Bangkok Airways สรุปให้
- เมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เหมาะกับการเที่ยวคนเดียว ทั้งชลบุรี ตราด สุโขทัย พิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย แม่งฮ่องสอน ลำปาง น่าน ภูเก็ต สมุย กระบี่ สตูล สงขลา และพังงา เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่วางแผนให้ดี และเตรียมตัวให้พร้อม ก็ออกเดินทางครั้งใหม่ได้อย่างมีความสุขและอิสระในแบบของตัวเอง
- สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนเที่ยวคนเดียว คือ การวางแผนทริปล่วงหน้า การแชร์กำหนดการเดินทางกับคนใกล้ตัว ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่จำเป็น และเตรียมของใช้ส่วนตัวให้พร้อม อย่าลืมสำรวจเส้นทางและจุดหมายที่ปลอดภัย เท่านี้ก็ช่วยให้การเที่ยวคนเดียวเป็นเรื่องสนุก เต็มไปด้วยความประทับใจตลอดทริป
หนึ่งในเทรนด์เที่ยวมาแรงแห่งยุค คือ การเที่ยวคนเดียว เพราะได้ใช้ช่วงเวลาพิเศษอยู่กับตัวเองมากที่สุด ได้ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ และเก็บเกี่ยวเรื่องราวความประทับใจอย่างอิสระ ในบทความนี้ Bangkok Airways คัดสรร 15 ทริปเที่ยวคนเดียวทั่วไทย ที่บรรยากาศดี เดินทางง่าย อาหารอร่อย และที่สำคัญ ผู้หญิงก็สามารถไปเที่ยวได้สบาย มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้ตลอดการเดินทาง
15 ทริปเที่ยวคนเดียวทั่วไทย ค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ที่ประทับใจ
1. ทริปถ่ายรูปสุดชิคที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี

สถานที่เที่ยวคนเดียวยอดฮิตแห่งปี แม้จะมีเวลาน้อยก็ไปได้ ต้องยกให้ “เกาะสีชัง” จังหวัดชลบุรี จุดหมายปลายทางใกล้กรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งกลิ่นอายประวัติศาสตร์ ความสงบ และมุมถ่ายรูปสวย ๆ
- เริ่มต้นด้วยการแวะไหว้ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เกาะสีชังที่ตั้งอยู่บนเขาสูงทางทิศเหนือของเกาะ ชมวิวทะเลในมุมสูง พร้อมขอพรเรื่องหน้าที่การงาน ค้าขายรุ่งเรือง
- จากนั้นแวะ “สะพานอัษฎางค์” หรือ “สะพานแห่งรัก” สะพานไม้สีขาวริมทะเลที่ทอดยาวออกสู่ผืนน้ำ มุมถ่ายภาพสุดคลาสสิกที่ใครมาก็ต้องไม่พลาด
- เดินต่อเข้าสู่ “พระจุฑาธุชราชฐาน” อดีตพระราชวังฤดูร้อนสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสวนร่มรื่นริมทะเล เหมาะกับการเดินเล่นช้า ๆ ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและเรียนรู้เรื่องราวผ่านเรือนจัดแสดงนิทรรศการ
- ก่อนจะไปที่ “ช่องเขาขาด” จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดบนเกาะสีชัง เป็นแลนด์มาร์กถ่ายรูปที่สายมินิมอลต้องหลงรัก เพราะให้ฟีลดีคล้ายมุมฮิตในเกาหลี

- ก่อนจบทริป อย่าลืมแวะ “แหลมถ้ำพัง” หาดเล็ก ๆ ที่น้ำใส เงียบสงบ และคนไม่พลุกพล่าน เหมาะกับการนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือปล่อยใจไปกับการมองทะเลนิ่ง ๆ
- ไฮไลต์อยู่ที่ทางเดินลงไปสู่ “ถ้ำทะลุ” มุมลับสุด Unseen ของเกาะสีชังที่กลายเป็นจุดเช็กอินยอดฮิต โขดหินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นโพรงทะลุกลางผา แนะนำให้ไปในช่วงเช้าระหว่าง 06.30-09.00 น. หรือช่วงเย็นราว 17.30-18.00 น. จะได้ภาพแสงสวยพร้อมเก็บช็อตชิค ๆ อัปลงโซเชียล
- จากนั้นแวะเติมพลังง่าย ๆ ที่ร้านอาหารท้องถิ่นริมทะเลสักมื้อ อาหารทะเลสด ๆ บรรยากาศเรียบง่าย
ทั้งหมดนี้ถือเป็นวันเดย์ทริปเที่ยวเกาะสีชัง ที่แม้จะเป็นการไปเที่ยวคนเดียวและมีเวลาน้อย ก็สามารถเก็บความประทับใจกลับบ้านได้จนล้นกระเป๋า
2. ทริปหลีกหนีความวุ่นวายไปฟังเสียงหัวใจที่เกาะขาม จังหวัดตราด

หลีกหนีความวุ่นวายไปพักใจที่จังหวัดตราด สวรรค์ลับแห่งทะเลตะวันออก สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย ความเงียบสงบที่ชวนให้หลงรัก
- เริ่มต้นทริปด้วยการนั่งเรือข้ามไปยัง “เกาะขาม” เกาะเล็กเงียบสงบที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกมรกตแห่งท้องทะเลตราด” หาดทรายขาวล้อมด้วยป่าอันเขียวขจี น้ำทะเลใสสีมรกต และโขดหินภูเขาไฟสีดำที่วางตัวเรียงราย หนึ่งในไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ ช่วงเวลาน้ำลงจะเผยแนวสันทรายขาวทอดยาวกลางทะเลประมาณ 500 เมตร ให้เดินเล่นหรือถ่ายรูปมุมสวย ๆ

- ต่อด้วยการล่องเรือไปยัง “เกาะหมาก” จะเดินเล่นบนชายหาด พายเรือคายัค หรือนั่งเอนกายชมธรรมชาติใต้ต้นมะพร้าวอย่างอิ่มใจ
- ก่อนจะไป “อ่าวสวนใหญ่” หาดทรายขาวโค้งยาวถึง 2 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะหมาก เป็นอีกหนึ่งมุมสงบที่ชมแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้สวยที่สุดของเกาะ
- ถ้าอยากซึมซับวัฒนธรรมแบบสโลว์ไลฟ์ ก่อนจบทริปแนะนำให้แวะ “วิสาหกิจชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว” แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ยังคงวิถีชาวประมงพื้นบ้าน ชมสาธิตการทำงอบใบจาก ล่องเรือเล็กชมวิถีชีวิตชาวประมง และเดินข้ามสะพานวัดใจ
- ก่อนกลับอย่าลืมซื้อ “ข้าวเกรียบยาหน้า” อาหารทานเล่นของพี่น้องชาวมุสลิมที่ขึ้นชื่อ ติดไม้ติดมือไปฝากครอบครัวหรือคนสนิท
นอกจากอินกับเสน่ห์ของเกาะแล้ว อย่าลืมแวะไปสำรวจมุมอื่นของตราดที่น่าหลงใหลไม่แพ้กันได้ที่ “รวมที่เที่ยวตราดไม่ไปเกาะ เสน่ห์ใหม่ที่รอคุณไปสัมผัส”
3. ทริปเรียนรู้เมืองเก่าที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

สำหรับใครที่อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านการเที่ยวคนเดียวต้องไม่พลาดที่ “สุโขทัย” เมืองหลวงแรกของอาณาจักรไทยที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอดีต
- เริ่มต้นทริปด้วยการเดินทางสู่ “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” ชมเจดีย์เก่า และพระพุทธรูปอันยิ่งใหญ่ ที่วัดศรีชุม วัดมหาธาตุ และวัดศรีสวาย สามารถเช่าจักรยานปั่นชมบรรยากาศโดยรอบได้ในช่วงเช้าและช่วงเย็น
- ออกจากตัวเมือง แวะเติมความสดชื่นเบา ๆ ที่ “สวนสัตว์สนามบินสุโขทัย” สวนสัตว์เปิดขนาดเล็กที่ภายในมีสัตว์จากแอฟริกาหลายสายพันธุ์และฝูงสัตว์ปีกจากแอฟริกาที่มากที่สุดในประเทศไทย ทั้งยีราฟ ม้าลาย สิงโตขาว และฝูงไก่ต็อก พร้อมโซนสัตว์เอ็กโซติกส์สุดน่ารัก เมียร์แคต แพร์รี่ด็อก แมวป่าคาราคัล สุนัขจิ้งจอกสีแดง แรคคูน และเม่นหงอนแอฟริกา ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว

- ก่อนปิดทริป แนะนำให้แวะ “ชุมชนท่องเที่ยวบ้านนาต้นจั่น” หมู่บ้านเกษตรกรรมขนาดเล็กกลางหุบเขา แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เรียบง่ายและความน่ารักของผู้คนในชุมชน กิจกรรมมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งลองทอผ้า ย้อมผ้าหมักโคลน ทำข้าวเปิ๊ป นั่งรถอีแต๊กชมหมู่บ้าน ชมการทำตุ๊กตาบาร์
- อย่าลืมแวะเติมพลังที่ “ตลาดฮิมห้วย” ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น
- ปิดท้ายทริปที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความทรงจำน่าประทับใจด้วยการเดินขึ้น “จุดชมวิวห้วยต้นไฮ” บนเขานารายณ์ เพื่อชมทะเลหมอกไหลเรี่ยตามไหล่เขา

4. ทริปลุยเส้นทางสุดท้าทายที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

กระตุ้นอะดรีนาลีนให้พุ่งฉบับเที่ยวคนเดียวที่พิษณุโลก ด้วยเส้นทางสุดท้าทายที่ “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” ตั้งอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย
- เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติผ่าน “ลานหินแตก” ผาหินขนาดใหญ่ที่เกิดร่องลึก และ “ลานหินปุ่ม” ลานหินธรรมชาติที่มีปุ่มกลม ๆ ผุดมาเรียงราย บริเวณนี้หากโชคดีอาจมีโอกาสได้ทักทายนกนานาชนิดแบบใกล้ชิด เช่น นกตั้งล้อ นกกะลิงเขียดสีเทา นกหัวขวาน จิ๋วท้องลาย และนกศิวะปีกสีฟ้า
- เดินทางต่อไปราว 500 เมตร จะพบ “ผาชูธง” จุดชมวิวที่มีความสูงถึง 1,614 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง หนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกดินที่ดีที่สุด
- หากต้องการชมวิวในมุมที่สูงที่สุด แนะนำให้เดินทางต่อไปยัง “ภูแผงม้า” จุดชมวิวที่สูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ด้วยความสูง 1,775 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง สามารถชมทะเลหมอกได้ในช่วงปลายฤดูฝนถึงสิ้นสุดฤดูหนาว

- หากมาในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะเดือนมกราคม ห้ามพลาด “ทุ่งดอกกระดาษ” ที่จะบานสะพรั่งเต็มพื้นที่เพียงปีละครั้ง ดอกไม้สีชมพู สีเหลือง และสีขาวเรียงรายสลับกันเป็นแนวยาวท่ามกลางอากาศเย็นสดชื่น เหมาะกับการเดินถ่ายรูปสวย ๆ หรือแวะนั่งพักเบา ๆ เพื่อเก็บความสดใสของธรรมชาติหลากสีสัน
- ปิดท้ายทริปที่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วัดพระพุทธชินราช” วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลกกว่า 668 ปี แวะสักการะองค์พระพุทธชินราช พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ได้รับการยกย่องว่างดงามที่สุดในประเทศไทย เพื่อกราบไหว้ขอพร โดยเฉพาะโชคลาภ เงินทอง ความสำเร็จ การงาน ความรัก และแคล้วคลาดปลอดภัย
5. ทริปเติมแรงบันดาลใจที่นิมมาน จังหวัดเชียงใหม่

สายคาเฟที่รักการเที่ยวคนเดียวต้องไม่พลาดเชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาล โดยเฉพาะ “ย่านนิมมาน” แหล่งรวมคาเฟดีไซน์เก๋ที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์
- นั่งจิบกาแฟเงียบ ๆ คนเดียวในคาเฟยอดฮิต หรือเดินเล่นตามซอยเล็ก ๆ แล้วแวะ “วันนิมมานเชียงใหม่” แหล่งไลฟ์สไตล์ที่ผสานกลิ่นอายอินดัสเทรียลลอฟต์เข้ากับท้องถิ่นของนิมมานได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยงานคราฟต์ ของฝากจากเชียงใหม่ และกลิ่นอายความคิดสร้างสรรค์

- จากนั้นเติมแรงบันดาลใจต่อที่ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย MAIIAM” ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่–สันกำแพง ภายในจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยทั้งจากศิลปินไทยและนานาชาติ ที่สะสมมากว่า 30 ปี ครอบคลุมหลากหลายแขนง ทั้งดนตรี ภาพยนตร์ แฟชัน การจัดดอกไม้ ไปจนถึงศิลปะพื้นบ้าน
- ก่อนจะปิดท้ายวันด้วยการฮีลใจที่ “บ้านแกะแม่ขิ” (Maekee Sheep House) ฟาร์มสัตว์น่ารักบนเนินเขาในอำเภอแม่ริม เต็มไปด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้ม เดินเล่นถ่ายรูปกับอัลปาก้าตัวนุ่ม ๆ และเหล่าแกะขนฟูสีขาวที่เป็นมิตรสุด ๆ หรือจะลองให้อาหารน้อง ๆ อย่างใกล้ชิดก็เพลิน ไฮไลต์อยู่ที่กิจกรรมแม่ทูลหัว สามารถตั้งชื่อน้องแกะ อาบน้ำ เป่าขน ภายใต้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์ม ท่ามกลางบรรยากาศสุดอบอุ่น
สำหรับสายขึ้นดอยที่หลงใหลการเติมแรงบันดาลใจให้ชีวิต ด้วยภาพทะเลหมอกและอากาศเย็นสบาย สามารถเก็บพิกัดเพิ่มเติมได้ที่ “อัปเดตที่เที่ยวดอยเชียงใหม่ สูดอากาศดี ๆ รับพลังบวก ให้ใจฟู”
6. ทริปทบทวนจังหวะหัวใจที่ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย

เที่ยวคนเดียวก็สามารถสัมผัสความอบอุ่นได้ที่จังหวัดเชียงราย เมืองเหนือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติและวัฒนธรรม
- เริ่มต้นวันตั้งแต่เช้ามืดที่ “ภูชี้ฟ้า” จุดชมทะเลหมอกชื่อดังใกล้ชายแดนลาว ถือเป็นหนึ่งในยอดดอยที่สวยที่สุดของเมืองไทย เดินขึ้นเขาตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง เพื่อรอชมแสงแรกของวันส่องผ่านแนวสันเขา พร้อมทะเลหมอกที่โอบคลุมเหนือขุนเขา
- จากนั้นไปต่อที่ “ไร่ชาฉุยฟง” แปลงชาเขียวโค้งตัวไปตามเนินเขา นั่งจิบชาอุ่น ๆ ริมคาเฟท่ามกลางอากาศเย็นสบายและท้องฟ้าแจ่มใส เปิดรับวิวแบบพาโนรามา หรือจะก้าวออกไปเดินชมคนเก็บใบชาอย่างใกล้ชิด พร้อมเลือกซื้อชาคุณภาพดีสดจากไร่ติดไม้ติดมือ
- ก่อนจบทริปที่ “วัดร่องขุ่น” หรือที่ต่างชาติรู้จักกันในชื่อของ “วัดขาว” (Thailand White Temple) ศาสนสถานสีขาวบริสุทธิ์อันงดงาม ผลงานศิลปะจากการบูรณะโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่ถ่ายทอดแรงศรัทธาและจินตนาการผ่านทุกรายละเอียด เพียงใช้เวลาเดินชมเงียบ ๆ ก็จะรู้ว่า การเที่ยวคนเดียวเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจกับตัวเอง
7. ทริปสัมผัสม่านหมอกสุดโรแมนติกที่ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน เมืองแห่งสายหมอกที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา หัวใจสำคัญของทริปเที่ยวคนเดียวอยู่ที่ “ปาย” เมืองเล็กที่อบอวลด้วยกลิ่นอายโรแมนติกในทุกมุม โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์
- เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ “จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล” เวลาราว 06.00–07.00 น. เพื่อชมพระอาทิตย์ค่อย ๆ ลอยขึ้นเหนือสายหมอก พร้อมเติมความอบอุ่นด้วยหมั่นโถวและชาร้อน
- จากนั้นไปสักการะพระพุทธโลกุตระมหามุนีสีขาวที่ “วัดพระธาตุแม่เย็น” พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่บนยอดเขา พร้อมชมวิวเมืองปายจากมุมสูงแบบ 360 องศา
- ก่อนเดินทางต่อไปยัง “ปางอุ๋ง” หรือ โครงการพระราชดำริปางตอง 2 ทะเลสาบกลางหุบเขาที่เงียบสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สามารถล่องแพยามเช้าสัมผัสหมอกบาง ชมแสงอาทิตย์สอดผ่านทิวสนแตะผิวน้ำ
- ปิดท้ายทริปที่ “บ้านรักไทย” หมู่บ้านจีนยูนนานริมทะเลสาบ รายล้อมด้วยไร่ชาและบ้านดินสีอบอุ่น จะนั่งจิบชาร้อนมองม่านหมอกลอยคลอเคลียเหนือผืนน้ำ หรือสวมชุดจีนโบราณถ่ายภาพบนเรือโดยมีฉากหลังเป็นหมู่บ้านก็ได้
ตามรอยสถานที่เที่ยวคนเดียวรอบเมืองปาย พร้อมสัมผัสกลิ่นอายโรแมนติกของขุนเขาและสายหมอก ได้ที่ “แจกพิกัด 15 ที่เที่ยวปาย สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกแห่งธรรมชาติ”
8. ทริปนั่งรถม้าชมเมืองเก่าที่อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง

ทริปเที่ยวคนเดียวในจังหวัดลำปาง จังหวัดเล็ก ๆ ที่อบอวลด้วยเสน่ห์คลาสสิก ทั้งวัดวาอารามเก่าแก่ บ้านไม้สักโบราณ และรถม้าคลาสสิกที่วิ่งผ่านไปมา
- เริ่มต้นวันด้วยไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ “การนั่งรถม้าชมเมืองเก่า” ที่เชื่อมต่อกับย่านบ้านเก่าทั้งสาม ได้แก่
- ย่านท่ามะโอ ชุมชนเก่าแก่ที่ยังสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างการทำสวยกาบ เทียนบูชา และตีเกือกม้า
- ย่านกาดกองต้า ตลาดเมืองท่าติดแม่น้ำวังที่กลายเป็นถนนคนเดินสุดคลาสสิก โดดเด่นด้วยเรือนไม้ขนมปังขิง
- ย่านสบตุ๋ย ชุมชนชาวจีนโบราณที่ยังคงความคึกคักของวัฒนธรรมและกลิ่นอายของเทศกาล
- จากนั้นแวะไหว้พระที่ “วัดพระธาตุลำปางหลวง” วัดไม้ศิลปะล้านนาที่เก่าแก่และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ขอพรเสริมสิริมงคลเกี่ยวกับหน้าที่การงาน การค้าขาย และการเริ่มต้นชีวิตใหม่
- แล้วไปต่อยัง “กาดกองต้า” ถนนคนเดินริมแม่น้ำวัง นั่งจิบกาแฟโบราณช้า ๆ พร้อมเก็บภาพบรรยากาศย้อนวันวาน
- ก่อนปิดท้ายทริปอย่างอิ่มใจที่ “อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน” แช่ออนเซนกลางธรรมชาติ ปล่อยร่างกายให้ผ่อนคลายหลังเดินทาง พร้อมต้มไข่ไก่หรือไข่นกกระทาในน้ำแร่ธรรมชาติที่มีอุณหภูมิสูงถึง 73 องศา ราว 17 นาที ได้ทั้งความสบายกาย และอิ่มท้องแบบฟิน ๆ
ศึกษาเส้นทางสัมผัสกลิ่นอายของวิถีชาวล้านนาแท้ ๆ เพิ่มเติมได้ที่ “ที่เที่ยวลำปางยอดฮิต รวมจุดเช็กอินที่ห้ามพลาด”

9. ทริปปล่อยใจไปกับวิถีสโลว์ไลฟ์ที่ปัว-สะปัน จังหวัดน่าน

น่าน จังหวัดเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเรียบง่าย ยิ่งถ้ามาในช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนยิ่งฟิน เพราะจะได้ชมทะเลหมอกยามเช้า รับอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด และทุ่งนาข้าวเหลืองอร่ามที่กำลังออกรวงสวยงามเต็มพื้นที่
- เริ่มต้นทริปเที่ยวคนเดียวด้วยการเดินเล่นยามเช้าที่ “วัดภูมินทร์” วัดเก่าแก่คู่เมืองน่านมากว่า 400 ปี เป็นวัดทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในไทย ไฮไลต์อยู่ที่จิตรกรรมฝาผนังชื่อดัง “ปู่ม่านย่าม่าน” กับท่าทางกระซิบรักที่กลายเป็นภาพจำของเมือง แล้วแวะพักใจเงียบ ๆ ในวิหาร
- ก่อนเดินต่อไปยัง “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน” เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองเหนือ พร้อมชมของหายาก อย่างงาช้างดำ วัดน้อย (วัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย) และเครื่องใช้พื้นบ้านแบบดั้งเดิม

- ต่อด้วยการเช่าจักรยานปั่นชมเมืองผ่านเส้นทางสายวัฒนธรรม แวะ “วัดพระธาตุเขาน้อย” ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่ จุดชมวิวลานปูน จุดชมวิวเมืองน่านจากมุมสูงที่สวยที่สุด และประดิษฐานองค์พระสำคัญ พระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน สักการะเพื่อเสริมสิริมงคล
- จากนั้นมุ่งหน้าไปยัง “บ่อเกลือสินเธาว์” แหล่งกำเนิดของเกลือสินเธาว์ชื่อดัง ชมวิวสองข้างทางเลียบเขา แล้วไปเรียนรู้ภูมิปัญญาทำเกลือแบบโบราณ พร้อมชิมไข่ต้มเกลือสินเธาว์ สัมผัสความอร่อยแบบต้นตำรับ
- ต่อด้วยด้วยการไป “หมู่บ้านสะปัน” หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขา ปล่อยเวลาให้ไหลไปกับกาแฟแก้วอุ่น ชมนาขั้นบันไดจากมุมสูง
- ก่อนปิดท้ายทริปลองแวะ “ปัว” เมืองสงบในหุบเขา ชม “วังศิลาแลง” หรือแกรนด์แคนยอนเมืองปัว แล้วเลือกซื้อของฝากจาก “ลำดวนผ้าทอ” พร้อมนั่งจิบกาแฟ “บ้านไทลื้อ” ท่ามกลางวิวทุ่งนาและผืนฟ้ากว้าง ที่สุดของทริปเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความสุข
10. ทริปเติมสีสันชาร์จพลังชีวิตที่หาดกล้วย จังหวัดภูเก็ต

นอกจากบรรยากาศคึกคักและสีสันยามค่ำคืน สำหรับใครที่อยากเที่ยวคนเดียว เพื่อชมธรรมชาติในบรรยากาศที่แตกต่าง ภูเก็ตก็มีที่เที่ยวน่าสนใจให้เลือกมากมาย
- เริ่มต้นวันแบบสบาย ๆ ที่ “หาดป่าตอง” หาดยอดนิยมที่แม้จะคึกคัก แต่ก็ยังมีโซนเงียบ ๆ ริมชายหาดให้ได้นั่งอาบแดดอุ่น ชมทะเล หรือลองกิจกรรมสุดท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการขับเจ็ตสกีโต้คลื่น พาราเซลลิง บานานา โบต หรือเล่นเซิร์ฟบอร์ด โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมที่คลื่นลมกำลังเหมาะ
- สนุกกันต่อที่ “หาดกล้วย” หนึ่งในหาดลับของภูเก็ตที่คว้าอันดับ 2 ชายหาดที่สวยที่สุดในโลกปี 2025 จาก Tripadvisor ที่นี่เหมาะกับการชมความงดงามที่อุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล หรือเลือกทำกิจกรรมมันส์ ๆ เช่น พายเรือคายัคใส นั่งชิงช้าบานานา สวิง หรือดำน้ำตื้นแบบสบาย ๆ สามารถชมกิจกรรมและปักหมุดพิกัดใกล้หาดกล้วยเพิ่มเติมได้ที่ “พาเที่ยว หาดกล้วย หาดลับภูเก็ต ชายหาดที่สวยติดอันดับ 2 ของโลก”
- ก่อนจบทริปเที่ยวคนเดียวที่ “แหลมกระทิง” จุดชมวิวที่ดีที่สุดของภูเก็ต แม้ต้องเดินเท้าผ่านเนินเขาเล็กน้อย แต่เมื่อถึงปลายแหลม จะได้พบบรรยากาศสงบและชมวิวพาโนรามาของทะเลอันดามันที่สวยงาม
รวมสถานที่เที่ยวคนเดียวทั่วภูเก็ต ครบทั้งทะเล ย่านเก่า และวิถีชีวิตชุมชนได้ที่ “รวมที่เที่ยวภูเก็ต ทริปเดียวคุ้ม ครบทุกกิจกรรม”
11. ทริปเที่ยวคนเดียวชิล ๆ ที่สมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

พักใจ พักความวุ่นวาย มาเที่ยวคนเดียวที่เกาะสมุย เกาะเล็ก ๆ ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- เริ่มต้นวันด้วยการตื่นเช้ารับลมทะเลที่ “หาดเฉวง” ชายหาดทางตะวันออกของเกาะที่ขึ้นชื่อว่า สวยที่สุดและยาวที่สุดในสมุย ด้วยแนวหาดที่ทอดตัวยาวกว่า 6 กิโลเมตร ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักแต่ไม่วุ่นวาย เหมาะกับการเดินเล่นฟังเสียงคลื่น หรือจุ่มตัวลงน้ำรับความเย็น
- ก่อนขึ้นไป “จุดชมวิวลาดเกาะ” ซึ่งอยู่ระหว่างหาดเฉวงและหาดละไม ชมทิวต้นมะพร้าวเรียงตัวตัดกับเส้นขอบฟ้าและทะเลทอดยาวสุดสายตา
- จากนั้นไปที่ “น้ำตกหน้าเมือง” โดยน้ำตกหน้าเมือง 1 เหมาะสำหรับคนที่อยากเดินชิล ๆ เดินทางง่าย ไม่ไกลจากถนนหลัก ส่วนใครที่ชอบความท้าทาย น้ำตกหน้าเมือง 2 ก็รอต้อนรับสายแอดเวนเจอร์
- ก่อนแวะสักการะที่ “วัดพระใหญ่” ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ขอพรเสริมสิริมงคล พร้อมชมวิวสวยของเกาะพะงัน และหาดบ่อผุดจากมุมสูง
- ปิดท้ายวันด้วยการเดินเล่นริมทะเลที่ “หาดตลิ่งงาม” หาดฝั่งตะวันตกของเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า บรรยากาศเงียบสงบ ล้อมด้วยแนวมะพร้าวและต้นไม้อันร่มรื่น เหมาะสำหรับการใช้เวลาเงียบ ๆ เดินเก็บความสุขเล็ก ๆ จากธรรมชาติ
ค้นพบที่เที่ยวคนเดียวรอบเกาะสมุย ครบทุกจุดที่ไม่ควรพลาดที่ “ที่เที่ยวสมุย รวมครบ! หาดสวย วัดดัง และจุด Unseen”
12. ทริปสัมผัสความโรแมนติกแห่งธรรมชาติที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

สัมผัสความโรแมนติกแห่งธรรมชาติ ปล่อยใจไปกับวิวสวยกับทริปเที่ยวคนเดียวที่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่
- เริ่มต้นเช้าวันแรกแบบสดชื่นที่ “สระมรกต” อัญมณีกลางป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม บ่อน้ำสีมรกตใส เหมาะกับการแช่ตัว ท่ามกลางเสียงนกหายาก อย่างนกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล และนกเงือกดำ
- ก่อนแวะเดินเล่นที่ “อ่าวนาง” ย่านท่องเที่ยวยอดนิยมที่ยังคงมีมุมสงบริมทะเลให้ได้ชมอาทิตย์ตกเย็นที่อบอุ่น
- อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ “ทะเลแหวก” ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุด Unseen ที่เชื่อมสามเกาะระหว่าง เกาะไก่ เกาะหม้อ และ เกาะทับ เข้าด้วยกันในช่วงน้ำลด
- จากนั้นแวะขึ้นฝั่งที่ “หาดไร่เลย์” สัมผัสหาดทรายขาวละเอียดโอบล้อมด้วยหน้าผาหินปูนสูงตระหง่าน จะเดินเล่นริมทะเลหรือปีนเขาแบบสายแอดเวนเจอร์ก็ได้ทั้งความเงียบสงบและความท้าทายในทริปเดียว

- วันถัดไป แนะนำให้ออกทริปดำน้ำหรือพักค้างคืนที่ “เกาะพีพี” แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนกระบี่
- สัมผัสเวิ้งอ่าวสีมรกตใส อย่าง “อ่าวปิเละ” และ “อ่าวมาหยา” ที่น้ำใสจนมองเห็นผืนทรายใต้น้ำ เหมาะกับการดำน้ำตื้น พายเรือคายัค หรือจะเดินขึ้นจุดชมวิวที่ “เกาะพีพีดอน” ก็จะได้เห็นทัศนียภาพสุดตระการตาแบบ 360 องศา
- ก่อนปิดท้ายทริปที่ “เกาะเหลาลาดิง” หรือที่เรียกกันว่า “Paradise Island” ด้วยน้ำทะเลใสและหน้าผาโอบล้อมทุกทิศ จะเล่นน้ำหรือนอนชิลริมหาดก็ฟิน เหมาะกับการเที่ยวคนเดียว แบบพักใจใกล้ชิดธรรมชาติ
มากกว่าทะเล กระบี่ยังมีสถานที่เที่ยวคนเดียวอีกมากมายรอให้คุณไปสัมผัส เช็กพิกัดก่อนเดินทางที่ “เปิดลิสต์สถานที่เที่ยวกระบี่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์”
13. ทริปท่องสวรรค์แห่งท้องทะเลที่เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล

ดื่มด่ำความงามของโลกใต้ทะเลที่เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล หนึ่งในสวรรค์ของนักดำน้ำและผู้หลงใหลธรรมชาติ นักเดินทางที่มาเที่ยวคนเดียวสามารถเลือกพักโฮสเทลติดหาด แล้วเดินเล่นชม “Walking Street” ยามเย็นได้อย่างสบายใจ บนเกาะที่ไม่มีรถยนต์ มีเพียงเสียงคลื่นเบา ๆ และแสงแดดยามเช้าที่ตกกระทบผิวน้ำอย่างนุ่มนวล
- ตื่นเช้ามาเดินเล่นบนทรายขาวละเอียดของ “หาดพัทยา” หรือ “หาดบันดาหยา” แค่ก้าวแรกก็เหมือนได้ปล่อยทุกความวุ่นวายทิ้งไว้ ท่ามกลางเสน่ห์ของความเรียบง่าย ความสงบ และทะเลสีฟ้าใส
- กลางวันลองออกทริปดำน้ำแบบครึ่งวันหรือเต็มวัน ไปสัมผัสจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่งดงามระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลนิ่ง เหมาะกับการดำน้ำที่สุด จุดไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือ “ร่องน้ำจาบัง” ที่มีปะการังเจ็ดสีอันโด่งดังให้ได้ตื่นตาตื่นใจ

- จากนั้นแวะชม “เกาะหินงาม” หนึ่งในอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของไทย โดดเด่นด้วยหินสีดำมันวาวเรียงรายแน่นริมชายหาด และ “เกาะกระ” น้ำทะเลใส พร้อมแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ หรือจะพายเรือคายัคแบบชิล ๆ ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
- ยิ่งถ้าได้ปิดท้ายวันที่ “Sunset Beach” มุมดูพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกที่สุดของเกาะหลีเป๊ะ จะยิ่งรู้สึกได้ว่า การมาเที่ยวคนเดียวไม่ได้เหงาอย่างที่คิด แต่เป็นของขวัญล้ำค่า ด้วยการให้ตัวเองได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม
14. ทริปชมหาดใหญ่ ในมุมสงบ จังหวัดสงขลา

สำหรับใครที่มองหาทริปเที่ยวคนเดียวแบบง่าย ๆ ที่มีทั้งธรรมชาติ วัดสวย และมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ หาดใหญ่คือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด
- เริ่มต้นวันด้วยการเติมแรงบันดาลใจที่ “อุทยานวิทยาศาสตร์ ม.อ.” ภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เต็มไปด้วยนิทรรศการ เทคโนโลยี และบรรยากาศแสนสงบ ไฮไลต์คือทางเดินระแนงไม้อุโมงค์มุมถ่ายรูปยอดฮิต พร้อมชมธรรมชาติอันเขียวขจีของทุ่งหญ้าและป่าอุดมสมบูรณ์แบบ 360 องศา เห็นทิวเขาไกลสุดสายตา เหมาะกับคนที่ชอบเดินชิล ๆ และเก็บภาพความประทับใจในมุมลับที่หลายคนยังไม่รู้จัก
- ต่อด้วยการแวะ “วัดเขารูปช้าง” วัดเล็ก ๆ สไตล์พุทธคยาบนเนินเขาอันร่มรื่น ที่โดดเด่นด้วยถ้ำหินงอกหินย้อยให้เดินลอดชมความงดงามภายใน และไปสักการะเจ้าแม่กวนอิมปางประทานพรเทน้ำทิพย์ ขอพรเสริมสิริมงคล
- ก่อนจะปิดท้ายด้วยชมทะเลหมอก พร้อมเก็บไฮไลต์สุดชิลบน กระเช้าลอยฟ้า “เขาคอหงส์” กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของไทย ที่พาเราลอยเหนือเมืองหาดใหญ่ มองเห็นวิวพาโนรามาของเมืองและทะเลสาบสงขลาในช่วงเย็น พร้อมสายลมเย็น ๆ และแสงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า เป็นโมเมนต์เงียบ ๆ ที่คนเดียวก็เพียงพอให้ใจได้พักอย่างเต็มที่
15. ทริปพักใจที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา

พังงา จังหวัดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับนักเดินทางเที่ยวคนเดียวที่ต้องการพักใจและสัมผัสธรรมชาติในมุมที่ไม่วุ่นวาย
- วันแรกล่องเรือใน “อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา” ชมเขาหินปูนกลางทะเลอันดามัน จุดหมายที่ไม่ควรพลาด เกาะปันหยี, เขาตะปู (James Bond Island), เขาพิงกัน, ถ้ำลอด, เกาะห้อง และ เสม็ดนางชี จุดชมวิวชื่อดังที่มองเห็นโค้งอ่าวพังงาได้กว้างสุดสายตา ซึ่งสามารถเลือกเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือพักค้างคืนในโฮมสเตย์ริมน้ำเพื่อชมดาวและฟังเสียงธรรมชาติขับกล่อมอย่างเต็มอิ่ม
- วันถัดไป แนะนำให้ตื่นเช้าและขึ้นไปยัง “จุดชมวิวเขาไข่นุ้ย” ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอตะกั่วทุ่ง ในช่วงเช้าประมาณ 05.30-08.00 น. ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมทะเลหมอกแห่งอันดามันยอดนิยมของภาคใต้ ให้สัมผัสได้ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะได้เห็นทะเลหมอกหนาลอยแทรกตัวตามภูเขาสีเขียวอันงดงาม
- ก่อนจบทริป แวะเดินเล่นใน “เมืองเก่าตะกั่วป่า” ย่านชุมชนที่ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนผสมตะวันตก ผ่านอาคารสไตล์ชิโน-โปรตุกีสอันมีเอกลักษณ์ ทั้งคาเฟบรรยากาศอบอุ่น ร้านขนมโบราณหาทานยาก อย่าง “กี้โก้ย” และ “ม่อฉี”
- หากมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม ต้องไม่พลาด “หลาดเก่าเมืองตะกั่วป่า” บนถนนศรีตะกั่วป่า ซึ่งจัดขึ้นทุกเย็นวันอาทิตย์เวลา 15.00–20.00 น. ให้ได้เดิน ชิล ชอปของฝาก พร้อมชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน สัมผัสเสน่ห์ของวิถีชีวิตในเมืองเก่าที่เรียบง่าย ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาตลอดเส้นทาง
4 สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนเที่ยวคนเดียว เที่ยวสนุก เที่ยวได้ปลอดภัย

1. วางแผนล่วงหน้า
ก่อนออกเดินทางเที่ยวคนเดียว ควรวางแผนล่วงหน้าคร่าว ๆ ว่าจะไปที่ไหน เดินทางอย่างไร พักที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรบ้าง ช่วงเวลาไหนเหมาะที่สุด เพราะการเตรียมแผนไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้จัดการเวลาและงบประมาณได้มีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือ ทำให้เราเที่ยวได้อย่างเต็มอิ่มและอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลกับอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น เช่น สภาพอากาศไม่เป็นใจ สถานที่ไม่สะดวก หรือเรื่องความปลอดภัยระหว่างทาง
2. แชร์แผนท่องเที่ยวกับคนใกล้ตัว
แชร์ข้อมูลการท่องเที่ยวกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทให้รับรู้แผนการเดินทางของเรา ทั้งชื่อที่พัก จุดหมายปลายทาง กิจกรรมแต่ละวัน หรือเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ทั้งตัวเราเองและคนที่ห่วงใย
3. เตรียมแอปพลิเคชันฯ และของใช้จำเป็น
อย่าลืมโหลดแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์ต่อการออกทริปเที่ยว ทั้ง Google Maps แอปฯ จองที่พัก รวมถึงเตรียมของใช้จำเป็นให้ครบ เพื่อให้เที่ยวคนเดียวได้สะดวกมากขึ้น เช่น
- บัตรประชาชน และสำเนาเอกสารสำคัญ
- บัตร ATM และเงินสดเผื่อกรณีฉุกเฉิน
- ยาประจำตัว และยาสามัญเบื้องต้น
- แบตสำรอง และสายชาร์จ
- เสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะกับการเดินทาง
- ของใช้จำเป็นอื่น ๆ เช่น กระบอกน้ำ กระเป๋าคาดอก ไฟฉายพกพา
4. สำรวจเส้นทางและพื้นที่ปลอดภัย
นอกจากเลือกจุดหมายปลายทางแล้ว อย่าลืมสำรวจเส้นทางและพื้นที่ที่จะไปล่วงหน้า โดยเฉพาะจุดเสี่ยงหรือเส้นทางที่ไม่ควรเดินลำพังในช่วงกลางคืน ควรเลือกที่พักที่มีรีวิวดี ปลอดภัย และเดินทางสะดวก เพื่อให้ทริปนี้สบายใจตลอดการเดินทาง
รวมทริกเที่ยวคนเดียวที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง ได้ที่นี่
- วิธีจัดกระเป๋าเดินทางให้ประหยัดพื้นที่ พร้อมเช็กลิสต์ที่ต้องเตรียม
- เปิดเทคนิคเลือกที่นั่งบนเครื่องบินตรงไหนดี บินสบายหายห่วง
- อัปเดต! รวมประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า บินได้ทุกเมื่อที่ใจอยาก
ค้นพบประสบการณ์ใหม่ของการเที่ยวคนเดียว กับ Bangkok Airways

เปิดประตูสู่ประสบการณ์ของการใช้ชีวิตอย่างอิสระในแบบที่เป็นตัวเอง สู่มุมมองใหม่ ๆ ผ่านผู้คน สถานที่ และเรื่องราวที่ยังไม่เคยได้สัมผัส ไปกับสายการบิน Bangkok Airways สู่จุดหมายทั่วไทยด้วยเที่ยวบินเหนือระดับ พร้อมยกระดับความประทับใจตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น
- บริการห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน
- น้ำหนักโหลดกระเป๋าท่านละ 20 กิโลกรัม
- การเลือกที่นั่งบนเที่ยวบิน
- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน