Bangkok Airways สรุปให้
- รวบรวม 35 ประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางไปได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน หรือจอร์เจีย และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเลือกประเทศที่ตรงใจและบินไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวชมธรรมชาติ บ้านเมือง หรือการพักผ่อนสุดชิล
- การเดินทางไปยังประเทศฟรีวีซ่าไม่เพียงแค่สะดวกสบาย แต่ยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัว มีเวลาเที่ยวเพียงไม่กี่วัน หรือวางแผนทริปยาว ๆ ก็สามารถจัดกระเป๋าและออกเดินทางได้ทันที
การเดินทางของคนไทยจะง่ายขึ้นกว่าที่เคย ด้วยสิทธิพิเศษที่สามารถเดินทางไปยัง 35 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร เพียงแค่เตรียมพาสปอร์ตและกระเป๋าเดินทางก็พร้อมออกไปสำรวจโลกได้ทันที ด้วยความสะดวกสบายที่มากขึ้น Bangkok Airways พร้อมพาไปยังจุดหมายปลายทางที่หลากหลาย มาดูกันว่ามีประเทศไหนบ้างที่คนไทยสามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ฟรีวีซ่า (Free Visa) คืออะไร?
ฟรีวีซ่า (Free Visa) หรือการเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า คือ การที่นักท่องเที่ยวจากประเทศหนึ่งสามารถเดินทางเข้าประเทศอื่นได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการขอวีซ่าล่วงหน้า ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารและทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเข้าประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่านั้นมักจะมีระยะเวลาที่จำกัด ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละประเทศ
อัปเดต 35 ประเทศที่คนไทยเข้าได้ไม่ต้องขอวีซ่า ฉบับปี 2024
วัน | ประเทศ |
14 วัน | กัมพูชา ไต้หวัน บรูไน บาห์เรน เมียนมา |
15 วัน | ญี่ปุ่น |
30 วัน | สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม จีน ลาว มัสดีฟล์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ มาเก๊า กาตาร์ มองโกเลีย วานูอาตู รัสเซีย ตุรกี คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน แอฟริกาใต้ เซเชลส์ |
60 วัน | คีร์กีซ |
90 วัน | เกาหลีใต้ บราซิล เอกวาดอร์ อาร์เจนตินา ชิลี เปรู แอลเบเนีย |
180 วัน | ปานามา |
365 วัน | จอร์เจีย |
แนะนำ 11 ประเทศน่าเที่ยวที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ฉบับปี 2024
1. ญี่ปุ่น อยู่ได้นาน 15 วัน
ญี่ปุ่นเป็นประเทศในฝันของหลาย ๆ คน ที่สามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านานถึง 15 วัน และใช้เวลาเดินทางจากไทยเพียงประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสายช็อปที่ชื่นชอบการเดินเล่นในย่านชอปปิงชื่อดัง สายมูที่หลงใหลในการเยี่ยมชมวัดและศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน หรือสายสโลว์ไลฟ์ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ญี่ปุ่นมีทุกอย่างให้คุณได้สัมผัสอย่างครบครัน
- โตเกียวทาวเวอร์ หอคอยที่เป็นสัญลักษณ์ของโตเกียว ที่นี่สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโตเกียวได้จากมุมสูงทำให้การมาเยือนที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
- วัดอาซากุสะ วัดที่ศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางความคึกคักของเมืองใหญ่ สามารถไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ ด้านหน้าวัดมีโคมไฟขนาดใหญ่ที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บริเวณรอบวัดยังเต็มไปด้วยร้านค้าและของที่ระลึกมากมายพร้อมสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
- ภูเขาฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวนิยมมาชมภูเขาไฟฟูจิที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะซึ่งโอบล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสีสันและบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล
2. ไต้หวัน อยู่ได้นาน 14 วัน
ประเทศที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนอย่างไต้หวัน ด้วยระยะทางที่ใกล้และการเดินทางที่สะดวกสบาย โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 3 ชั่วโมงจากไทย และสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่านานถึง 14 วัน ไต้หวันเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและความทันสมัยที่สามารถสัมผัสได้จากการเดินชมเมือง สำรวจตลาดกลางคืนที่คึกคัก เต็มไปด้วยอาหารอร่อย ๆ พร้อมสินค้าที่หลากหลาย ที่นี่ยังมีธรรมชาติที่สวยงามรอให้ไปเยี่ยมชมอีกด้วย
- ตึกไทเป 101 สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองแบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันที่มองเห็นเมืองกว้างไกล หรือนั่งที่สกายบาร์ชมแสงไฟในตอนกลางคืน ภายในตึกยังมีแหล่งชอปปิงและร้านอาหารมากมาย ครบครันทั้งการท่องเที่ยวและการสัมผัสกับความสวยงามของเมืองไทเป
- การล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ หรือเดินเล่นรอบทะเลสาบสุริยันจันทรา ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ บรรยากาศรอบทะเลสาบ แถมน้ำยังใสจนสะท้อนแสงได้สวย ไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ในตอนเช้า หรือแสงจันทร์ในตอนกลางคืน ก็มีเสน่ห์ที่ต่างกันไป
- ตลาดกลางคืนซือหลิน ตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไทเปซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิงและลิ้มลองอาหารอร่อยที่มีอยู่ทั่วทุกซอกมุมของตลาด ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของขนมและอาหารหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด เต้าหู้เหม็น ไส้กรอก หอยทอดไต้หวัน แพนเค้กและชานมไข่มุกรสชาติยอดเยี่ยมที่มีราคาย่อมเยา
3. กัมพูชา อยู่ได้นาน 14 วัน
กัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ไทย เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นแหล่งมรดกโลกที่สะท้อนถึงอารยธรรมเก่าแก่ที่มีมาอย่างยาวนาน หรือจุดเช็กอินสวย ๆ ที่รอให้ไปเยือน เหมาะสำหรับคนที่มีวันหยุดน้อยแต่อยากสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หลากหลายได้อย่างเต็มที่ในแบบสบาย ๆ ซึ่งคนไทยสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้นานถึง 14 วัน
- นครวัด หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเขมรในอดีต และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกัมพูชา สามารถเดินชมปราสาทอันงดงาม ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และถ่ายภาพเช็กอินที่จุดชมวิวเพื่ออวดลงโซเชียลได้อีกด้วย อยากรู้ว่าจะวางแผนทริปยังไง ไปช่วงไหนถึงจะดีที่สุด? ตามไปอ่านกันได้ที่ เตรียมสัมผัสมรดกโลก เที่ยวนครวัด เดินทางยังไง ไปช่วงไหนดี
- พระราชวังหลวงพนมเปญ ที่ประทับของกษัตริย์กัมพูชา เป็นสถานที่ที่จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ พร้อมสัมผัสความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของกัมพูชาอย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังได้ชมศิลปวัตถุและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของกัมพูชาอีกด้วย
- ตลาดกลางพนมเปญ มีสินค้าให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ของที่ระลึกอย่างเครื่องประดับเงิน ผ้าห่มทำมือ ผ้านุ่งหรือเครื่องเซรามิกต่าง ๆ ไปจนถึงอาหารท้องถิ่นที่จะให้ได้ลิ้มลองอย่างขนมจีนเขมร ข้าวหมูย่าง หรือแซนด์วิชแบบกัมพูชา ทั้งหมดนี้อยู่ในบรรยากาศการชอปปิงที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยสีสันของวัฒนธรรมท้องถิ่น
4. สิงคโปร์ อยู่ได้นาน 30 วัน
สิงคโปร์ ประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายในการเดินทาง ไม่ว่าจะนั่งแท็กซี่ รถไฟใต้ดิน MRT แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องขอวีซ่าอีกด้วย เพราะคนไทยสามารถเดินทางเข้ามาเที่ยวได้แบบฟรีวีซ่าได้นาน 30 วัน สิงค์โปร์มีทั้งแหล่งชอปปิงที่เต็มไปด้วยสินค้าน่าซื้อ ร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูอร่อยที่ต้องลอง และจุดเช็กอินสุดฮิตที่พร้อมให้ได้ถ่ายรูปเก็บความทรงจำ มาเดินเล่นเพลิน ๆ ชอปปิงจุใจ และสัมผัสบรรยากาศที่คึกคักในเมืองที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร รับรองว่าทริปนี้จะต้องประทับใจแน่นอน!
- มารีน่าเบย์แซนด์ โรงแรมและคาสิโนสุดหรูที่ไม่ควรพลาด มีไฮไลท์อย่างสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้า ชมวิวเมืองสิงคโปร์แบบ 360 องศา พร้อมกับแสงไฟยามค่ำคืน หรือท้องฟ้าสดใสในเวลากลางวัน ทุกช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่จะเต็มไปด้วยความประทับใจและความหรูหราที่ไม่มีที่ไหนเหมือน
- การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะต้องไปเช็กอิน เดินเล่นในสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยพันธุ์ไม้จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ ดอกไม้สวย ๆ หรือพืชหายาก สวนนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ
- ถนนออร์ชาร์ด สวรรค์ของนักชอปในบรรยากาศที่ทันสมัยและคึกคักตลอดทั้งวัน เต็มไปด้วยร้านค้า แบรนด์เนมระดับโลกและห้างสรรพสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะมองหาแฟชั่นใหม่ล่าสุด เครื่องประดับสวย ๆ หรือของฝากพิเศษ ที่นี่มีทุกอย่างให้ได้เลือก
เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่คึกคักและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของสิงคโปร์ สามารถจองเที่ยวบินตรงจากสมุยกับ Bangkok Airways พร้อมความสะดวกสบายในทุกขั้นตอนและบริการที่ครบครันตลอดการเดินทาง
5. ฮ่องกง อยู่ได้นาน 30 วัน
ฮ่องกงเป็น 1 ในประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าก็สามารถเดินทางมาเยือนและเพลิดเพลินกับทุกมุมของเมืองได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน ไม่ว่าจะเป็นความคึกคักของถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีและร้านค้าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว วัดเก่าแก่ที่สายมูต้องชื่นชอบ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่สวยตระการตา ฮ่องกงพร้อมจะทำให้คุณหลงรักในความหลากหลายที่ไม่ซ้ำใคร และทุกการเดินทางที่นี่จะเต็มไปด้วยความประทับใจ
- วัดหวังต้าเซียน วัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และงดงาม เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาไหว้พระขอพรเรื่องสุขภาพและความเจริญรุ่งเรือง ภายในวัดมีสถาปัตยกรรม และสวนที่สวยงาม
- ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง สวนสนุกที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงเต็มไปด้วยเครื่องเล่นสนุกสนาน การแสดงสุดประทับใจ และตัวละครดิสนีย์ที่ทุกคนรัก เป็นสถานที่ที่สร้างความทรงจำที่สนุกสนานและเพลิดเพลินได้ทั้งวัน
- วิคตอเรียพีค จุดชมวิวที่สูงที่สุดในฮ่องกง ทำให้สามารถมองเห็นวิวที่งดงามของเมืองและอ่าววิคตอเรีย ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและเช็กอินลงโซเชียลและสัมผัสความงดงามของฮ่องกงจากมุมสูง
เดินทางสู่ฮ่องกงอย่างสะดวกสบายด้วยเที่ยวบินตรงจากสมุยกับ Bangkok Airways ที่พร้อมพาคุณไปสัมผัสทุกมุมของเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย พร้อมรับการดูแลอย่างใส่ใจและบริการที่ครบครันตลอดเส้นทาง
6. จีน อยู่ได้นาน 30 วัน
ด้วยความงดงามของธรรมชาติที่ชวนให้หลงใหลผสมผสานกับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และวัฒนธรรมที่เข้มข้น ประเทศจีนจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าไปเยือนสักครั้งในชีวิต และที่ดียิ่งกว่านั้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไปสามารถสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ได้แบบไม่ต้องขอวีซ่านานถึง 30 วัน ทำให้การวางแผนท่องเที่ยวจีนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
- กำแพงเมืองจีน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ต้องไปเยือนสักครั้ง ครอบคลุมหลายพื้นที่ในประเทศจีน เป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ บนกำแพงมีด่านให้เป็นจุดเช็กอินและถ่ายรูป เช่น ด่านปาต้าหลิง และด่านจวียงกวนที่จะทำให้รู้สึกทึ่งกับความอลังการและวิวธรรมชาติรอบๆ ที่สวยงามอย่างน่าประทับใจ
- พระราชวังกู้กง หรือพระราชวังต้องห้าม ตั้งอยู่ใจกลางปักกิ่ง เป็นสถานที่ที่เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิจีน พระราชวังนี้กว้างขวางและมีสวนสวยให้เดินเล่น ถ่ายรูป ด้านในเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะจีนที่งดงามให้เดินชมและทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปสัมผัสความรุ่งเรืองและอลังการของยุคนั้นอย่างใกล้ชิด
- หาดไว่ทาน หรือ The Bund เป็นย่านสุดชิคริมแม่น้ำในเซี่ยงไฮ้ที่ผสมผสานเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปเข้ากับบรรยากาศสุดคลาสสิกจนทำให้ใครๆ เรียกที่นี่ว่า “ปารีสแห่งตะวันออก” นอกจากจะได้เดินเล่นเพลิน ๆ ชมตึกสวยแล้ว ยังมีร้านอาหารและจุดถ่ายรูปให้ได้เช็กอินกันแบบจุใจ
7. เวียดนาม อยู่ได้นาน 30 วัน
เวียดนามเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นมิตรที่สัมผัสได้ในทุกที่ สามารถเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าถ้าอยู่ไม่เกิน 30 วัน มาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่เป็นกันเองอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบไหน เวียดนามมีจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์อย่างแน่นอน
- ฮาลองเบย์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม เต็มไปด้วยเกาะหินปูนที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำทะเลสีเขียวมรกตราวกับภาพวาด นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ล่องเรือสำรวจถ้ำที่ซ่อนอยู่ ล่องเรือคายัคชมธรรมชาติ หรือจะพักบนเรือสำราญเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด
- ฮอยอัน เมืองเก่าที่มีเสน่ห์ด้วยบ้านไม้สีเหลืองและโคมไฟประดับทำให้บรรยากาศยามค่ำคืนโรแมนติก เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียล ตรอกซอกซอยในตลาดเก่า อาหารพื้นเมือง หรือวัดวาอาราม ทุกมุมของฮอยอันเต็มไปด้วยความสวยงามที่รอให้ไปเยี่ยมชม
- ซาปา ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและทุ่งนาขั้นบันไดที่เขียวขจี เส้นทางเดินป่าและวิวทะเลหมอกยามเช้าเป็นสิ่งที่ห้ามพลาด นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองที่อบอุ่น พร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงาม
8. ลาว อยู่ได้นาน 30 วัน
ด้วยเสน่ห์แบบดั้งเดิมของประเทศลาว วัดวาอารามที่ประณีต และบ้านเรือนที่คงความเอกลักษณ์ดั้งเดิม การไปท่องเที่ยวที่ลาวก็สะดวกสบายเพราะไม่ต้องใช้วีซ่านานถึง 30 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
- หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เดินเล่นในเมืองเก่าชมวัดวาอาราม สถาปัตยกรรมโบราณ ตื่นเช้าเพื่อร่วมพิธีตักบาตรข้าวเหนียวและลิ้มลองอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ ที่จะทำให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบเต็มอิ่ม
- วัดเชียงทอง เดินชมสถาปัตยกรรมล้านช้างที่สวยงาม พร้อมถ่ายภาพหลังคาโค้งสุดเอกลักษณ์ที่ทุกคนต้องประทับใจ ทำบุญ สวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล เดินเล่นรอบวัดสัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติริมแม่น้ำโขงได้อีกด้วย
- ตลาดเช้าหลวงพระบาง มาสัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเองกับชาวลาวที่ตลาดแห่งนี้ เดินเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองสดใหม่หลากหลาย ขนมพื้นเมือง หรืออาหารเช้าแสนอร่อยอย่างเฝอและข้าวเหนียว และยังมีของที่ระลึกที่ชาวบ้านทำด้วยมือให้ได้เลือกซื้อกลับบ้านด้วย
9. มัลดีฟส์ อยู่ได้นาน 30 วัน
ทะเลสวรรค์ที่ทุกคนใฝ่ฝัน น้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวละเอียด สามารถเข้ามาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่านานถึง 30 วัน จะมาสำรวจโลกใต้ทะเล หรือพักผ่อนก็เป็นเรื่องง่ายและสบายมาก มัลดีฟส์มีทุกอย่างที่ต้องการสำหรับการพักผ่อนในวิลล่าสุดหรูริมหาดส่วนตัว สัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และสร้างช่วงเวลาแห่งความรักที่แสนโรแมนติก
- ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก ฝันที่เป็นจริงของนักดำน้ำ! ด้วยน้ำทะเลใสและแนวปะการังที่สวยงาม ดำน้ำตื้นเพื่อชมปะการังหลากสีสันและปลานานาชนิด หรือเลือกดำน้ำลึกเพื่อสำรวจโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตสุดพิเศษอย่าง ฉลามวาฬ ปลากระเบนราหู และเต่าทะเล
- พักผ่อนรีสอร์ทหรูบนเกาะส่วนตัว สัมผัสกับความเงียบสงบและวิวทะเลที่งดงามจากห้องพักที่เชื่อมตรงไปยังทะเลส่วนตัว และมีดินเนอร์ใต้แสงดาวบนชายหาดที่โรแมนติก และชมพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมดื่มด่ำไปกับความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง
- ทริปชมปลาโลมา มัลดีฟส์ขึ้นชื่อเรื่องการล่องเรือออกไปชมโลมาที่น่ารัก แหวกว่ายและกระโดดขึ้นมาเล่นน้ำรอบ ๆ เรือ เป็นกิจกรรมที่น่าประทับใจและสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวและเด็ก ๆ เหมาะสำหรับการใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศของท้องทะเลที่สวยงาม
10. เกาหลีใต้ อยู่ได้นาน 90 วัน
บรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติกของเกาหลีใต้ เหมือนหลุดเข้าไปในซีรีส์ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่ว่าจะเดินเล่นในกรุงโซล ถ่ายรูปเช็กอินลงโซเชียล หรือสำรวจที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร เกาหลีใต้มีทั้งเมืองที่งดงาม อาหารอร่อย และแหล่งชอปปิงมากมาย ที่สำคัญ คือ สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องขอวีซ่านานถึง 90 วัน แต่ต้องขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศผ่านทางระบบ K-ETA ก่อน
- โซลทาวเวอร์ จุดเช็กอินยอดฮิตที่ต้องไปเมื่อมาเยือนกรุงโซล ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นไปชมวิวเมืองจากมุมสูง หรือการคล้องกุญแจคู่รักที่ระเบียง ทุกมุมของโซลทาวเวอร์เหมาะสำหรับถ่ายรูปสวย ๆ ยิ่งถ้ามาช่วงเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม พร้อมทั้งแสงไฟที่ส่องสว่างทั่วทั้งเมือง
- พระราชวังเคียงบก สถานที่ที่จะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเกาหลีในบรรยากาศที่งดงาม เดินเล่นภายในพระราชวังที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ อย่าลืมถ่ายรูปในชุดฮันบกแบบดั้งเดิมถือเป็นจุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักวัฒนธรรมเกาหลี
- เกาะนามิ สถานที่สุดโรแมนติก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้เปลี่ยนเป็นสีส้ม สีแดง และสีเหลืองสวยงาม การเดินเล่นหรือปั่นจักรยานรอบเกาะเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้หรือริมแม่น้ำ รูปที่ถ่ายที่นี่จะทำให้เพื่อน ๆ บนโซเชียลอิจฉาแน่นอน
11. จอร์เจีย อยู่ได้นาน 1 ปี หรือ 365 วัน
ประเทศจอร์เจียมีทั้งเทือกเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะ ทะเลสาบใส และหุบเขาที่สวยงาม คนไทยสามารถเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถพักได้นานถึง 365 วัน เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างยุโรปและเอเชียทำให้ได้สัมผัสประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลและวิถีชีวิตที่มีสีสัน แถมยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวท้องถิ่น ที่จะทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคนที่นี่ตั้งแต่วินาทีแรกที่มาถึง
- เมืองทบิลิซี เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เดินเล่นในย่านเมืองเก่า เยี่ยมชมโบสถ์โบราณและบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แถมยังมีร้านอาหารท้องถิ่นรสเลิศให้ได้แวะชิมในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองอีกด้วย
- ป้อมนาริกาลา ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองทบิลิซี เป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของเมือง ที่นี่เป็นจุดเช็กอินยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการถ่ายรูปสวย ๆ เก็บความประทับใจของบรรยากาศและชมวิวเมืองทบิลิซีและแม่น้ำคูราที่ไหลผ่านด้านล่าง
- อุทยานแห่งชาติคาซเบกิ สำหรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัยจะต้องหลงรักแน่นอน เพราะจะได้เห็นภูเขาคาซเบกิที่สูงตระหง่านและปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี การเดินป่าในเส้นทางที่สวยงาม หรือเยือนโบสถ์เกอร์เกตี้ตั้งอยู่บนยอดเขา พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาคอเคซัส เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด!
นอกเหนือจาก 11 ประเทศข้างต้นแล้ว Bangkok Airways ยังได้รวบรวมอีกหลายประเทศที่ชาวไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ได้แก่
- ประเทศที่อยู่ได้นาน 14 วัน: บรูไน,บาห์เรน, เมียนมา
- ประเทศที่อยู่ได้นาน 30 วัน: อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเก๊า,กาต้าร์, มองโกเลีย, วานูอาตู,รัสเซีย, ตุรกี, คาซัคสถาน, ทาจิกิสถาน, แอฟริกาใต้, เซเชลส์
- ประเทศที่อยู่ได้นาน 60 วัน: คีร์กีซสถาน
- ประเทศที่อยู่ได้นาน 90 วัน: บราซิล, เอกวาดอร์,อาร์เจนตินา, ชิลี, เปรู, แอลเบเนีย
- ประเทศที่อยู่ได้นาน 180 วัน: ปานามา
การเดินทางท่องเที่ยวไปยัง 35 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างและสถานที่ที่น่าประทับใจ ไม่ว่าคุณจะอยากสำรวจธรรมชาติอันงดงาม ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตท้องถิ่น หรือเพลิดเพลินกับการพักผ่อนสุดชิล ทุกการเดินทางจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความทรงจำที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
เดินทางไปยังประเทศฟรีวีซ่า สะดวกสบายด้วยสายการบิน Bangkok Airways
สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่าง
- ประเทศกัมพูชา ลาว และมัลดีฟส์ ด้วยเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ
- ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง ด้วยเที่ยวบินตรงจากสมุย
ที่มาพร้อมกับการบริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ความสะดวกสบายและคุ้มค่าตลอดการเดินทาง ให้ทุกช่วงเวลาของการเดินทางเต็มไปด้วยความพิเศษและความประทับใจไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะเป็น
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบินล่วงหน้า
- การโหลดสัมภาระ 20 กิโลกรัม
- บริการอาหารบนเที่ยวบิน
- บริการห้องรับรองที่สนามบิน
“ Bangkok Airways, Asia’s Boutique Airline ”