บานาฮิลล์ ดานัง
รู้สึกถึงลมหนาวที่กำลังคืบคลานเข้ามารึยัง? ถ้าเธอรู้สึกแล้ว ขอให้รู้เลยว่านั่นคือ สัญญาณแห่งการเริ่มต้นวางแผนทริปหน้าหนาวสิ้นปีนี้ ฮุลเล่ย์ ~ สำหรับใครที่เบื่อหน้าหนาวในประเทศไทยที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็หนาวอยู่แค่ไม่กี่วันเท่านั้น เราขอเสนอทริปหน้าหนาวสุดคูลให้เธอ ลองเดินทางไปดานัง เวียดนามกันดีมั้ยเอ่ย? ตามหา ที่เที่ยวดานัง ที่จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจ ลองนั่งกระเช้าลอยฟ้าทะลุหมอกไปเดินเที่ยวสะพานลอยฟ้าในอุ้งมือยักษ์กันที่ บานาฮิลล์ ดานัง โอ้ย อยากไปแล้วใช่มั้ยล่ะ งั้นก็ตามเราไปดูทริปหน้าหนาวนี้กันเลย!!
บานาฮิลล์ หุบเขาแห่งสวรรค์
บานาฮิลล์ อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 40 กิโลเมตร การเดินทางไปบานาฮิลล์ นั้นต้องใช้เวลานั่งรถประมาณ 40 – 50 นาที จะนั่งแท็กซี่ หรือจะเรียก Grab ก็สะดวกหมดเลย ด้วยบรรยากาศโอบล้อมไปด้วยขุนเขาบานาฮิลล์ ดานังจึงเป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่มีชื่อเสียงมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่เพียงแค่ธรรมชาติรอบเมืองจำลอง แต่ยังมีความสนุกสนานอีกมากมายให้เราได้พบเจอ มาดูกันเถอะว่า มาเที่ยวที่บานาฮิลล์แล้วเราต้องเช็กอินจุดไหนกันบ้าง
กระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก
สำหรับจุดเช็กอินแรกของเราคือ กระเช้าลอยฟ้า หรือ Cable Car ทำใจไว้ก่อนเลยนะว่าทุกคนจะต้องได้นั่งเพราะ การเดินทางในบานาฮิลล์ มีแค่วิธีนี้วิธีเดียว! ด้วยระยะทางกว่า 5,801 เมตร ทำให้กระเช้าลอยฟ้าที่นี่เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก แถมยังใช้เวลาเดินทางถึง 20 นาทีกว่าจะไปถึงด้วย โอ้โห ยาวจริงด้วยค่ะแม่!
ค่าตั๋วกระเช้าลอยฟ้าจะอยู่ที่ VND 700,000 หรือประมาณ 900 กว่าบาท แต่ตั๋วนี้ก็เหมารวมการนั่งกระเช้าทั้งขาไปขากลับ และยังรวมถึงความสนุกสนานจากเครื่องเล่นต่างๆ ภายในแล้วด้วยนะ แบบว่าคุ้มค่า คว้าเงินจ่ายรอบเดียวจบ!
ข้อแนะนำสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะไปในช่วงหน้าหนาวนี้ อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาว หรือแจ็กเกตอุ่นๆ ติดตัวไว้ด้วยล่ะ เพราะเมื่อเราเดินทางขึ้นไปเรื่อยๆ อุณหภูมิก็จะค่อยๆ ลดต่ำลง จนความเย็นสัมผัสกับผิวกายของเราอย่างจัง และสำหรับใครที่อยากจะดูวิวข้างทาง ก็จงหลีกเลี่ยงช่วงที่ฝนตกนะ เพราะหมอกจะหนาจนมองไม่เห็นอะไรเลยเนี่ยสิ ดูอากาศวันที่ฟ้าเปิด เราจะได้เห็นวิวข้างทาง พร้อมทั้งมองเห็นน้ำตกบนภูเขาอีกด้วย พูดแล้วก็อยากจะร้องว้าวสักหน่อย มันฟีลกู้ดจริงๆ เลยทุกคน!
สะพานลอยฟ้าในอุ้งมือยักษ์
จุดเช็กอินต่อมาของเราเป็นจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด นั่นคือ สะพานลอยฟ้า หรือ Golden Bridge ที่ขึ้นชื่อว่า ถ้าไม่ได้มาถ่ายรูปตรงนี้ก็เหมือนไม่ได้มาเที่ยว บานาฮิลล์ ดานัง เลยทีเดียว สะพานลอยฟ้าแห่งนี้เป็นสะพานโค้งที่มีความยาว 150 เมตร วางตัวอยู่เหนือยอดเขาที่ลาดชันในบานาฮิลล์ มีลักษณะเป็นสีทอง พร้อมด้วยหินเทียมรูปมือยักษ์ 2 มือคอยประคองสะพานเอาไว้
ใครที่อยากจะมาถ่ายรูปเช็กอินกับสะพานลอยฟ้าจะต้องนั่งกระเช้ามาอีกประมาณ 5 นาทีด้วยนะ เธอไม่สามารถเดินมาเองได้ จะเห็นได้เลยว่า การเดินทางในบานาฮิลล์ ส่วนใหญ่จะเป็นกระเช้าลอยฟ้าเกือบทั้งหมดเลยเนอะ เดิน นั่งกระเช้าลอยฟ้า เดิน และนั่งกระเช้าลอยฟ้า วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ เลยเนี่ย55555
สวนสนุกสุดมันส์
อีกหนึ่งจุดเช็กอินสุดแสนจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ Fantasy Park ขออวยสักเล็กน้อยเพื่อเรียกความอยากให้ทุกคน ที่นี่ถือเป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามเลยนะ!! แถมยังรวบรวมความสนุกมาแล้วให้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย อย่างโซน Jurassic Park สำหรับคุณหนูแฟนพันธ์แท้ไดโนเสาร์ Tower Drop สำหรับคนชอบความหวาดเสียว บ้านผีสิง สำหรับคนชอบเรื่องสยองขวัญ ไหนจะเกมส์ 4D 5D ให้ได้เลือกเล่นอีกมากมาย ถือเป็น ที่เที่ยวเวียดนาม ที่ไม่ควรพลาดเลยนะเนี่ย!
เครื่องเล่นที่พลาดไม่ได้เลยของสวนสนุกแห่งนี้ก็คือ Alpine Coaster ที่มีความสูงและยาวมาก พร้อมทั้งความเร็ว 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีบริการถ่ายภาพระหว่างที่เราเล่นเครื่องเล่นให้อีกนะ ใครที่วางแผนจะไปเล่นก็อย่าลืมเก็กหน้าให้กล้องด้วยล่ะ ภาพจะได้ออกมาเท่และคูลที่สุดไปเลย!
ในส่วนของค่าตั๋วเครื่องเล่นต่างๆ นั้นก็จะรวมอยู่ในราคาตั๋วตั้งแต่ตอนซื้อขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแล้ว ยกเว้นก็แต่ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง หรือเหล่าตู้คีบตุ๊กตา ที่เราจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเองนิดหน่อย สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวที่นี่ล่ะก็ สวนสนุกแห่งนี้จะเปิดทำการตั้งแต่ 7.00 – 22.00 น. เอาเป็นว่าเล่นกันจนอิ่มหนำสำราญได้เลยทั้งวัน ถ้าเธอไม่เหนื่อยเสียก่อนอ่ะนะ!
หมู่บ้านฝรั่งเศสที่ทุกคนหลงรัก
จุดเช็กอินนี้เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะนี่คือแลนด์มาร์คที่ทุกคนหลงรักมากที่สุด หมู่บ้านฝรั่งเศส หรือ Ba Na Hills French Village เป็นมุมที่ใครหลายคนอยากมาเซลฟี่ถ่ายรูปกันมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยขนาดของหมู่บ้านที่ไม่ได้ใหญ่มาก เราสามาถเดินเล่นได้ทั่วทั้งหมดในระยะเวลา 30 นาที – 1 ชม. เดินชมโบสถ์สวย สถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสยุคกลาง ทั้งร้านอาหารวิวดีงาม ร้านเบเกอรี่เก๋ๆ และโรงแรมที่สวยจนเกินไป มาสัมผัสบรรยากาศที่จะพาเธอย้อนเวลากลับไปในช่วงปีเก่าๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องไทม์แมชชีนเสียด้วยซ้ำ
ไฮไลท์ของหมู่บ้านที่เธอไม่ควรพลาดอีกที่หนึ่งก็คือ โบสถ์ Saint Denis ซึ่งจำลองแบบมาจากโบสถ์ Notre-Dame ที่ปารีส เป็น ที่เที่ยวดานัง ที่เราอยากจะให้เธอจดลิสท์ไว้เลยเดี๋ยวนี้! ด้วยความงามด้านในโบสถ์ที่ตกแต่งสวยงามด้วยกระเบื้องปูพื้นสีน้ำตาลตัดกับสีขาว พร้อมลานน้ำพุล้อมรอบด้วยแปลงดอกไม้หน้าโบสถ์ ที่นี่ช่างสวยทุกซอกทุกมุมเลยจริงๆ
ถ้าโชคดี เธอก็จะได้ชมการแสดงโชว์หน้าโบสถ์ฟรีด้วยนะ อื้อหือ เป็นความสนุกสนานที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเลย
วัดจีนสำหรับสายบุญ
จุดเช็กอินสุดท้ายของเรา เปลี่ยนจากสไตล์ฝรั่งเศสมาเป็นวัดจีนกันเสียหน่อย นั่นก็คือ วัดหลินอึ๋ง ซึ่งเราก็จะเรียกวัดที่นี่ว่า Ba Na Hills Linh Ung Pagoda แท้จริงแล้ว วัดหลินอึ๋ง นั้นมีถึง 3 ที่ในเมืองดานังเลยนะ และหนึ่งในนั้นก็ตั้งอยู่ที่ บานาฮิลล์ ดานัง นั่นเอง วัดหลินอึ๋งนั้นมีความสำคัญมาก เพราะถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวดานังเลยก็ว่าได้
วัดหลินอึ๋งที่ดานังมีองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ชัดเจนจากอ่าวดานังให้กราบไหว้ บน บานาฮิลล์ ดานัง เองก็มีพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่สูงกว่า 6 เมตร และเจดีย์สีขาวสูง 9 ชั้น ตั้งอยู่บนภูเขาให้เราได้กราบไหว้ขอพรเช่นกัน ด้วยอากาศบริสุทธิ์บนเทือกเขา รวมทั้งบรรยากาศที่สงบภายในวัดแบบนี้ เราจะรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายมากขึ้น ใครที่เป็นสายบุญก็อย่าลืมแวะมาที่นี่ด้วยนะ พลาดไม่ได้เลย
จะเที่ยว บานาฮิลล์ ดานัง ให้ครบคงต้องใช้เวลาสัก 2 คืน 3 วัน หาเวลามานอนพักที่โรงแรมบนบานาฮิลล์เลย และใช้เวลาช่วงเช้ากับช่วงเย็นตอนคนลงจากบานาฮิลล์ไปแล้ว ไปเดินเที่ยวในจุดที่เนื้อหอมมากๆ อย่างสะพานลอยฟ้า หรือเครื่องเล่นต่างๆ ในสวนสนุก เราก็จะได้รู้สึกว่าเมืองนี้เป็นของเราคนเดียว ถ่ายรูปก็จะสวยมากเพราะไม่ติดคนอื่นนั่นเอง
เอาเป็นว่าใครที่กำลังหา ที่เที่ยวเวียดนาม ใหม่ๆ ก็อย่าลืมนึกถึง บานาฮิลล์ ดานัง กันด้วยนะจ๊ะ วางแผนทริปหน้าหนาวของเธอเลยตั้งแต่วันนี้ จะชวนเพื่อน ชวนครอบครัว หรือคนรักไปเที่ยวด้วยกันก็ดี แล้วอย่าลืมจอง ตั๋วเครื่องบินไปดานัง กับ Bangkok Airways เรามีบริการสุดแสนประทับใจรอเธออยู่ รับรองได้เลยว่า การเดินทางไปบานาฮิลล์ ในครั้งนี้จะต้องประทับใจจนลืมไม่ลงเลยล่ะ!