หาดภูเก็ต
เป็นโรคภูมิแพ้การนั่งเรือนานๆค่ะ!! แต่ก็มีความคันอยากจะไป explore ทะเลสวยๆ ถ้านี่คือการเที่ยวสไตล์พวกเธอ งั้นเราคือเพื่อนกันจ้าาา และวันนี้เพื่อนก็จะมาบอกต่อเพื่อนว่า 8 หาดภูเก็ตเด็ดที่ไปแล้วเก็ทกันมากขึ้นกับคนข้างๆโดยไม่ต้องเหนื่อยนั่งเรือออกไปทะเลอันไกลโพ้นให้ผมเสียทรงก็ยังมีอยู่เยอะมากในภูเก็ตเพียงพอสำหรับ 3 วันถ้วน
ทั้ง 8 หาดภูเก็ต ดูผิวเผินก็หาดเหมือนๆกัน แต่ถ้าได้ลองไปสัมผัสจริงๆแบบที่เราไปมา ก็จะรู้ว่ามันมีเสน่ห์แตกต่างกันยังกับพระเอก F4 หล่อเหมือนกันแต่ดีต่อใจคนละแบบ กรี๊ด >< ก่อนที่จะออกนอกเรื่องไปมากกว่านี้ ก็ดึงสติ เช็คสตางค์ตัวเองค่ะว่าพร้อมไหม แล้วขอเวลา 2-3 นาทีอ่านรีวิวฉบับคนขี้เกียจ ขี้เกียจนั่งเรือ ขี้เกียจอ่าน หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่ห้ามขี้เกียจแท็กเพื่อนมาดูรูปแล้วจดชื่อไว้ในลิสท์นะ แล้ว 4 วัน 3 คืนในภูเก็ตจะทำให้เธอจดจำเหมือนบ้าน ไปค่ะ ไปเที่ยวให้สุดแล้วหยุดที่วันลาหมดกัน555
หาดกะรน
เราเลือกหาดกะรนมาแนะนำเป็นอันดับแรกเพราะเห็นมากับตา สัมผัสมากับมือจึงกล้าพูด หาดกะรนทำให้เราสงสัยว่ามีหาดสวยๆแบบนี้บนฝั่ง? คงเพราะเราชินตากับหาดที่น้ำทะเลพอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้มีสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เป็นประกายแบบที่อื่นๆโฆษณา แต่หาดกะรนมาทำให้เรารีเซ็ทความคิดนั้นใหม่ มันคือหาดที่คนไม่พลุกพล่านแบบเหลือเชื่อ น้ำทะเลใสสีฟ้าสวยจนอดไม่ไหวต้องกระโดดโลดเต้นเอาตัวปะทะเกลียวคลื่นแล้วปล่อยตัวลงไปให้ทะเลรองรับ เหนื่อยก็ขึ้นมานอนพักเอนกายบนทรายอุ่นๆสีขาวนวล แล้วแอ็คท่าเผลอๆให้คนข้างๆถ่ายรูปให้กับชุดสวย ทั้งหมดนี้ดูเหมือนไม่มีไรแต่เรากลับใช้เวลาที่นี่นานสุด เพราะแค่มานั่งมองทะเลสงบก็ไม่อยากลุกไปไหนแล้ว
อยากเตือนอีกอย่างว่าร่มสีสันที่ตั้งเรียงรายอยู่นั้นไม่ใช่ของฟรีนะจ๊ะ555 ถ้าจะนั่งต้องเสีย 100 บาท นี่ไม่รู้เลยต้องจ่ายไปเพื่อแลกกับมีที่ร่มๆให้หลบร้อน ซึ่งเอาจริงๆมันก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะถ้าเธอคิดจะนั่งอ้อยอิ่งนานๆ555
หาดยะนุ้ย
ตอนแรกเราก็เฉยๆกับหาดยะนุ้ยตอนขับรถผ่านเพราะถ้าจะไปจุดชมวิวกังหันลมก็ต้องผ่านอยู่แล้ว ซึ่งดูเผินๆก็เหมือนไม่มีอะไร เป็น หาดภูเก็ต ธรรมดาๆที่มีแต่โขดหิน แนวหาดไม่กว้าง แต่ไหนๆก็มาถึงแล้วขากลับเลยอยากจะลองแวะดูเพราะที่จอดรถก็สะดวกมากอยู่หน้าหาดนั้นเลย
พอได้มาสัมผัสจริงๆเรารู้สึกว่าที่นี่มันมีเสน่ห์แบบแปลกประหลาด คงเพราะความไม่สมบูรณ์แบบที่ทำให้มันดูเข้าถึงง่าย มีคนมานอนอาบแดด พายเรือคายัค เล่นเจทสกี เอ็นจอยกับสายลมและกิจกรรมชายหาดไปตามประสา และอีกอย่างที่เป็นกิจกรรมดาวเด่นคือ…ถ่ายรูปนั่นเอง
เหตุผลที่มันเด่นง่ายๆเลยคือ ดงต้นตาลข้างหลังนู่น มันจะสวยมากขึ้นไปอีกยามโพล้เพล้ตะวันใกล้ตกดินเพราะแบ็คกราวน์มันช่างดูคลาสสิกเหมือนเพลงเก่าที่ฟังยังไงก็ไพเราะ ถ่ายยังไงก็สวยเหนือกาลเวลา และอีกจุดที่เหมาะมากในการมาถ่ายชุดว่ายน้ำตัวเก่งก็คือกลุ้มก้อนโขดหินที่กระจุกตัวเหมือนสามเหลี่ยมตั้งอยู่ริมหาดยื่นเข้าไปในทะเลสีฟ้าเรืองรอง อาจจะดูรกตาไป แต่ถ้าเธอมองให้มันอาร์ท มันก็จะดูสวยอาร์ท เท่ๆ ดิบๆ ธีมดาร์กหน่อยๆ หาดยะนุ้ยจึงเป็นอีก หาดภูเก็ต ที่เหมาะกับมาถ่ายรูปเท่ๆและให้ฟีลแบบโก้ๆ
หาดไม้ง้าว หรือ หาดลับ (Freedom Beach)
พักหลังๆนี้เราเจอคอนเทนต์ หาดภูเก็ต ที่เป็นหาดลับเยอะมาก ซึ่งก็งงๆว่าหาดลับคือที่ไหน ยังไง มันมีด้วยหรอ จนได้ลองอ่านรีวิวและตามลายแทงไปในที่สุด หาดลับที่ว่าคือไม่ฟรีและต้องเสียค่าเข้าคนละ 200 บาท ถามว่าแพงไหม ก็แอบแพงนะ555 แต่เราเชื่อว่ามันต้องมีดีแหละ ไม่งั้นคนคงไม่มาจนมันดัง
เริ่มที่ทางเข้าที่ลาดชันมีเชือกให้ไต่ลงเป็นช่วงๆ ความยาวเกือบๆ 700 เมตร ซึ่งเรานั้นสบายมาก เพราะชอบความแอดเวนเจอร์ให้ได้ออกเหงื่ออยู่แล้ว ยิ่งเดินแทนที่จะยิ่งเหนื่อยกลับเป็นปลื้มค่ะคุณขาเพราะเราจะเห็นวิวแว่บๆของหาดจากมุมสูง น้ำทะเลสีฟ้ายิ่งกว่าฟ้า และหาดขาวแบบคลีนๆ
ถัดมาสิ่งที่เราชอบสุดนั่นคือความชิลแบบหาดส่วนตัว ด้วยความที่หาดไม่ได้ขึ้นตรงกับใคร มันเลยไม่มีร้านค้า เก้าอี้ชายหาดหรือของขายต่างๆให้กวนใจคนพักผ่อน เราจึงได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเต็มที่และที่สำคัญ คือไม่ต้องมากังวลว่านั่งตรงนี้แล้วเสียตังค์ไหมนะ ส่วนนึงคงเพราะเสียมาแล้วตอนเข้ามานั่นเอง555
หาดแหลมกา
เอาจริงๆตอนแรกไม่คุ้นว่าหาดนี้คือที่ไหนยังไง แต่คนท้องถิ่นเค้าแนะนำมาว่ายังไงก็ต้องไปนะเพราะหาดมันสวยมาก สวยในสายตาคนภูเก็ต เราเลยต้องลุ้มลุกคลุกคลานหาทางมาจนได้ หาดแหลมกาเป็นหาดยุคแรกๆในช่วงที่ภูเก็ตเพิ่งจะบูมสมความเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งภาคใต้ แต่กลับเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยจะมากันและฝรั่ง & ทัวร์จีนก็ยังไม่ค่อยรู้จักกันอีกด้วย มันจึงเป็นหาดในเพียงไม่กี่หาดที่เหมือนสงวนไว้ให้คนท้องถิ่นพาลูกเล็กเด็กแดงมาชิลช่วงวันหยุด
หาดแหลมกามีความสงบมากที่สุดบนเกาะเลยมั้ง นี่ไม่ได้เวอร์นะ แต่มันสงบจริงๆ เพราะแม้แต่ร้านอาหาร สปา แหล่งช้อปปิ้งก็ไม่มีจ้า จุดรับส่งหรือแท็กซี่บริการนักท่องเที่ยวก็ยังไม่มี เราจึงแนะนำว่าให้เช่ารถแล้วขับตามแมพมาจะดีกว่า ซึ่งเอาจริงๆก็หาไม่ยากเพราะหาดแหลมกาอยู่ใกล้หาดราไวย์แค่ 500 ม. มันจึงไม่ได้ลึกลับจนมายากขนาดนั้น555 หาดแหลมกาจึงสงบ สะอาดและมีเสน่ห์แบบโลคอลคูลๆ
หาดในหาน
หาดในหาน เป็น หาดภูเก็ต ที่ไม่เด่นเท่าไหร่เรื่องทรายขาว น้ำใส แต่เราชอบความกระจุกตัวอิงแอบอยู่ในมุมเล็ก เป็นมุมที่คนโลคอลชอบมาปูเสื่อนั่งปิคนิคกัน แต่ก็ไม่ได้ไปนั่งบนทรายร้อนไรขนาดนั้นนะหรอกนะเพราะพื้นที่ข้างบนหาดคือป่าร่มรื่นกับต้นไม้สูงใหญ่ เธอจึงสามารถหาสักมุมร่มๆแล้วกินไรเพลินๆ ของกินก็หาได้ตามร้านรถเข็นแถวนั้นเลยจ้า มีทั้งส้มตำ ไก่ย่าง เครป ไอติมทอด ผลไม้ต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่าการได้มานั่งกินส้มตำชายหาดเป็นอะไรที่ได้มู้ดสุด จึงไม่มีรีรอสั่งมาซัก 2-3 อย่างก่อนจะไปจัดหนักซีฟู้ดในมื้อเย็น ส่วนที่เป็นร้านไปเลยก็มีนะ แต่ฝรั่งจะนั่งกันเยอะหน่อย เราอยากได้ความชิลแบบนั่งเสื่อกินไรง่ายๆมากกว่า เพราะการมาปิคนิคแบบนี้คงไม่ได้ทำกันบ่อยๆ555
หาดในหานอยู่ใกล้กับจุดชมวิวแหลมกระทิงมาก จากหาดก็ขับรถลัดเลาะไปตามทางริมเขาเล็กๆแล้วมันจะสวยมากตอนเธอมองย้อนกลับมา ความโขดหิน ความร่มรื่นของป่าด้านหลังบวกกับเสน่ห์ของทะเลที่ไม่ว่ายังไงก็ดูดี จะทำให้เธอต้องบอกคนขับให้จอดแล้วถ่ายรูปเหมือนที่เราทำมาแล้ว555 ก็มันสวยจริงๆนี่นา สวยจนเราแอบเห็นมีคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้งที่นี่กันด้วยนะคะ อิจฉาตาร้อนไปอีก ><
*สำหรับใครที่คิดจะไปแหลมกระทิง บอกไว้ก่อนเด้อว่าขับรถเข้าไปไม่ได้นาจา เพราะทางมันจะตันที่โรงแรม Baan Krating Phuket Resort เราจึงต้องจอดรถแล้วเดินเท้า (กึ่งเดินขึ้นเขา) เข้าไปประมาณ 200 เมตร แต่ทางค่อนข้างชันและต้องปีนป่ายบ้างเล็กน้อย ซึ่งใช้เวลาราวๆ 30 นาที ถึงจะดูรีวิวว่ามันสวยขนาดไหน แต่ด้วยทริปที่แน่นมากเราจึงจำเป็นต้องประหยัดพลังงาน+เวลาจริงๆค่ะ เลยต้องตัดใจไม่ไป แต่ถ้าใครมุ่งมั่นว่าจะต้องมาให้ได้ ก็อย่าลืมเตรียมแรงกาย แรงใจให้พร้อมด้วย เตือนละน้า ^^
หาดกะตะน้อย
หาดกะตะน้อยมาในคอนเซปต์คล้ายกับหาดในหาน คือเป็นหาดในมุมในซอกเหมือนกันแต่จะไฮโซกว่าเพราะแวดล้อมไปด้วยโรงแรมราคาไม่ค่อยจะดีนัก และด้วยความที่โรงแรมมันเยอะมาก อีกทั้งดงต้นไม้หนา สิ่งเหล่านี้เลยบดบังหาดกะตะน้อยจากสาธารณะ ถ้ามาขับรถหวังจะเห็นหาดก็คงไม่ได้เห็นอะ555 ต้องหาที่จอดแล้วเดินเข้าไปอย่างเดียวเลยจ้า แล้วที่จอดรถก็หายากมากเพราะมันไม่มีลานกว้างให้มาจอดรถเลย มันเลยดูกึ่งลึกลับและเข้าถึงยาก เราเลยนิยามให้ตามฉบับเราเองว่ามันคือ หาดภูเก็ต ที่ไฮโซซซ
แต่มันก็มีข้อดีอยู่นะ ไม่งั้นเราคงไม่แนะนำแหละ หาดกะตะน้อยเป็นหาดที่คลีนมาก แทบไม่มีขยะ น้ำทะเลก็สีสวยออกแกมเขียวอมฟ้านิดๆ ซึ่งเราก็ไม่แปลกใจเพราะมันอยู่ถัดจากหาดกะรนไปเพียงแค่ 4 กิโลเท่านั้น แต่ก็อยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่าน้ำทะเลฝั่งนี้สวยเป็นพิเศษเลย ในวันไหนที่เธออินกับมู้ดความทะเลมากๆ เราก็แนะนำว่าให้เริ่มไปที่หาดกะรนก่อน แล้วแวนซ์มาต่อที่หาดกะตะน้อย ก็จะฟินแบบพีคๆไปอีกค่า
หาดราไวย์
แว่บแรกที่เห็นคือหาดไม่ได้สวยขนาดนั้นนะ เป็นเหมือนหาดที่เรือสปีดโบ๊ทมาจอดซะส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่กู้หน้ากู้ตาให้หาดราไวย์ได้คืออาหารทะเลจ๊ะ หาดราไวย์ขึ้นชื่อมากในด้านความจัดจ้านของร้านซีฟู้ด ถ้าเสิร์ชหาในเน็ตมันก็ขึ้นแนะนำที่นี่แหละ แล้วยิ่งพนักงานโรงแรมที่เรามาพักแนะนำว่า ถ้าอยากจะกินซีฟู้ดก็ต้องมาย่านนี้ก็ยิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก ไม่รู้จะเคยคุ้นๆกันบ้างไหมกับ ‘ตลาดซีฟู้ดราไวย์’ อารมณ์คล้ายๆตลาดซีฟู้ดเหมือนที่พัทยาแหละ มีแผงขายอาหารทะเลสดๆ ราคาถูกที่ถูกใจเราดีจริง
เราก็เลือกซื้อได้เลยว่าอยากกินอาหารทะเลไรบ้าง จากนั้นก็เอาไปให้ร้านฝั่งตรงข้ามจัดการเผาและปรุงตกแต่งเป็นเมนูพร้อมเสิร์ฟตามที่เราบัญชา อร่อยฟินกว่าที่เคยกินในกรุงเทพมากๆค่ะ แต่ถ้าใครไปไม่ทันตลาดปิดซะก่อน ก็ยังมีร้านซีฟู้ดเรียงรายอยู่มากมายจ้า อุ่นใจว่าได้กินแน่นอน555 ซึ่งราคาก็ไม่แพงแบบที่เราคิด เพราะเราสั่งทั้งกุ้งเผา ปูนึ่ง หอยแครงลวก และต้มยำทะเลรวมแล้วก็พันนิดๆ อิ่มจนเอียนแถมยังเหลือตังค์ไว้ให้เที่ยวจนจบทริปจ้า
หาดลายัน
มีราไวย์แล้วก็ต้องมีลายัน ไม่งั้นเหมือนไม่ครบคู่555 หาดลายันคือหาดที่ชื่อไม่คุ้นหูเลย ไม่ได้ขายดีเหมือนหาดอื่นๆ แต่เป็นหาดที่หลบหลีกความจอแจและความช้ำจากหาดอื่นๆในภูเก็ตได้ดีทีเดียว การเดินทางเอาจริงๆก็ตาม Google Map มาแหละ ขับรถเข้าไปทางเดียวกับทางเข้า Laguna Phuket ซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยวหรือในหลืบอะไรขนาดนั้นนะ พอมาถึงก็จะเจอลำคลองลายัน ซึ่งดูโลคอลดีจัง เป็นที่ที่ให้ชาวประมงนำเรือเข้ามาหลบมรสุมต่างๆ ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูปอาร์ทๆให้รูปมันบอกเล่าสตอรี่ได้ เราว่าลำคลองบ้านๆแบบนี้แหละ ที่พอถึงเวลาถ่ายกลับขึ้นกล้องดูดีมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ส่วนด้านซ้ายก็จะเป็นทะเลและหาดทรายใต้ร่มเงาสวนสน บรรยากาศร่มรื่นเหมาะกับมาปิคนิคคล้ายๆหาดในหาน แต่ด้วยความที่มันอยู่ภายใต้การดูแลของกองอุทยานแห่งชาติจึงทำให้ที่นี่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างของเอกชนใดๆ มันจึงสงบ ไร้เสียงเจี๊ยวจ๊าว แม้แต่ทะเลก็ยังสงบ ไม่มีคลื่นซัด กระตุ้นให้เราอยากลงไปว่ายน้ำที่สุด
ไกลๆนั้นยังมองเห็น เกาะกะทะ ได้ด้วยนาจาา การมาหาดลายันจึงให้ความรู้สึกกึ่งมาติดเกาะหน่อยๆ ทั้งที่จริงอยู่บนฝั่งนี่เอง ใครที่อยากถ่ายบิกินี่แต่มีความเหนียมอายคนเยอะ แนะนำให้มาหาดลายันเลยจ้า ไพรเวทสุดไรสุด
และท้ายสุดไม่ได้จะมาขายของแต่จะมาแนะนำสายการบินที่ให้ความคุ้มค่าตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวขึ้นเครื่อง นั่นคือออ…บางกอกแอร์เวย์สนั่นเองจ้า บินไปภูเก็ตกับบางกอก เดินตัวเบาขึ้นเครื่องได้เลยเพราะเราให้โหลดกระเป๋าฟรีได้ถึงคนละ 20 กิโล!! ไม่ต้องซื้อที่นั่งชั้นธุรกิจก็มานั่งเลาจ์น ชิมข้าวต้มมัดยายฟูได้จ้าา สนใจจองตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ต ก็คลิกที่ลิงก์นี้ได้เลยเด้อ https://www.bangkokair.com/tha/flightdeals/view/phuket