขึ้นเขาอีกประมาณ 850 เมตร เพื่อชมแสงอาทิตย์แรกของวันผ่านทิวเขาและผืนป่า พร้อมจิบกาแฟอุ่นๆ ในกระบอกไม้ไผ่กลางอากาศหนาวอย่างผ่อนคลาย
ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอกที่โอบกอดด้วยขุนเขา
12. กลอเซโล

ที่สุดของทะเลหมอกสุดตระการตาที่หมู่บ้านกลอเซโล จุดชมวิวบนเทือกเขาชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งแม่น้ำสาละวิน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นี่สามารถมองเห็นทะเลหมอกสองแผ่นดิน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกกางเต็นท์พักแรมได้กว่า 4 จุด ทั้งจุดชมวิวขุนกลอเซโล จุดชมวิวโรงเรียนบ้านกลอเซโล จุดชมวิวม่อนบลอโจ และจุดชมวิวม่อนภพฟ้า
13. ดอยปุยหลวง

อีกหนึ่งที่เที่ยวภาคเหนือที่ไม่ควรพลาด ดอยปุยหลวง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดหมายที่เก็บครบทุกบรรยากาศ ตั้งแต่การเรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านที่หมู่บ้านห้วยฮี้ ก่อนออกเดินป่าขึ้นสู่ยอดดอย ผ่านเส้นทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เหมาะกับนักเดินป่าทุกระดับ ตลอดทางเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากชนิด ดอกไม้ป่าสีสันสดใส และเสียงนกขับขานสร้างบรรยากาศสดชื่น
บนยอดดอยยังมีพื้นที่กางเต็นท์ให้นอนกลางธรรมชาติ พร้อมชมทั้งพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและ พระอาทิตย์ตกยามเย็นที่โอบล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน แบบ 360 องศา เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบทุกความประทับใจ
ที่เที่ยวลำปาง เมืองสงบที่เต็มไปด้วยเสน่ห์
14. เหมืองแม่เมาะ

เมื่อพูดถึงที่เที่ยวภาคเหนือ หนึ่งในชื่อที่ต้องนึกถึง คือ เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง แหล่งผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย และยังเป็นที่ตั้งของสวนเฉลิมพระเกียรติฯ (ทุ่งบัวตอง) กว้างกว่า 500 ไร่ ไฮไลต์คือดอกบัวตองสีเหลืองสดบานสะพรั่งตั้งแต่เดือนตุลาคมต่อเนื่องถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ให้ได้ชมความงดงามเพียงปีละครั้ง โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.
นอกจากทุ่งดอกไม้แล้ว ยังมีกิจกรรมให้เพลิดเพลินอีกมากมาย ทั้งสะพาน Sky Walk ชมทะเลหมอกโอบล้อมทุ่งบัวตอง ลานสไลเดอร์ สนุกไปกับการไถลแผ่นยางบนผืนหญ้าบริเวณสนามกอล์ฟหน้าศูนย์ชมวิวของสวนพฤกษชาติ หรือจะเลือกปั่นจักรยานชิล ๆ ชมสวนดอกไม้ ได้ครบทั้งความสวยงามและความสนุกตลอดวัน
ที่เที่ยวน่าน เมืองเล็กอบอุ่นกลางธรรมชาติอันสมบูรณ์
15. ดอยภูคา

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อุทยานฯ ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8 อำเภอของจังหวัดน่าน ทั้งปัว ท่าวังผา ทุ่งช้าง เชียงกลาง บ่อเกลือ สันติสุข เฉลิมพระเกียรติ และแม่จริม ด้วยความที่มีพื้นที่กว้างใหญ่นี้ทำให้ดอยภูคากลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติและความงามที่ไม่ซ้ำใคร
- ดอกชมพูภูคา พันธุ์ไม้หายากที่พบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย บานสะพรั่งสีชมพูอ่อนหวานริมทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) ในช่วงกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี
- ป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ ป่าปาล์มธรรมชาติดงดิบกว่า 3,000 ไร่ที่คงความสมบูรณ์เหมือนย้อนกลับไปในยุคโบราณ
- ดอยภูแว เส้นทางสำหรับสายเดินป่า ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อพิชิตยอดไปสัมผัสวิวทะเลหมอกและธรรมชาติบริสุทธิ์
- น้ำตกภูฟ้า น้ำตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 140 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้นถึง 12 ชั้น สวยงามและอลังการจนเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของอุทยาน
- ถ้ำผาฆ้อง ถ้ำหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา ที่จะเปิดให้เที่ยวชมได้เฉพาะฤดูแล้งเท่านั้น
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวภาคเหนือ

ภาคเหนือสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงยอดนิยมที่สุดคือ ปลายฝนต้นหนาว (เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) ที่สามารถชมทะเลหมอกและดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่งได้สวยงามที่สุด
- ระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ : ฤดูหนาว เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยวภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวจัด เหมาะกับการชมทะเลหมอก และดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง เช่น ดอยหลวงเชียงดาว บาหลู่โข่ ผาฮี้ และกลอเซโล หากโชคดีอาจได้พบปรากฏการณ์ “แม่คะนิ้ง” หรือ “เหมยขาบ” ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วง High Season นักท่องเที่ยวควรจองที่พักและการเดินทางล่วงหน้า
- ระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน : ฤดูฝน เป็นช่วงธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ป่าเขียวขจี เหมาะกับการชมไร่นาสีสดและเที่ยวสัมผัสวิถีท้องถิ่น เช่น บ้านนาต้นจั่น ชุมชนบ้านยาง และอ่างเก็บน้ำแม่มาว โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่อากาศสดชื่น และมีโอกาสเจอหมอกหนายามเช้าหลังฝนตก รวมถึงผู้คนไม่พลุกพล่าน ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศสงบกว่าฤดูอื่น ๆ
- ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม : ฤดูร้อน เป็นช่วงที่อากาศแห้งแล้งและร้อนที่สุด เหมาะกับกิจกรรมคลายร้อนอย่างล่องแพหรือเล่นน้ำตก เช่น น้ำตกแม่ยะ แต่ต้องระวังอากาศร้อนจัด รวมถึงปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่อาจกระทบต่อการท่องเที่ยว
รวมคำถาม-คำตอบพบบ่อยเกี่ยวกับที่เที่ยวภาคเหนือ

ไปเที่ยวภาคเหนือช่วงไหนมีโอกาสเห็นทะเลหมอกสวยที่สุด?
ช่วงที่เหมาะที่สุดในการชมทะเลหมอกภาคเหนือ คือ ปลายฝนถึงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ที่อากาศเย็นและความชื้นสูง ทำให้ได้เห็นหมอกหนา ๆ ในยามเช้า
ถ้าอยากเที่ยวเหนือช่วง High Season ต้องจองที่พักล่วงหน้านานแค่ไหน?
หากต้องการเที่ยวภาคเหนือช่วง High Season (พ.ย.-ม.ค.) ควรจองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 15-30 วัน เพื่อให้มีห้องว่างแน่นอน แต่ถ้าอยากได้ที่พักที่ตรงใจที่สุดและราคาย่อมเยากว่า แนะนำให้จองล่วงหน้า 3-6 เดือน
อาหารเหนือขึ้นชื่อที่ควรลองมีอะไรบ้าง?
อาหารเหนือขึ้นชื่อที่ควรลองมีทั้งเมนูหลักห้ามพลาดอย่าง กระบอง ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงฮังเล เมนูเครื่องเคียงและของทานเล่นที่นิยมซื้อเป็นของฝาก เช่น ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคบหมู รวมถึงเมนูเฉพาะถิ่นอย่าง ข้าวเปิ๊บ และเนื้อน้ำค้าง
อัปเดตที่เที่ยวภาคเหนือยอดฮิต อินเทรนด์ครบทุกพิกัดใหม่ ได้ที่นี่
- ที่เที่ยวดอยเชียงใหม่ สูดอากาศดี ๆ รับพลังบวก ให้ใจฟู
- ที่เที่ยวสุโขทัยที่ไม่ใช่วัด จัดเต็มครบทุกกิจกรรมดีต่อใจ
- ที่เที่ยวลำปางยอดฮิต รวมจุดเช็กอินที่ห้ามพลาด
- ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ให้ธรรมชาติฮีลใจท่ามกลางทะเลหมอก
บินสบายกับ Bangkok Airways พาเช็กอินครบทุกไฮไลต์ใหม่ของที่เที่ยวภาคเหนือ

สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ และความอบอุ่นของผู้คนในมุมใหม่ของที่เที่ยวภาคเหนือ เดินทางสะดวกด้วยเที่ยวบินตรงสู่เชียงใหม่ สุโขทัย โดยสายการบิน Bangkok Airways ที่มอบประสบการณ์เหนือระดับตลอดการเดินทาง ด้วยบริการครบวงจร เพื่อให้ทริปเที่ยวภาคเหนือเก็บได้ครบทุกไฮไลต์
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน