Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

10 จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม 2568 เปิดโลกใต้ทะเลอันดามัน

10 จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม 2568 เปิดโลกใต้ทะเลอันดามัน
Table of Contents

Bangkok Airways สรุปให้

  • ภูเก็ต หนึ่งในจุดหมายของนักดำน้ำ มีทั้งจุดดำน้ำตื้นใกล้ฝั่งอย่าง เกาะเฮ และเกาะไข่ ไปจนถึงจุดดำน้ำลึกระดับโลกอย่าง King Cruiser Wreck และเกาะสิมิลัน ที่อุดมไปด้วยความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ทั้งปะการังหลากสี ฝูงปลาน้อยใหญ่ กองหินและซากเรือ
  • นอกจากได้ชมความงดงามของโลกใต้ทะเลแล้ว ยังอาจได้ทักทายสัตว์หายากแบบใกล้ชิด เช่น โลมาปากขวดที่เกาะไม้ท่อน ฉลามเสือดาวที่ชาร์คพอยต์ และปลากระเบนราหูหรือฉลามวาฬที่เกาะสิมิลัน โดยเฉพาะช่วงพฤศจิกายน-เมษายน ที่ทะเลอันดาสวยและมีโอกาสพบสัตว์เหล่านี้มากขึ้น

จังหวัดภูเก็ต หนึ่งในจุดดำน้ำชื่อดังของไทยที่ซ่อนโลกใต้น้ำอันงดงาม เต็มไปด้วยแนวปะการังหลากสีและฝูงสิ่งมีชีวิตสุดมหัศจรรย์ Bangkok Airways ชวนคุณเปิดโลกใต้ทะเลอันดามัน กับ 10 จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยมปี 2568 ครบทั้งจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก ที่จะช่วยรีชาร์จพลังกายและใจให้กับคนรักการดำน้ำทุกสาย

รวม 10 จุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกยอดนิยมรอบภูเก็ตปี 2568

1. เกาะเฮ

 เกาะเฮ จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

เกาะเฮ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เกาะคอรัล เป็นเกาะเล็ก ๆ ทางใต้ของภูเก็ตที่มีความงดงามทั้งบนบกและโลกใต้ท้องทะเล โดยเกาะเฮประกอบด้วยหาดชื่อดังสองหาด

โดยจุดดำน้ำของเกาะเฮตั้งอยู่บริเวณอ่าวเล็ก ๆ ของเกาะ ไฮไลต์คือเรือจมขนาดเล็กที่ความลึกประมาณ 8 เมตร รอบ ๆ เต็มไปด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ โดยทั่วไปทัศนวิสัยใต้น้ำอยู่ที่ประมาณ 3-5 เมตร

2. เกาะราชาใหญ่ และเกาะราชาน้อย

เกาะราชา ถือเป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมระดับต้น ๆ ของทะเลอันดามัน โดยเฉพาะสำหรับนักดำน้ำมือใหม่ เพราะมีจุดดำน้ำให้เลือกทั้งแบบดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก ทัศนวิสัยดี น้ำใส และมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยเกาะราชาใหญ่และเกาะราชาน้อย

เกาะราชาใหญ่

เกาะราชาใหญ่เป็นจุดดำน้ำที่สามารถดำน้ำได้ตลอดทั้งปี มีจุดดำน้ำหลายแห่งรอบเกาะ เหมาะกับนักดำน้ำทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้น (Open Water Diver) ไปจนถึงระดับโปร (Advanced Adventurer) 

จุดดำน้ำไฮไลต์ของเกาะราชาใหญ่

  • แนวอ่าว 1-5 (Bay 1-5): แนวอ่าวตะวันออกยอดนิยมของเกาะ น้ำใสมีแนวปะการังน้ำตื้นและทรายขาวเหมาะกับการฝึกดำน้ำ ไฮไลต์อยู่ที่ซากเรือฮารูบี้ (Harruby Wreck) อยู่ระหว่าง Bay 1 และ Bay 2 ที่ความลึกประมาณ 20-25 เมตร และมอเตอร์ไซค์ใต้น้ำสุดเท่บริเวณ Bay 1 ให้เก็บภาพใต้น้ำ
  • Home Run Reef: จุดดำน้ำซากเรือจมขนาดเล็ก ที่ความลึกประมาณ 16 เมตร อยู่ทางเหนือของ Bay 1 แนวหินสลับปะการัง เหมาะกับชมชีวิตใต้ทะเล เช่น ปลาสิงโต ปลาหิน และฝูงปลาหลากหลาย
  • Siam Bay: จุดดำน้ำระดับความลึก 12-18 เมตร สามารถพบปลาประจำแนวปะการังได้หลากหลาย ทั้งปลาหมึก หมึกกระดอง และปลากระเบนจุดฟ้า อีกทั้งยังเป็นจุดดำน้ำกลางคืนยอดนิยม

เกาะราชา จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

เกาะราชาน้อย

เกาะราชาน้อย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะราชาใหญ่ ใช้เวลาเดินทาง 45 นาทีด้วยเรือสปีดโบต ถือเป็นจุดดำน้ำที่นี่มีชื่อเสียง โดยเหมาะกับนักดำน้ำระดับกลางถึงขั้นสูง เพราะบางบริเวณมีกระแสน้ำแรงและความลึกมากกว่า 30 เมตร โดยเฉพาะจุดใต้เกาะที่มีโอกาสพบปลากระเบนราหู (Manta Ray) หรือฉลามวาฬได้ในบางฤดูกาล

จุดดำน้ำไฮไลต์ของราชาน้อย

  • อ่าวกล้วย (Banana Bay): จุดดำน้ำยอดนิยมตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะราชาน้อย ความลึกประมาณ 5-20 เมตร มีโอกาสได้พบกับกระเบนนก
  • อ่าวน้อย (Ao Noi): พื้นใต้ท้องทะเลเต็มไปด้วยกลุ่มหินแกรนิตขนาดใหญ่ รวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมึกแนวปะการัง ปลาสิงโต ปลาแมงป่อง ปลาไหลมอเรย์ยักษ์ และปลากระเบนราหูที่แวะมาทักทายแบบใกล้ชิด
  • เซาต์ทิป (South Tip): จุดลึกสุดทางตอนใต้ของเกาะ ความลึกตั้งแต่ 9-40 เมตร ที่นี่มีโอกาสได้พบปลากระเบนราหูมากกว่าจุดอื่น เหมาะสำหรับนักดำน้ำมีประสบการณ์สูง เพราะกระแสน้ำค่อนข้างแรงและบางช่วงมีกระแสน้ำไหลลงด้านล่าง (Down Current)
ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

3. หาดยะนุ้ย

หาดยะนุ้ย จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

หาดยะนุ้ย ชายหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างแหลมพรหมเทพและหาดในหาน ทางตอนใต้สุดของภูเก็ต เป็นหาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกหลังจากเป็นหนึ่งในโลเคชันของซีรีส์ The White Lotus Season 3

เมื่อดำน้ำลงไปประมาณ 12 เมตร จะเจอรากไม้ขนาดใหญ่ (Corralea Mole) รายล้อมไปด้วยฝูงปลานานาชนิด เช่น ปลาผีเสื้อคอรัล ปลานกแก้ว ปลากบ และบางครั้งอาจเห็นปลาจระเข้ทะเลซ่อนตัวอยู่ตามพื้นทราย เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสธรรมชาติใกล้ชิด

4. เกาะไข่

เกาะไข่นุ้ย หนึ่งในสามเกาะในหมู่เกาะไข่ จุดดำน้ำใกล้ภูเก็ตยอดนิยม

อีกหนึ่งจุดดำน้ำยอดนิยมของภูเก็ตต้องที่หมู่เกาะไข่ ตั้งอยู่ระหว่างเกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต และเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา ใช้เวลาเดินทางจากภูเก็ต 15 นาทีโดยเรือสปีดโบต 

หมู่เกาะไข่ประกอบด้วยเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะคือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นุ้ย และเกาะไข่นอก โดยแต่ละเกาะมีเสน่ห์แตกต่างกัน ดังนี้

  • เกาะไข่ใน: เกาะที่มีชายหาดขาวละเอียด น้ำใสจนมองเห็นฝูงปลาแหวกว่าย เหมาะกับการดำน้ำตื้น ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังหลากชนิด ทั้งปะการังจาน ปะการังเขากวาง และปลาลายเสือ
  • เกาะไข่นุ้ย: เกาะเล็กที่สุดในกลุ่ม ไม่มีชายหาดให้ขึ้นฝั่ง โดยเรือจะจอดให้ดำน้ำหน้าเกาะโดยตรง จุดนี้มีแนวปะการังตื้นที่สมบูรณ์ และมักมีฝูงปลาจำนวนมากว่ายวนอยู่รอบตัว
  • เกาะไข่นอก: ฉายา “ไข่ดาวกลางทะเล” จากน้ำใสที่ไล่เฉดสี ระดับความลึกประมาณ 1-12 เมตร หากโชคดีอาจได้พบโลมาปากขวดว่ายผ่านมาในบางช่วงฤดู (กรกฎาคมและธันวาคม) 

5. เกาะไม้ท่อน

เกาะไม้ท่อน จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

เกาะไม้ท่อน หรือที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักกันในชื่อ “Honeymoon Island” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูเก็ต ห่างจากฝั่งประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 15 นาทีด้วยเรือสปีดโบต โดยรอบเกาะเป็นแนวปะการังน้ำตื้นที่สามารถดำน้ำได้เกือบทุกด้าน 

โดยเฉพาะบริเวณด้านตะวันออกและใต้ของเกาะ ซึ่งมีแนวปะการังแข็งและปะการังอ่อนหลากชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง และฝูงปลานานาชนิดอย่าง ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ ปลาเสือ และหมึกกระดอง ความลึกของจุดดำน้ำที่เกาะไม้ท่อนอยู่ที่ประมาณ 10-12 เมตร เหมาะกับนักดำน้ำทุกระดับ รวมถึงมือใหม่ฝึกดำน้ำ

พบโลมาที่เกาะไม้ท่อน จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

หนึ่งในไฮไลต์ของเกาะไม้ท่อนคือ ฝูงโลมาปากขวด ที่มักปรากฏตัวให้เห็น โดยเฉพาะช่วงเช้า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ซึ่งเป็นฤดูที่ทะเลสงบและน้ำใส แม้จะไม่ปรากฏให้เห็นทุกวัน แต่ก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักดำน้ำหลายคนอยากลองเสี่ยงโชคกับทริปดำน้ำที่นี่สักครั้ง

6. เกาะดอกไม้

เกาะดอกไม้ จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

หนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของคนรักการดำน้ำ ที่เกาะดอกไม้ เกาะหินปูนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูเก็ต ตัวเกาะเป็นหน้าผาสูงโผล่ขึ้นจากน้ำทะเล มักถูกใช้เป็นจุดดำน้ำแรกของทริปดำน้ำระหว่างทางไปยังชาร์คพอยต์ อนีโมนรีฟ และ King Cruiser Wreck 

ที่เกาะดอกไม้เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะแนวผนังปะการัง (Wall Dive) รอบเกาะปกคลุมด้วย กัลปังหา ปะการังอ่อน ดอกไม้ทะเล และฟองน้ำบาร์เรลขนาดใหญ่ ซึ่งดึงดูดสัตว์ทะเลนานาชนิดให้เข้ามาอาศัย รวมถึงสัตว์ขนาดเล็กที่หายาก เช่น ม้าน้ำ ปลาปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ กุ้งนักมวย ปลากบ ปลาสิงโต และปลาแมงป่อง 

บางครั้งที่เกาะดอกไม้ยังสามารถพบฉลามเสือดาว ฉลามพยาบาล หรือแม้แต่ฉลามวาฬ ซึ่งมักจะแวะเวียนผ่านมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายนได้ด้วย

จุดดำน้ำทางด้านตะวันตกของเกาะเป็นแนวผนังดิ่ง (Wall Dive) ที่ลึกประมาณ 25-30 เมตร ส่วนทางด้านตะวันออกมีถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ซึ่งนักดำน้ำสามารถว่ายเข้าไปสำรวจได้อย่างปลอดภัย ด้วยกระแสน้ำที่ค่อนข้างแรง เกาะดอกไม้จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำแบบปล่อยตัวตามกระแสน้ำ (Drift Dive) และยังเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำกลางคืน (Night Dive) ที่สวยที่สุดของภูเก็ตด้วย

7. King Cruiser Wreck

King Cruiser Wreck จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

King Cruiser Wreck จุดดำน้ำซากเรืออับปางที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูเก็ต ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของภูเก็ต เรือ King Cruiser เดิมเป็นเรือเฟอร์รี่บรรทุกรถยนต์และผู้โดยสารที่วิ่งระหว่างภูเก็ตกับเกาะพีพี ก่อนจะประสบอุบัติเหตุชนกับอนีโมนรีฟและจมลงเมื่อปี พ.ศ. 2540 ปัจจุบันซากเรือกลายเป็นแนวปะการังเทียมอันอุดมสมบูรณ์

ตัวเรือมีความยาวกว่า 85 เมตร จมอยู่ที่ความลึกประมาณ 18-33 เมตร จึงได้รับฉายาว่า “ไททานิกแห่งอันดามัน” รอบซากเรือเต็มไปด้วยฝูงปลาสแนปเปอร์ ปลาสิงโต ปลาแมงป่อง รวมถึงฉลามไผ่และบางครั้งอาจพบฉลามเสือดาว หรือเต่าทะเลว่ายผ่าน

ปัจจุบันส่วนของดาดฟ้าและห้องโดยสารพังทลายลงตามกาลเวลา จึงไม่อนุญาตให้ดำน้ำเข้าไปภายในซากเรือ แต่ยังคงเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของภูเก็ต โดยเหมาะกับนักดำน้ำตั้งแต่ระดับ Advanced Open Water Diver ขึ้นไป เนื่องจากระดับความลึกและอาจเจอกระแสน้ำพัดแรง

8. อนีโมนรีฟ

อนีโมนรีฟ จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

ในบริเวณเดียวกับ King Cruiser Wreck ยังมีอีกหนึ่งจุดดำน้ำระดับตำนานของภูเก็ต คือที่อนีโมนรีฟ (Anemone Reef) กองหินปูนใต้น้ำที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ทะเลหลากสีสัน ความลึกประมาณ 5 – 30 เมตร เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ทั้งฝูงปลาการ์ตูนที่ว่ายเล่นอยู่ท่ามกลางดอกไม้ทะเล ปลาไหลมอเรย์ และบางครั้งอาจพบปลากระเบนพักอยู่ตามพื้นทราย 

ช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการดำน้ำที่อนีโมนรีฟ เพราะน้ำใสและมีโอกาสสูงที่จะได้พบฉลาม และด้วยความที่จุดนี้อยู่กลางทะเลเปิด จึงอาจมีกระแสน้ำค่อนข้างแรงในบางช่วง จึงไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นโดยไม่มีผู้ดูแล แต่หากมีการวางแผนการดำน้ำที่ดีและคอยดูแลอย่างเหมาะสม ก็สามารถดำน้ำได้ทุกระดับ

9. กองหินมูสังหรือชาร์ค พอยต์

กองหินมูสัง หรือ ชาร์ค พอยต์ จุดดำน้ำภูเก็ตยอดนิยม

ชาร์ค พอยต์ (Shark Point) หรือกองหินมูสัง เป็นจุดดำน้ำลึกในระดับ 25-30 เมตร ที่อยู่ใกล้กับ          อนีโมนรีฟและ King Cruiser Wreck จุดนี้ได้รับการประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำ ตั้งแต่ปี 1992 จึงเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยชื่อ “ชาร์คพอยท์” มาจากเป็นจุดที่พบฉลามเสือดาว ฉลามพยาบาล และฉลามกบได้บ่อย โดยเฉพาะตอนเช้าในช่วงน้ำใส ซึ่งมักนอนพักอยู่บนพื้นทรายด้านล่างของกองหิน

จุดดำน้ำชาร์ค พอยต์แห่งนี้ประกอบด้วยกองหินปูนใต้น้ำ 3 กอง (Pinnacle Dive) เรียงตามแนวเหนือ-ใต้ ได้แก่

  • กองหินด้านเหนือสุด: เป็นหินพ้นน้ำมีกระโจมไฟสีขาวเป็นสัญลักษณ์
  • กองกลาง: มีความลึกประมาณ 5 เมตร เป็นจุดดำน้ำยอดนิยมที่สุด เต็มไปด้วยปะการังแข็ง กัลปังหา ฟองน้ำครก และดอกไม้ทะเลสีสันสดใส
  • กองใต้สุด: มีความลึกประมาณ 15 เมตร ปกคลุมด้วยปะการังอ่อนหลากสี และเป็นจุดทำ Safety Stop ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต

10. เกาะสิมิลัน

หนึ่งในจุดดำน้ำที่ครองใจนักดำน้ำทั่วโลก โดยเฉพาะสายดำน้ำแบบพักค้างบนเรือ (Liveaboard) ต้องยกให้เกาะสิมิลัน ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ใกล้ภูเก็ต เดินทางง่าย ๆ ด้วยเรือสปีดโบตใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีจากฝั่ง 

ที่เกาะสิมิลันขึ้นชื่อเรื่องแนวปะการังและภูมิประเทศใต้ทะเลที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย มีจุดดำน้ำมากกว่า 20 แห่ง ทั้งแนวปะการังแข็ง ปะการังอ่อน หินยักษ์ และสัตว์ทะเลหายาก เช่น ฉลามเสือดาว ปลากระเบนราหู เต่าทะเล และปลานโปเลียน

พบกระเบนราหูที่จุดดำน้ำ Christmas Point สิมิลัน ใกล้ภูเก็ต

จุดดำน้ำไฮไลต์ของสิมิลัน

  • หินหัวช้าง (Hin Pusar): หนึ่งในจุดดำน้ำที่สวยและท้าทายที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ทางตอนใต้ของอุทยานฯ โดดเด่นด้วยกลุ่มหินแกรนิตขนาดมหึมาที่เรียงตัวเป็นเขาวงกต มีช่องน้ำและซอกหินให้ลอดผ่านลงสู่ความลึกกว่า 40 เมตร
  • คริสต์มาสพอยต์ (Christmas Point): จุดดำน้ำทางตะวันตกของเกาะ 9 มีภูมิประเทศเป็นโขดหิน ปะการังอ่อน และซุ้มประตูโค้งใต้น้ำที่งดงาม ใต้ระดับความลึก 35-40 เมตร ที่นี่อาจพบปลากระเบนราหู หรือปลาไหลริบบินได้ในบางฤดูกาล
  • เบรคฟาสต์ เบนด์ (Breakfast Bend): จุดดำน้ำทางด้านตะวันออกของเกาะ 9 เป็นแนวปะการังแข็งที่อุดมสมบูรณ์ น้ำใสและเต็มไปด้วยฝูงปลาแนวปะการังมากมาย ทั้งปลาสิงโต ปลาผีเสื้อ ปลาสาก และเต่าทะเล ใต้ระดับความลึก 5-34 เมตร

ข้อควรรู้: หมู่เกาะสิมิลันจะปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในช่วงฤดูมรสุม ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 14 ตุลาคมของทุกปี เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดำน้ำภูเก็ต

ดำน้ำภูเก็ตในช่วงเวลาที่ดีที่สุด

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการดำน้ำที่ภูเก็ตคือ ตั้งแต่ฤดูหนาวถึงฤดูร้อน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ทะเลในช่วงนี้สงบ น้ำใส ทัศนวิสัยดี เหมาะสำหรับทั้งนักดำน้ำมือใหม่และนักดำน้ำมืออาชีพ ทั้งยังมีโอกาสพบสัตว์ทะเลหายาก เช่น ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู และโลมา 

สำหรับช่วงมรสุม ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม นักดำน้ำยังสามารถดำน้ำได้ในบางจุดที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเกาะเฮ หาดยะนุ้ย และเกาะไข่ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นใกล้ฝั่งที่มีคลื่นลมไม่แรงมาก แต่ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

รวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับดำน้ำภูเก็ต

มือใหม่สามารถดำน้ำที่ภูเก็ตได้ไหม?

มือใหม่สามารถดำน้ำที่ภูเก็ตได้ โดยมีจุดดำน้ำสำหรับมือใหม่หลายแห่ง เช่น เกาะเฮ เกาะไข่ หาดยะนุ้ย และเกาะไม้ท่อน ที่น้ำตื้น ทะเลใส และคลื่นไม่แรง เหมาะกับดำน้ำตื้นหรือเริ่มฝึกดำน้ำ

ต้องมีบัตรดำน้ำ (PADI/SSI) หรือไม่?

ไม่จำเป็น หากเป็นการดำน้ำตื้นหรือโปรแกรมทดลองเรียนดำน้ำลึก (Discover Scuba Dive) สามารถดำน้ำได้โดยไม่ต้องมีบัตร PADI/SSI เพราะจะมีครูสอนคอยดูแลใกล้ชิด แต่ถ้าต้องการดำน้ำลึกควรมีบัตรรับรองนักดำน้ำ เช่น PADI Open Water Diver หรือ SSI Open Water

ค่าใช้จ่ายดำน้ำที่ภูเก็ตประมาณเท่าไหร่?

ค่าใช้จ่ายดำน้ำที่ภูเก็ตจะแตกต่างกันไปตามเกาะและจำนวนรอบดำน้ำ สำหรับวันเดย์ทริปแบบไป-กลับ ราคาประมาณ 3,200-5,600 บาท ส่วนการดำน้ำแบบพักค้างบนเรือ (Liveaboard) ราคาประมาณ 13,900-64,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและโปรแกรมของทริป

ดื่มด่ำความงามของท้องทะเลภูเก็ตเพิ่มเติม ได้ที่นี่

เปิดประสบการณ์ท่องโลกใต้ท้องทะเลที่ภูเก็ต ไปกับ Bangkok Airways

ดีลดี ๆ เพื่อทริปสุดพิเศษ

ชมความมหัศจรรย์แห่งโลกใต้ท้องทะเลภูเก็ตแบบฟิน ๆ พร้อมดื่มด่ำสีสันแห่งปะการังและฝูงปลาหายากที่รอให้คุณได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เดินทางสะดวกด้วยเที่ยวบินตรงสู่ภูเก็ต โดยสายการบิน Bangkok Airways ที่พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง ด้วยบริการครบวงจร เพื่อให้ทุกช่วงเวลาเต็มไปด้วยโมเมนต์สุดประทับใจ

  • บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
  • น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
  • การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
  • บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน
Share This Story with your travel friends!
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email
Related Posts