6 ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์ ค้นพบมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนหลากวัฒนธรรม เมืองสีสันแห่งเอเชีย
กัวลาลัมเปอร์ เป็นทั้งเมืองหลวงของมาเลเซียและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย ประชากรในเมืองมีความหลากหลายทั้งทางเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติมลายู เชื้อชาติจีน เชื้อชาติอินเดีย หรือเชื้อชาติไทย แต่ความแตกต่างเหล่านี้กลับนำมาซึ่งความโดดเด่นและอัตลักษณ์ของความเป็นชนเผ่าที่ไม่เหมือนใคร ทำให้กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองที่มีที่เที่ยวครอบคลุม ทั้งสไตล์จีน สไตล์แขก ตึกทรงโมเดิร์น หรือวัดไทยก็ยังมีเลย นอกจากนี้ การเดินทางในกัวลาลัมเปอร์ยังง่ายและสะดวก ถนนสภาพดีมาก เราสามารถพบเห็นป่าไม้สีเขียวกระจัดกระจายทั่วบริเวณเมืองหลวง ทำให้เมืองหลวงแห่งนี้แลดูไม่แออัดอย่างที่ควรจะเป็น
ด้วยความที่เป็นเมืองเจริญเติบโตเร็วที่สุดของประเทศ การได้มาเที่ยวกัวลาลัมเปอร์จึงเหมือนการได้มาเปิดโลก เปิดมุมมองเกี่ยวกับมาเลเซียในมุมใหม่ๆ มีห้างสรรพสินค้าให้ได้ช้อปตั้งแต่ราคาสุดคุ้มไปจนถึงแพงลิบ มีสถานที่อันเก่าแก่สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม ศิลปะและประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย แถมอาหารพื้นเมืองที่นี่ก็อร่อยมากๆเลยด้วย ผู้คนก็อัธยาศัยดี เป็นมิตร วันนี้เราจึงมาสำรวจกันสิว่ากัวลาลัมเปอร์มีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง ดินแดนหลากวัฒนธรรมแห่งนี้จะมีอะไรรอเราอยู่ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย!
1.ปูตราจายา | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
ปูตราจายา (Putrajaya) คือที่ที่เราไปมาแล้วประทับใจที่สุดในบรรดาแหล่งที่เที่ยวของกัวลาลัมเปอร์ ทำให้เราได้รู้จักมาเลเซียในมุมมองใหม่ๆมากขึ้น ปูตราจายาคือเมืองใหม่แห่งอนาคตสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศ เพื่อกระจายความเจริญออกจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ มีการจัดโซนอย่างเป็นระเบียบและมีสถานที่ราชการมากมาย ทันทีที่เรานั่งรถผ่านสะพานที่สวยเหมือนกับสะพานโกลเดนเกต เราก็เหมือนได้หลุดเข้าไปในเมืองสุดแสนทันสมัย ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมโดดเด่นจากทั่วทุมมุมโลกมารวมไว้ ถนนกว้างขวางที่เต็มไปด้วยแนวต้นไม้สองข้างทางตามคอนเซปต์ Garden City มีมัสยิดปุตรา (Putra Mosque) สีชมพูสวยเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบ
และถ้าไม่อยากพลาดช็อตที่สวยงามที่สุดของวัน เราแนะนำว่าให้ลองมาล่องเรือชมทะเลสาบช่วงเย็นๆ แล้วค่อยๆมองดูสิ่งปลูกสร้างสวยงามทันสมัยเหล่านี้ แล้วจะรู้เลยว่าเพื่อนบ้านเราเขาไปไกลมากแล้วจริงๆ
2.สุเหร่าสีน้ำเงิน | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) หรือชื่อเต็มๆคือ มัสยิดสุลต่าน ซาลาฮุดดีน อับดุล อาซิส ชาห์ เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่สวยงามที่สุดในมาเลเซียเลยก็ว่าได้ ความโอ่อ่าของสุเหร่าสีน้ำเงินนี้สามารถบอกได้เลยว่ามองเห็นได้แต่ไกล ตั้งแต่ก่อนที่เราจะนั่งรถมาถึงซะอีก
ลักษณะเด่นของที่นี่คือโดมสีน้ำเงินขาวขนาดใหญ่ตรงกลางขนาบข้างไปด้วยเสามินาเร็ต 4 เสา แลดูสูงชะลูดยิ่งกว่าตึกสูงบางแห่งก็ว่าได้ นอกจากนี้ ยังมีหอคอยสุเหร่าที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย
ในขณะที่เราเดินสำรวจรอบนอก สายตาเราก็ไปสะดุดเข้ากับการตกแต่งของสุเหร่าที่มีความประณีต มีห้องสวดมนต์ตกแต่งด้วยตัวอักษรอาหรับในศาสนาอิสลาม
เมื่อผ่านเข้ามาด้านใน ก็พบว่ามีการตกแต่งในแบบสถาปัตยกรรมมาเลย์พื้นเมือง ภายในสุเหร่ายังมีความสงบและร่มเย็น มีไกด์คอยให้ข้อมูลต่างๆอย่างครบถ้วน นอกจากจะได้มายลความงามแล้ว ยังได้ความรู้ดีๆกลับไปอีกเพียบ
3.เก็นติ้งไฮแลนด์ | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
นั่งรถออกมาจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์เพียงแค่ 1 ชั่วโมง เราก็ได้มาเจอกับแหล่งที่เที่ยวสุดฮิตตั้งอยู่บนยอดเขาสูงถึง 2,000 เมตร ได้มาสูดอากาศหนาวและเสพวิวสวยอลัง นั่นก็คือ เก็นติ้งไฮแลนด์ (Genting Highlands) มีเอกลักษณ์ของวัดจีนชินสวีด้วยรูปทรงเจดีย์ 9 ชั้น ทั้งยังเป็นแหล่งรวมความบันเทิงแบบครบครันทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก Outdoor Theme Park และ First World Indoor Theme Park มีโรงแรมหรู คาสิโน โรงภาพยนตร์ สนามกอล์ฟและอีกมากมาย
แต่ก่อนที่จะขึ้นไปนั้น เราจะต้องนั่งกระเช้า Awana Skyway ขึ้นไป จากจุดนี้เราจะได้มองเห็นป่าฝนด้านล่างที่มีอายุมากกว่า 130 ล้านปีเชียวนะ พอขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว เราก็สามารถเลือกไปตามจุดที่เราชอบได้เลย นอกจากสวนสนุกที่ใครก็ต้องแวะเล่น ก็อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปที่แลนด์มาร์กของเก็นติ้งไฮแลนด์ วัดชินสวี ซึ่งมีเจดีย์ 9 ชั้นแบบจีนตั้งอยู่โดดเด่น หรือใครจะมาเก็บสตรอเบอร์รี่ที่ Strawberry Leisure Farm ก็ทำได้เช่นกัน แล้วถ้ามีเวลาอีกหน่อยก็ลองแวะไปที่ฟาร์มกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซียด้วยนะ รับรองว่าจะเพลิดเพลินไปกับดอกกล้วยไม้สวยๆ ดีต่อใจมากๆเลย
4.อาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
มากันถึง ‘บิ๊กเบนแห่งมาเลเซีย’ กันบ้าง กับอาคารสุลต่านอับดุลซาหมัด (Sultan Abdul Samad Building) ตั้งอยู่หน้าจตุรัสเมอร์เดกาและสโมสรรอยัลสลังงอร์ เอกลักษณ์ของที่นี่คือลักษณะตัวอาคารที่ยาวและมีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ มีหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ จึงทำให้เป็นที่มาของฉายา ‘บิ๊กเบนแห่งมาเลเซีย’ นั่นเอง.
นอกจากนี้ อาคารสุลต่านอับดุลซาหมัดยังมีความเก่าแก่ เพราะสร้างมากว่า 100 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่มาเลเซียยังอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังคงสวยงามน่าดึงดูดใช่ไหมล่ะ
ปัจจุบันอาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศาลสูงและศาลฏีกา มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเพียบเลย และถ้าเราเดินมาอีกฝั่งก็จะเจอกับบริเวณจตุรัสเมอร์เดกา สามารถมาเดินเล่นพลางชมเสาธงที่สูงที่สุดในโลกได้อีกด้วย
5.ตลาดกลาง | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
มาถึงแหล่งช้อปปิ้งกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่ห้างหรูหราที่ไหน แต่เป็นตลาดกลาง (Central Market) ทาสีฟ้าโดดเด่นมองเห็นแต่ไกล เป็นแหล่งขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและมรดกตกทอดของชาวมาเลเซีย เพราะอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 แต่ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นตลาดสด แถมยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกของประเทศอีกด้วย
ด้วยโลเคชันตั้งอยู่กลางเมือง ใช้เวลาเดินมาจากถนนเปตาลิงเพียงแค่ไม่กี่นาที ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลกันเข้ามาหาซื้องานฝีมือ งานศิลปะ ชุดเคบาย่า ผ้าบาติก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมถึงของตกแต่งบ้าน นอกจากนี้ยังมีลานขายอาหาร เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ต่างๆ มีร้านอาหารนานาชาติภายในตลาดกลางอีกด้วย โดยบริเวณเวทีกลางแจ้งของตลาดจะมีศิลปะการแสดงและกิจกรรมทางวัฒนธรรมเป็นประจำ สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของเชื้อชาติในมาเลเซีย
6.ตึกแฝดเปโตรนาส | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ซะแล้วสำหรับตึกแฝดเปโตรนาส (Petronas Tower) สัญลักษณ์ของเมืองกัวลาลัมเปอร์และประเทศมาเลเซีย สิ่งปลูกสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความศิวิไลซ์ของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก สูงถึง 451.9 เมตร มีทั้งหมด 88 ชั้น สูงตระหง่านสะท้อนแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันและระยิบระยับด้วยแสงไฟประดับตกแต่งในตอนกลางคืน แล้วรู้หรือไม่ว่า จริงๆแล้วตึกเปโตรนาสนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเลขาคณิตของสถาปัตยกรรมอิสลาม
การมาเที่ยวตึกเปโตรนาส นอกจากจะได้มาชอปปิงในห้างสรรพสินค้าสุดหรูด้านล่างของตึกแล้ว ยังสามารถซื้อตั๋วขึ้นไปที่ชั้น 86 เพื่อชมวิวของเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้ ด้านล่างยังมีโชว์น้ำพุ แสง สี เสียงอันตระการตา มีสวนหย่อมไว้ให้ชาวเมืองได้มาจ็อกกิ้งหรือจะมาปั่นจักรยานก็ได้ตามอัธยาศัย
7.ถ้ำบาตู | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
อย่างที่เราได้เกริ่นไว้ตั้งแต่ตอนแรกว่า กัวลาลัมเปอร์ เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาก และ 1 ในสถานที่ทางศาสนาฮินดูที่โดดเด่นมากที่สุดคือ ถ้ำบาตู (Batu Caves) เพราะมีรูปปั้นเทพของศาสนาฮินดูอย่างพระขันธกุมารสีทองที่สูงถึง 42.7 เมตร ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่บริเวณปากทางเข้าถ้ำ มีฉากหลังของถ้ำขนาดมหึมาจำนวน 3 ถ้ำด้วยกัน
ซึ่งแต่ละถ้ำต่างก็ถูกใช้เป็นวัดและศาลฮินดู สำหรับโถงด้านบนนั้นเราสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวชมถ้ำได้แบบไม่ต้องเสียตังค์
แต่ถ้าหากเป็นถ้ำด้านหน้า อาจจะต้องเสียตังค์นิดหน่อย แต่ขอบอกว่าข้างในนี้มีรูปปั้นตามสถาปัตยกรรมแบบฮินดูสวยสะกดมากๆ รูปปั้นแต่ละแบบมีความอ่อนช้อยและวิจิตร แถมนักท่องเที่ยวหลายคนก็ไม่ค่อยทราบด้วยว่ายังมีสิ่งที่น่าสนใจในถ้ำด้านหน้ามากกว่าห้องโถงข้างบนเสียอีก ดังนั้น ถ้ามาถึงที่แล้วก็ยอมเสียตังค์แค่ไม่กี่ริงกิตเพื่อมาชมศิลปะเหล่านั้นมันก็คุ้มนะ
นอกจากนี้ ระหว่างที่เราค่อยๆเดินขึ้นบันไดประมาณ 272 ขั้น เราก็จะได้เห็นวิวมุมสูงของเมืองอีกด้วย
แต่อย่าชมวิวเพลินล่ะ เพราะเราจะต้องคอยระวังเหล่าบรรดาลิงต่างๆที่ไต่ตามราวบันไดไม่ให้มันมาขโมยของในกระเป๋า อ้อ แล้วก็อย่าลืมฟิตร่างกายให้พร้อมกันด้วยนะจ๊ะ!
8.ลิตเติลอินเดีย | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
ลิตเติลอินเดีย (Little India) ที่บริกฟิลด์นี่คือแบบเหมือนกับยกเมืองอินเดียมาไว้ตรงนี้เลยจริงๆ เดินไปทางไหนก็ เอ๊ะ นี่เราอยู่อินเดียจริงๆรึป่าว
แต่ก่อนที่จะเตลิดไปกว่านี้ ก็ตั้งสติกันได้ว่าจริงๆแล้วมันก็คือแหล่งรวมวัฒนธรรมอินเดียของชุมชนคนอินเดียรุ่นบุกเบิกนั่นเอง
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สถาปัตยกรรมสีสันสดใส ร้านค้าสไตล์อินเดีย ทั้งร้านขายชุดพื้นเมืองอินเดีย ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขายซีดีแผ่นเพลงอินเดียที่ปลุกให้บริเวณชุมชนเล็กๆแห่งนี้ดูคึกคักและมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด
บรรยากาศทุกอย่างจึงเหมือนกล่อมเราให้นึกว่าอยู่ในอินเดียซะจริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีทีเด็ดตรงร้านอาหารอินเดีย ซึ่งมีเมนูเด็ดเป็นแกงต่างๆอันอุดมไปด้วยเครื่องเทศ กินกับแป้งนานนุ่มๆ หรือข้าวสวยร้อนๆ บอกได้คำเดียวเลยว่าอร่อยมากๆ ทำเอาเราติดใจเลย
9.วัดเทียนฮัว | ที่เที่ยวกัวลาลัมเปอร์
ภาพของโคมไฟแบบจีนสีเหลือง-แดงแขวนอยู่เรียงราย เป็นทั้งจุดเด่นและเอกลักษณ์ของวัดเทียนฮัว (Thean Hou Temple) วัดจีนที่เก่าแก่และใหญ่โตที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างขึ้นเพื่อบูชาเจ้าแม่ทับทิมหรือ เทียนฮัว ตามความเชื่อของคนจีน
มีการตกแต่งสถาปัตยกรรมแบบผสมระหว่างสมัยใหม่และแบบจีนดั้งเดิมของพุทธศาสนาลัทธิเต๋าและขงจื้อ
มีหลังคาทรงจีนลดหลั่นลงมา 6 ชั้น ทั้งยังมีรูปปั้นเสือ มังกร และสัตว์ชนิดต่างๆไปทั่วทั้งบริเวณ เล่นซะเราถ่ายรูปกันจนเพลินเลย
ภายนอกว่าสวยแล้ว แต่ภายในกลับสวยยิ่งกว่าด้วยรูปปั้นเจ้าแม่ทับทิมและรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์โต รวมถึงภาพจิตรกรรมที่แสดงถึงตำนานของจีนเมื่อสมัย 6,000 ปีมาแล้ว
เมื่อเราขึ้นมาถึงด้านบน ก็ยังพบว่าตรงนี้คือจุดชมวิวสวยอลังอีกแห่งของตัวเมืองอีกด้วย ในระหว่างที่นั่งรับลมเย็นๆอยู่นั้น เราก็สังเกตเห็นว่ามีคู่บ่าวสาวพากันมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันที่นี่ ดังนั้น ถ้าใครอยากมาวัดสวยๆละก็ห้ามพลาดวัดเทียนฮัวเด็ดขาดเลย
กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงที่มีการพัฒนาเร็วมากอีกเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความหลากหลายทางเชื้อชาติไม่ได้สร้างความร้าวฉาน แต่กลับกลายเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นของเมืองนี้ไปซะแล้ว ที่เที่ยวแบบครบรส หลากสไตล์ ผู้คนเป็นมิตร และสีสันแห่งวัฒนธรรมอันหลากหลายคือสิ่งที่เราให้อยากคุณมาสัมผัสด้วยตนเอง ใครที่สนใจก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปกัวลาลัมเปอร์กับบางกอกแอร์เวย์สได้เลย บินตรงจากสนามบินสมุยทุกวัน พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิสและห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน จองเลยที่ http://www.bangkokair.com/tha/flightdeals/view/samui-kuala-lumpur
