เที่ยวเสียมเรียบ
ถ้าเทียบในกลุ่มประเทศ AEC แล้วล่ะก็ ประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความยิ่งใหญ่อลังการต้องยกให้กัมพูชาเลย โดยเฉพาะถ้าคุณได้ไป เที่ยวเสียมเรียบ คุณจะได้พบกับปราสาทหินขนาดใหญ่ที่มีการแกะสลักลวดลายอย่างละเอียดแบบทุกตารางนิ้ว และตำนานของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน คนที่ชอบเที่ยวลุยๆ ถ่ายรูปมีฉากสวยๆ อลังการ แต่ดูลึกลับ มีคอนทราสต์แสงและเงาหนักๆ จะต้องชอบแน่นอน อวยขนาดนี้เชื่อว่าหลายคนต้องอยากรู้ตำนานของเมืองแห่งนี้แล้วเป็นแน่ งั้นจะช้าอยู่ไย ไปกันเลย
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการทัวร์ปราสาทในเสียมเรียบนั้นต้องใช้ตั๋วเข้า โดยตั๋ว 1 ใบสามารถเข้าได้ทุกปราสาท มีทั้งตั๋วแบบ 1, 3, 7 วัน ซึ่งตั๋ว 3 และ 7 วัน ไม่จำเป็นต้องเที่ยวติดกันทุกวันก็ได้ ส่วนเรื่องการเดินทางนั้นก็ง่ายแสนง่าย ตุ๊กๆ เพียบ แถมสถานที่ท่องเที่ยวในเสียมเรียบก็ไม่ไกลกันมากอีกด้วย จองที่พักเสียมเรียบที่เดียวก็เที่ยวได้ทั่วเมืองแล้ว หรือใครติดหรูหน่อยโรงแรมเสียมเรียบก็มีนะจ๊ะ
ปราสาทหินนครวัด – นครวัด
มั่นใจได้เลยว่านักท่องเที่ยวร้อยทั้งร้อยที่มาเที่ยวเสียมเรียบต้องมานครวัด ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 20 นาทีเท่านั้น บางคนอาจรู้จักนครวัดก่อนจะรู้ว่ามันอยู่ในเสียมเรียบเสียด้วยซ้ำ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ยูเนสโกขึ้นทะเบียนไว้เมื่อ พ.ศ.2535 และมีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของอาณาจักรขแมร์ นครวัดนั้นเริ่มสร้างช่วง พ.ศ.1600-1700 สมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 บนพื้นที่ 820,000 ตารางเมตร ที่ถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำ
โดยสิ่งที่คุณจะต้องทึ่งเมื่อก้าวเข้ามาในนครวัดคือ ภาพของเมืองทั้งเมืองที่ถูกสร้างด้วยหินทราย 5-10 ล้านก้อน จากฝีมือของช้างกว่า 40,000 เชือก ในระยะเวลากว่า 100 ปี และร่องรอยการแกะสลักจากช่างแกะสลักกว่า 5,000 คนช่วยกันสลักลวดลายใช้เวลายาวนานถึง 40 ปี และมีปราสาทนครวัดอยู่ตรงกลางนครที่สูงถึง 60 เมตร
ภายในปราสาทเต็มไปด้วยรอยแกะสลักที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เรื่องราวจากวรรณคดีรามายณะ รูปการกวนเกษียรสมุทร และรูปนางอัปสรกว่า 1,796 นาง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ ก็จะมาเดินชมความเป็นเมืองโบราณ สถาปัตยกรรม และงานประติมากรรมที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว
ปราสาทบายน – นครธม
สำหรับคนที่มาเที่ยวเสียมเรียบ หลังจากเที่ยวนครวัดเสร็จแล้ว ก็ต้องไปต่อกันที่ นครธม เพราะห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร ทางทิศเหนือของนครวัด คุณจะพบกับนครอันเป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายของอาณาจักรขแมร์ต่อจากนครวัด นครธมถูกสร้างขึ้นช่วง พ.ศ.1724-1763 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่บนพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาด 9 ตารางกิโลเมตร โดยมีประตูทั้ง 4 ด้าน และมีปราสาทบายนอยู่ตรงกลาง เป็นศาสนสถานที่เป็นศูนย์กลางของนครแห่งนี้ และเป็นปราสาทของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้ที่คนในสมัยนั้นเชื่อกันว่าเป็นอวตารของพระพุทธเจ้าฝ่ายมหายานอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนปราสาทแห่งนี้ นิยมไปถ่ายรูปคู่กับรูปสลักหินหน้ายิ้มก้อนใหญ่ที่หันออกไป 4 ทิศ ตามยอดของปราสาท และสลักหินหน้ายิ้มนี้เองทำให้นักท่องเที่ยวลือกันว่ามีก้อนหนึ่งที่ยิ้มสวยที่สุด หากได้ไปขอแนะนำให้ท่านลองตามหาหินก้อนที่ว่านี้ดู สังเกตไม่ยาก เจอคนรุมถ่ายรูปหินก้อนไหนก็ก้อนนั้นแหละ และจุดไฮไลท์องปราสาทแห่งนี้คือ ลานพระเจ้าขี้เรื้อน หรือ Terrace of the Leper King โดยลานแห่งนี้ตั้งตามชื่อของรูปปั้นพระเจ้าขี้เรื้อน เชื่อกันว่าลานแห่งนี้ใช้เป็นศาลตัดสินโทษ และ ลานช้าง หรือ Terrace of the Elephants ที่ใช้สำหรับเป็นที่ให้กษัตริย์นั่งชมการสวนสนาม การซ้อมรบ และการเฉลิมฉลองในสมัยก่อน
ปราสาทบาปวน – นครธม
ปราสาทบาปวนนั้นอยู่ใกล้ๆ กันกับปราสาทบายน ตัวปราสาทบาปวนเป็นปราสาทขอม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 ช่วง พ.ศ.1550-1600 ถูกสร้างขึ้นเป็นรูปทรงพีระมิด คล้ายกับปราสาทพนมรุ้ง การออกแบบของปราสาทแห่งนี้ถือเป็นศิลปะแบบบาปวนขนานแท้ จนกระทั่งปราสาทบาปวนถูกรื้อเพื่อนำไปสร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่ด้านหลังปราสาท
แต่ด้วยความโชคดีที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้ช่วยบูรณะปราสาทแห่งนี้อีกครั้งใน พ.ศ.2538 จนเป็นกลายเป็นปราสาทที่สวยที่สุดในกลุ่มปราสาทนครวัด โดยในตัวปราสาทจะมีการสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ เช่น ภาพการล่าสัตว์ การต่อสู้ระหว่างนักรบ อยู่บริเวณโคปุระทางเข้าและระเบียงของตัวปราสาท แค่ได้ไปเดินดูความสวยงามของตัวปราสาทและเรื่องราวบนผนังก็เพลินแล้ว
ปราสาทตาพรหม
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ภาพยนตร์เรื่อง ทูมเรเดอร์ หรือ เจมส์บอนด์ ต้องรู้จักปราสาทตาพรหมแน่นอน เพราะมีฉากของปราสาทตาพรหมอยู่ในภาพยนตร์ 2 เรื่องนี้ และนี่อาจเป็นหนึ่งในจุดขายที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มให้ความสนใจมาเยือนปราสาทแห่งนี้เมื่อมาเที่ยวเสียมเรียบ ปราสาทตาพรหมถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ.1729 เป็นปราสาทหินที่อยู่ในยุคปลายของอาณาจักรขแมร์ และเป็นพุทธศาสนสถานที่มีความเจริญรุ่งเรื่องมากในสมัยนั้น
โดยปกติรัฐบาลกัมพูชาจะตัดต้นไม้ตามปราสาทต่างๆ ทิ้ง ด้วยกลัวว่าต้นไม้ขนาดใหญ่จะล้มมาทำให้ปราสาทเกิดความเสียหาย แต่กับปราสาทตาพรหมนั้นกลับปล่อยให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ไว้อยู่จนปัจจุบัน จนกลายเป็นเอกลักษณ์และจุดขายของปราสาทแห่งนี้ ที่มีต้นไม้ขึ้นมากลางปราสาท และแน่นอนว่านักท่องเที่ยวก็พากันให้ความสนใจต้นไม้เหล่านี้จนพากันแห่มาถ่ายรูปกันอยู่เรื่อยๆ
4 ปราสาทนี้เป็นเพียงแนวทางสำหรับการมาเที่ยวเสียมเรียบระยะสั้นเท่านั้น เพราะยังมีที่เที่ยวอื่นๆ อย่างปราสาทพนมบาเค็งที่ต้องขอแนะนำว่าควรค่าแก่การแวะ เพราะวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเสียมเรียบอยู่ที่นี่ แต่อาจจะต้องเร็วหน่อย เพราะที่นี่เปิดให้ขึ้นได้แค่ 300 คน ถ้าเต็มแล้วต้องรอข้างล่างจนกว่าจะมีคนลงมาคืนบัตร นอกจากนี้ยังมีปราสาทบันทายศรี ปราสาทบันทายสำเหร่ ปราสาทพระขรรค์ ปราสาทบันทายกเดย เรียกได้ว่าเต็มอิ่ม
ที่สำคัญเมื่อไปเที่ยวเสียมเรียบครบทุกปราสาทแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวแนะนำกันปากต่อปากคือ ก่อนกลับควรไปแวะที่พิพิธภัณฑ์ เป็นเหมือนบทสรุปของทุกสถานที่ ที่อธิบาย ความเป็นมา รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ไว้อย่างครบครัน จะไปก่อนหรือหลังไปทัวร์ปราสาทก็ได้แล้วแต่สะดวก แต่จะสะดวกมากๆ ถ้าบินไปกับบางกอกแอร์เวย์สเลาจ์นให้นั่งแถมบริการทุกระดับประทับใจอีกด้วย สามารถดูราคาที่ดีที่สุดจากกรุงเทพฯ ไปเสียมเรียบได้ที่ลิงก์ http://www.bangkokair.com/tha/bestfares/view/to:siem-reap